:::     :::

เสียใจแน่หากแชมป์ไม่ตั้งที่แอนฟิลด์

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2018-19 ลากมาตัดสินถึงนัดปิดฤดูกาลเมื่อจ่าฝูง แมนฯ ซิตี้ กุมชะตาในมือตัวเองนำหน้าอันดับ 2 ลิเวอร์พูล เพียงหนึ่งคะแนน ฐานะเด็กหงส์ยังเชื่อว่าจะมีปาฏิหารย์เกมอาทิตย์นี้แต่หากไม่เกิดขึ้นก็คงปวดใจเหมือนกัน

ภาพรวมงานแถลงความพร้อมของผจก.ทีม ทั้งสองค่ายเป็นไปในทางสุภาพอ่อนโยน ไม่งัดวิชามารมากดดันใส่กันให้เคืองหู  

เริ่มจาก โจเซป กวาร์ดิโอล่า เจ้านายใหญ่ ซิตี้ พูดถึงผลงาน 'หงส์แดง' เมื่อมิดวีกที่โค่น บาร์เซโลน่า ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก แบบลุ้นระทึกว่าน่าประทับใจ 

"พอเอ่ยชื่อสนาม แอนฟิลด์ เราต่างก็ทราบว่าที่นั่นเป็นอย่างไร ... ต้องขอบคุณพวกเขาที่สร้างผลงานอันน่าทึ่งแก่พวกเราฐานะผู้ชม" เป๊ป สวมบทลิ้นการทูต 

ดูสถานการณ์แย่งแชมป์เวลานี้ 'หงส์แดง' อันดับสองมีอยู่ 94 แต้ม ตามหลัง ซิตี้ จ่าฝูง 1 คะแนน โดยทั้งสองค่ายจะเล่นปิดฤดูกาลพร้อมกัน 12 พ.ค. โดยที่ คล็อปป์ เปิดบ้านพบ วูล์ฟส์ ส่วน 'เรือใบสีฟ้า' ออกเยือน ไบรท์ตัน  


เป๊ป ทำหยอดคำหวานชื่นชม ลิเวอร์พูล แต่ก็มิวายแขวะ

เงื่อนไขที่แชมป์จะประดับ ณ แอนฟิลด์ก็คือพวกเขาคว้าชัย แล้วแช่ง ซิตี้ สะดุดเจ๊าหรือแพ้ ณ ดิ เอเม็กซ์ 

งัดเอาตัวเลขสถิติอันน่าสนใจของค่ายแย่งเกียรติยศ ต่างมีจุดเด่นแตกต่างกันไป 

ลูกน้องของ กวาร์ดิโอล่า โดดเด่นเรื่องเกมรุก สร้างสรรค์ได้ดีกว่าอย่างโอกาสยิงเข้ากรอบข่มอยู่ 30 หน, ผ่านบอลสำเร็จ 1,874 ครั้ง ในแดนสุดท้ายคู่แข่ง, เมื่ออยู่ในกรอบ 18 หลา สัมผัสบอลมากกว่า ลิเวอร์พูล 320 หน และลองสับไกก็เหนือกว่า 69 ช็อต  

ขณะที่เด็กของ เจอร์เก้น คล็อปป์ วินัยเกมรับสม่ำเสมอมากๆ ทั้งด้านการแท็คเกิ้ลมากกว่า 90 ครั้ง, แย่งบอลชนะมากกว่า 49 หน และความเฉียบขาดเมื่อต้องจบสกอร์จากลูกเหน่งๆชัวร์กว่าถึง 7.37% 

หากพวกเขาเพลย์ออฟดวลกันคงยิ่งกว่าเกมหยุดโลก แต่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เน้นที่ความมั่นคง ยืนระยะยาวๆตลอด 9 เดือน แล้วเมื่อลองย้อนไปกลาง ธ.ค.2018 คล้ายว่า 'หงส์แดง' จะเข้าป้ายแบบง่ายๆ 

ก็ในเมื่อ ซิตี้ โดนความโหดร้ายของฤดูหนาวเล่นงานแพ้ทีมอย่าง คริสตัล พาเลซ, เชลซี และ เลสเตอร์ ในรอบ 18 วัน - สวนทางกับ 'หงส์แดง' ที่ชนะแบบพกดวงนาที 90+6 เกม เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ หรือเก็บส้มหล่นจาก อูโก้ โยริส นายด่านท็อตแน่มประเคนให้ตอนต้นเดือนเดียวกัน 


สถิติเปรียบเทียบผลงานระหว่าง ซิตี้-ลิเวอร์พูล

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ก็ยังเป็น ลิเวอร์พูล พอเปลี่ยนปีศักราชติดเสมอบ่อยหน จากเคยทิ้งห่าง 7 แต้ม รวมถึงมีโอกาสมากสุดเป็น 10 คะแนน แต่ก็โยนความได้เปรียบทิ้งหมด กระทั่งชะตาแชมป์ยังไม่สามารถกุมในมือตัวเอง 

ทั้งนี้มีกองเชียร์ 'เดอะ ค็อป' บางส่วนอ้างเรื่องทฤษฎี - ความโศกเศร้า 3 ทศวรรษ - เพราะเมื่อ เม.ย.ที่่ผ่านมาสโมสรได้จัดพิธีรำลึกครบ 30 ปี จากเหตุโศกนาฏกรรมที่ ฮิลล์สโบโร่ แล้วมันถูกโยงว่าในระยะเวลาใกล้เคียงกันบางทีแชมป์ลีกที่รอมาตั้งแต่ 1990 ก็น่าได้เวลาปลดล็อคเช่นกัน 

สำนักข่าว 'บีบีซี สปอร์ต' ทำการสำรวจความเห็นกองเชียร์เป็นกลางที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ถึงสาเหตุความสำเร็จด้านผลงานของทั้งสองค่าย ทุกเสียงบอกว่าเพราะอำนาจเงิน! 

ซิตี้ ได้ท่อน้ำเลี้ยงจากกลุ่มทุน อาบู ดาบี ที่โอบอุ้มสโมสรในทุกด้านทั้งงบประมาณเสริมทัพ หรือกะทั่งสปอนเซอร์ สนับสนุนทีมก็ล้วนเป็นเครือข่ายของราชวงศ์สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ตามคำกล่าวอ้างของสื่อฯ จอมแฉอย่าง 'แดร์ สปีเกล' 

"มีวันนี้เพราะท่านชีคห์ให้" คงไม่ใช่วลีที่ยกย่องเกินไป ต่อความสำเร็จในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม 

นักเตะระดับไฮ-เอนด์ถูกระดมพลเข้าสู่ทีม สวนทางแข้งอังกฤษฝีเท้ากลางๆค่อนไปทางดี ซึ่งมีหัวจิตหัวใจนักสู้ เก็บของออกมา 


อันดับ 1 สลับผลัดกันชมมาตลอดซีซั่น 2018-19 

หนึ่งในนั้นคือ เจมส์ มิลเนอร์ ฟรีเอเยนต์ซึ่งเลือกย้ายมาร่วมงาน ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2015 

นับเป็นวาสนา 'หงส์แดง' ที่สามารถร่วมงานกองกลางมืออาชีพรายนี้เพราะพี่แกทุ่มเทแบบ 100% ในทุกการซ้อมหรือบนสนามแข่ง เมื่อบวกประสบการณ์และความสารพัดประโยชน์ นี่จึงเป็นหนึ่งคีย์แมนของ คล็อปป์ ที่น้องๆเอาเยี่ยง 

ก๊วนดาวเตะสหราชอาณาจักร์ทั้ง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หรือกระทั่งกัปตัน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ล้วนได้อิทธิพลจาก 'มิลลี่' หลายเรื่องโดยเฉพาะความทุ่มเท 

มอง ซิตี้ บ้าง เด็กถิ่นที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทคือกองกลาง ฟิล โฟเด้น แล้วก็เหมือนโซ่ทองคล้องความสัมพันธ์ของสโมสรกับชาวเมืองเพราะดาวเตะวัย 18 ปี คือหน่อเนื้อแห่งแมนคูเนี่ยน 

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกจอมถล่มตาข่ายก็คืออีกแข้งอังกฤษที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องหลังจาก ซิตี้ ฉกพ้นรั้วแอนฟิลด์ แล้วได้รับการเจียระไนเพิ่มโดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า 

ความเหมาะสมในหลายประการ ใครซิวแชมป์ลีกก็คู่ควร 

เว้นเสียแต่ว่าคำถามเดียวกันนี้เอาไปขอความเห็นจากบรรดาคู่อริของทั้ง 'หงส์แดง' หรือ 'เรือใบสีฟ้า' ซึ่งกองแช่งคณะเมอร์ซี่ย์ไซด์ เร้ดส์ มีมากกว่าหลายเท่า 

กองแช่งนำโดยอดีตมหาอำนาจ แมนฯ ยูไนเต็ด ควงแขน เอฟเวอร์ตัน แช่งชักหักกระดูก ลิเวอร์พูล ว่าพวกแกควรรอแชมป์ลีกต่อไปถึงปีที่ 30 เป็นอย่างน้อย  

ปูมหลังหรือเรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลนี้ มันเหมือนปูทางให้ได้รับคำเฉลยเสียทีว่าเบอร์ 1 ของลีก อังกฤษ คู่ควรกับใคร 


สองค่ายกับการเตรียมพร้อมก่อนศึกสุดท้ายตัดสินแชมป์

กรณีเป็น ลิเวอร์พูล ด้วยความเป็นไปได้ที่จะเก็บมากสุด 97 แต้ม หากเป็นซีซั่นก่อนๆซิวแชมป์สบาย กระทั่งการมาถึงของบอลมาตรฐานสูงอย่าง แมนฯ ซิตี้ 

นั่นทำให้ทั้งนักเตะและแฟนบอลต้องบนบานศาลกล่าวกับรูปปั้นปรมาจารย์ บิลล์ แชงค์ลี่ย์ หน้าสนาม แอนฟิลด์ ให้เกิดปาฏิหารย์ทั้งกับตัวเอง แล้วสะท้อนถึงเกมอีกคู่ ณ ดิ เอเม็กซ์  

กรณีเป็น แมนฯ ซิตี้ ก็ต้องซูฮกพวกเขาว่าแข็งแกร่ง สม่ำเสมอ และดวงแข็งมากๆเพราะในเวลายากลำบากก็ผ่านไปได้ตลอด 

น้ำตาแห่งความยินดีไหลให้ ลิเวอร์พูล ไปล่าสุดเมื่อมิดวีกตอนอัด บาร์เซโลน่า หากอาทิตย์นี้มันจะหลั่งอีกก็ยินดี 

แต่ขอเป็นร้องเพราะตื้นตัน ไม่ใช่ร้องเพราะเสียดายนะ  

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด