สเตฟาน คุนท์ซ เทรนเนอร์ เยอรมนี พาทีมผ่าน ฮอลแลนด์ 2-1 ในรอบรองชนะเลิศ เมื่อวันพฤหัสบดี กรุยทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศครั้งที่สามติดต่อกัน หลังจากปี 2017 ครองแชมป์จากการชนะ สเปน และปี 2019 แพ้ต่อ สเปน
สภาพทีม คุนท์ซ หวังว่า โยชา วานโยมัน แบ็กขวาตัวหลักจะฟิตสมบูรณ์เต็มร้อย หลังบาดเจ็บจนได้แค่นั่งสำรองนัดก่อน นอกนั้นไม่น่าเปลี่ยนแปลง ลูคัส เอ็นเมชา กับ โฟลเรียน เวียร์ตซ์ เป็นสองตัวหลักในแนวรุก
โปรตุเกส
รุย จอร์จ เฮดโค้ช โปรตุเกส พาทีมเฉือน สเปน 1-0 ประตูเดียวจากการทำเข้าประตูตัวเองของ ฆอร์เก้ เกวนก้า กองหลังคู่แข่ง เป็นการผ่านเข้าชิงหนที่สาม หลังจากสองครั้งก่อนปี 1994 กับ 2015 อกหักเป็นรองแชมป์มาตลอด
สภาพทีมไม่มีปัญหาให้ต้องกังวลมากนัก อับดู กอนเต้ น่าจะยึดตัวจริงแบ็กซ้ายต่อไป ตำแหน่งอื่นๆ ก็คาดว่าจะไม่เปลี่ยน ฟาบิโอ วิเอร่า ปั้นเกมรุกอยู่ด้านหลังสองกองหน้า ราฟาเอล เลเอา กับ ดานี่ โมต้า ดาวเด่นของทีม
11 ผู้เล่นตามคาด
เยอรมนี (4-3-3) : ฟินน์ ดาห์เมน - โยชา วานโยมัน, อามอส พีเปอร์, นิโก้ ชล็อทเทอร์เบ็ค, ดาวิด เราม์ - อาร์เน่ ไมเออร์, นิคลาส ดอร์ช, ซาลีห์ เอิซชาน - โฟลเรียน เวียร์ตซ์, ลูคัส เอ็นเมชา, เมอร์กิม เบริชา
โปรตุเกส (4-1-2-1-2) : ดีโอโก้ คอสต้า - ดีโอโก้ ดาโลต์, ดีโอโก้ เคยรอส, ดีโอโก้ เลเต้, อับดู กอนเต้ - ดาเนียล บรากานชา - วิตินญ่า, เชดซอน แฟร์นันเดส - ฟาบิโอ วิเอร่า - ดานี่ โมต้า, ราฟาเอล เลเอา
ผู้ตัดสิน : จอร์จี้ ครูอาชวิลี่ (จอร์เจีย)
สนาม : สโตซิเช่ สเตเดี้ยม, ลูเบลียน่า, สโลวีเนีย