อาจไม่ถึงกับอยู่ในเรดโซน แต่ก็มีคะแนนห่างจาก 1 ใน 5 ทีมที่ต้องตกชั้นเพียง 2 คะแนน
บิดเข็มนาฬิกากลับไป สถิติที่น่าสนใจของ สุพรรณบุรี เอฟซี คือพวกเขาเป็นทีมที่เสียประตูไปเพียง 25 ลูก ซึ่งน้อยเป็นอันดับ 2 ของลีกรองจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงทีมเดียวเท่านั้น
เสียประตูน้อยสุดเป็นอันดับ 2 ทว่าอยู่ห่างจากกลุ่มตกชั้นแค่เอื้อม ตลกไหมล่ะ!
นอกจากนี้ “ช้างศึกยุทธหัตถี” แพ้ไปเพียง 7 นัดในฤดูกาล มีแค่ทีมอย่าง บุรีรัมย์, ทรู แบงค็อก และ เมืองทอง สโมสรหัวตารางที่แพ้น้อยกว่า ตลกอีกไหมล่ะ!
ใช่ … สิ่งที่เป็นปัญหาของ “เดอะ วินเทจทีม” หรือแฟนบอลทั่วไปแซะว่า “บ้านพักคนชรา” กลับเป็น “ผลเสมอ” ที่มากเกินไป พวกเขาจบ 90 นาทีด้วยการแบ่งแต้มไปถึง 11 นัด ในฤดูกาลนี้ หลังผ่าน 24 เกม
แม้ช่วงกลางเลกแรกเกมรับจะแนวแน่นหนึบ ไม่ปราชัยติดกันถึง 10 นัด แต่ก็เป็นการชนะแค่ 4 เกม และเสมอถึง 6
อีกอุปสรรคของทีม ที่ตัวเลขตอบแทนได้ดีคือ สุพรรณบุรี ทะลวงตาข่ายคู่แข่งไปเพียง 28 ตุง น้อยกว่าทีมท้ายตารางอย่าง ราชนาวี, สุโขทัย หรือ โปลิศ เทโร เสียอีก
นอกจากจะเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการไม่ได้ในหลายนัด “เกมรุก” ก็กันมาอยู่อยู่ในขั้นโคม่า
โรมูโล คาบราล ดาวยิงวัย 27 ปี กลายเป็นความหวังสูงสุดในทีมไป หลังผู้เล่นคนอื่นไม่สามารถช่วยผลิตสกอร์ได้ แต่ 9 ประตูที่ทำได้ ดูเหมือนยังไม่พอ ขณะที่กองหน้าสัญชาติไทยอย่าง ชนานันท์ ป้อมบุบผา ซัดไปเพียง 2 ตุง
หลังตลาดเลกสองเปิด ทางเลือกของ สุพรรณบุรี มีเพียงชอยส์เดียวคือ หามือปืนคนใหม่เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระ คาบราล และถีบส่งแนวรุกที่พึ่งพาไม่ได้กลับบ้าน
หวยไปออกที่ โรดริโก แวร์จิลิโอ บราซิเลียนจากซุ้มนาวี มีประสบการณ์กับสโมสรในไทย อายุอยู่ในเกณฑ์เข้าก๊วน “บ้านพักคนชรา” ได้ แบบนี้ “ช้างศึกยุทธหัตถี” ชอบ
แต่ตลกร้ายคือหมอนี่ดันมา “เจ็บ”
สโมสรไม่มีทางเลือก นอกจากหาผู้เล่นใหม่เพิ่ม หลังเปิดพจนานุกรมลูกหนัง รับฟังความเห็นเอเย่นต์บ้างประปราย กลายมาเป็น เคลตัน ซิลวา มือปืนพระกาฬวัย 31 (อายุอยู่ในเกณฑ์ที่ทีมชอบอีก) ผู้ตกอับจากเมืองเหนือ เข้ามาเป็นคู่หู คาบราล
หลังต้อง “ผิดหวัง” ถูกขโมยวิญญาณเพชฌาตในแดนล้านนา เคลตัน ซิลวา เริ่มใหม่ กับ สุพรรณบุรี และเหมือนเขาจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้เร็ว และทำได้ดีเลยทีเดียว หลังช่วยทีมกดไปแล้วถึง 4 ตุง ในเลกที่สอง
แน่นอนส่วนหนึ่งต้องให้เครดิต ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก ที่รู้จักมักจี่ มีคู่มือการใช้งานของ เคลตัน เกมรุกที่หายไป ค่อยๆหวนกลับคืนมาอีกครั้ง
แต่…เกมรับที่เคยแกร่งดังหินผา กลับมา “หลุดง่าย” เฉย
7 นัดในเลกที่สองล่วงผ่า น สุพรรณบุรี เสียไปถึง 12 ประตู (ครึ่งหนึ่งของจำนวนประตูที่เสียไปในเลกแรก)
ตัวเลข 10 นัดหลังสุดของทีมเมืองขุนแผน เก็บชัยชนะได้เพียงนัดเดียว คือเกมที่เอาชนะ ราชนาวี ที่เหลือคือ แพ้ 6 เสมอ 3
เลกแรก เกมรับดี เกมรุกแย่
เลกสอง เกมรุกดี เกมรับแผ่ว
กลายเป็นอะไรที่สวนทางกัน ทั้งสองอย่างไม่บาลานซ์กันเฉย
เหลียวมองโปรแกรมที่เหลืออีก 10 นัด สุพรรณบุรี ต้องเจอกับทีมอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เอสซีจี เมืองทองฯ, การท่าเรือ เอฟซี, พีที ประจวบ หรือทีมหนีตกชั้นอย่าง บีจีเอฟซี
แหงล่ะ เป็นงานที่หนักอึ้งและรากเลือดเลยทีเดียว
ถึงตอนนี้เชื่อว่า “โค้ชเบ๊” และทีมงานรู้ “ปัญหา” ที่เกิดขึ้นกับทีมอยู่แล้ว แต่จะแก้สมการลูกหนังนี้อย่างไรให้ลงตัวและตอบโจทย์ด่วนที่สุดคงต้องสุมหัวช่วยกัน
อย่าลืมว่าซีซั่นนี้มีทีมที่ไม่ได้ไปต่อถึง 5 การแข่งขันย่อมเดือดดาล และระอุกว่าฤดูกาลที่ผ่านๆมา หากยังสะดุดหกล้มเป็นแผลเช่นนี้เรื่อยๆ เมื่อรู้สึกตัวอีกที อาจพบตัวเองจมอยู่ในโซนตกชั้น
เพราะโลกลูกหนังถูกขับเคลื่อนโดยมนุษย์…และบางครั้งมันอาจไม่หยุดรอ
