ยิ่งเมื่อรู้ว่าทีมที่อยากได้นักเตะไปร่วมทีมเป็นพวกสโมสรเงินถังด้วยแล้ว มักจะโดดขูดเลือดขูดเนื้อกันชนิดที่ว่าขายทีเดียวกะจะอยู่ได้อีกหลายปีกันเลยทีเดียว

อันนี้ขอไม่นับพวกเแข้งดังอยู่แล้วและย้ายด้วยค่าตัวมหาศาลอย่าง เนย์มาร์, ปอล ป็อกบา, เอแด็น อาซาร์ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เหล่านี้ขอยกไว้ในฐานที่เข้าใจ เพราะก่อนที่จะมีค่าตัวแสนแพงจนเป็นสถิติโลกหรือติดอันดับโลก ล้วนผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าดีพอ

แต่ก็ยังมีอีกเพียบที่เพิ่งขึ้นมาแล้วค่าตัวกระโดดเกินหน้าเกินตา และที่บ้ากว่านั้นก็คือบรรดาทีมที่อยากได้ตัวก็ยอมจ่ายเพื่อให้ได้มาครอบครอง

บางคนจนถึงวันนี้ยังไม่เคยติดทีมชาติชุดใหญ่ของประเทศตัวเองแม้แต่เกมเดียวด้วยซ้ำไป

แต่อันที่จริงมันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแข้งที่อายุไม่มากและยังมีเวลารวมถึงอายุการใช้งานได้อีกระดับ 7-8 เป็นอย่างน้อย

คุ้มค่าบ้าง ไม่คุ้มค่าบ้าง ก็ว่ากันไป ลองดูว่าจะมีใครกันบ้างว่าอยู่ในลิสต์นี้

เจมส์ แมดดิสัน 

จาก นอริช ซิตี้ ไป เลสเตอร์ ซิตี้

ค่าตัว 22 ล้านปอนด์

อาจจะไม่ยุติธรรมเท่าไรนักที่ชื่อของ เจมส์ แมดดิสัน อยู่ในทำเนียบกับเขาด้วย เมื่อมองถึงผลงานในฤดูกาลที่ผ่านมาที่ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมเลย

7 ประตูกับอีก 7 แอสซิสต์จากการลงสนาม 38 เกมรวมทุกรายการถือเป็นตัวบอกชั้นดีถึงพัฒนาการ จนมีข่าวว่าสโมสรดังในพรีเมียร์ลีกอยากได้ตัวไปร่วมทีม

แต่ว่าหากย้อนกลับไปเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว กับนักเตะที่เพิ่งโดดเด่นขึ้นมาเพียงปีเดียวกับ นอริช ซิตี้ สโมสรในแชมเปี้ยนชิพซึ่งเป็นลีกรอง คงไม่มีใครคิดว่าค่าตัวจะสูงถึง 22 ล้านปอนด์

แมดดิสัน เป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 ที่สู้ศึกยู-21 ชิงแชมป์ยุโรปที่กำลังแข่งขันกันอยู่ในขณะนี้ที่ประเทศอิตาลี แต่ฟอร์มของ "สิงโตน้อย" ลงเอยด้วยการตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเสมอ 1 แพ้ 2

เตโอ แอร์กน็องเดซ

จาก แอตเลติโก มาดริด ไป เรอัล มาดริด

ค่าตัว : 22.8 ล้านปอนด์

ดาวรุ่งอนาคตไกลที่ เรอัล มาดริด ตั้งเป้าจะให้เข้ามาเป็นแบ็คซ้ายแทนที่ มาร์เชโล่ ซึ่งทาง ซีเนดีน ซีดาน ลองจ่ายเงินระดับ 22.8 ล้านปอนด์เพื่อดึงตัวมาร่วมทีมด้วยสัญญา 6 ปี

ภายใต้การคุมทีมของนายใหญ่คนดัง เตโอ มีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ของ "ราชันชุดขาว" 23 เกมรวมทุกรายการ ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในอนาคต

แต่เมื่อ ซีดาน อำลาทีมแข้งวัย 21 ปีกลับโดน จูเลน โลเปเตกี ที่เข้ามารับงานในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบวปล่อยให้ เรอัล โซเซียดาด ยืมตัวใช้งานโดยลงเล่นรวมทุกรายการ 28 เกม ทำได้ 1 ประตู แอสซิสต์อีก 2 ครั้ง ส่วนในนามทีมชาติฝรั่งเศสปัจจุบันหยุดอยู่ที่ชุดยู-20 เท่านั้น

กับการกลับมาคุมทีมอีกครั้งของ ซีดาน น่าจะทำให้เจ้าตัวกลับมามีอนาคตที่ดีขึ้นอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นค่าตัวที่จ่ายไปคงเป็นที่น่าเสียดายจริงๆ

อ็องโตนี่ โมแดสต์

จาก โคโลญจน์ ไป เทียนจิน กวนเจี้ยน

ค่าตัว : 31.3 ล้านปอนด์

คงไม่มีใครเชื่อหรอกถ้าจะบอกว่านักเตะอย่าง อ็องโตนี่ โมแดสต์ จะมีค่าตัวถึงระดับที่มากกว่า 30 ล้านปอนด์

แต่ถ้าบอกว่าสโมสรที่ดึงตัวไปเป็นทีมจากไชนีส ซูเปอร์ลีก ก็คงพอเข้าใจได้จากที่ผ่านมาสโมสรจากแดนมังกรต้องใช้เงินล่อนักเตะที่พอมีชื่อเสียงมาค้าแข้งในลีกของตัวเอง

31.3 ล้านปอนด์ ที่ทาง เทียนจิน ยอมจ่ายให้กับ โคโลญจน์ หลังเห็นผลงานที่ทะลวงตาข่าย 25 ลูกในปี 2016/17 แน่นอนว่าทาง "แพะบ้า" ไม่ปฏิเสธแถมแทบจะห่อของขวัญส่งไปให้ด้วยซ้ำ

ระยะเวลาราวปีครึ่งในเมืองจีน โมแดสต์ ยิงไป 9 ประตูจาก 21 เกม ความจริงก็ถือว่าใช้ได้แต่ถ้ามองจากค่าตัว เทียนจิน ก็คงหวังมากกว่านี้ ก่อนท้ายที่สุดสโมสรกับนักเตะจะมีคดีความกันจนสุดท้ายยกเลิกสัญญาและนักเตะก็กลับมาอยู่กับ โคโลญจน์ อีกครั้ง โดยตลอดชีวิตของ โมแดสต์ เล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศสแค่ชุดยู-21 เท่านั้น และปัจจุบันในวัย 31 ปีคงเลิกคิดถึงทีมชุดใหญ่ไปได้เลย

มัลคอม

จาก บอร์กโดซ์ ไป บาร์เซโลน่า

ค่าตัว : 36.5 ล้านปอนด์

ถือว่าเป็นหนึ่งในข้อพิพาทของตลาดในช่วงซัมเมอร์ที่แล้วเลย เมื่อ มัลคอม ย้ายมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า โดยที่มีข่าวว่าเจ้าตัวเตรียมลงเอยกับ โรม่า

หลังการเสีย เนย์มาร์ และความล้มเหลวในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกทำให้ทาง "เจ้าบุญทุ่ม" รู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่าง ท้ายที่สุดก็ตัดหน้ากระชากดาวรุ่งทีมชาติบราซิลที่มีลีลาการลากเลื้อยที่น่าเร้าใจคล้ายคลึงกับ เนย์มาร์

แต่ทว่าการที่ทีมมีทั้ง อุสมาน เดมเบเล่ รวมถึง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ อยู่แล้วกลายเป็นจำกัดการลงสนามของ มัลคอม ซึ่งเจ้าตัวได้ลงเล่นแค่ 24 เกม และยิงไป 4 ประตูเท่านั้น 

และจากการที่ผลงานรวมถึงโอกาสลงสนามน้อยทำให้เจ้าตัวไม่มีชื่อติดทีมชาติลุยโกปา อเมริกาที่กำลังแข่งกันอยู่ในขณะนี้ แม้จะเคยถูกเรียกไปติดทีมชาติในเกมอุ่นเครื่องเมื่อเดือนสิงหาคมที่พบกับ ซาอุดิอาระเบีย และ อาร์เจนติน่า แต่ก็เป็นแค่ตัวสำรองและไม่ได้ลงสนาม

วินิซิอุส จูเนียร์

จาก ฟลาเมงโก้ ไป เรอัล มาดริด

ค่าตัว : 38.7 ล้านปอนด์

ถือเป็นหนึ่งในนักเตะไม่กี่คนที่ทำผลงานได้ดีเมื่อมองจากฟอร์มการเล่นของ เรอัล มาดริด ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา

"ราชันชุดขาว" โอเคคว้าตัว วินิซิอุส จูเนียร์ ตั้งแต่ปี 2017 แต่ด้วยอายุที่ยังไม่ถึง 18 ปีทำให้ทีมต้องปล่อยตัวให้ต้นสังกัดเดิมอย่าง ฟลาเมงโก้ ใช้งานไปก่อนอีกหนึ่งปีกระทั่งมาอยู่กับทีมในปี 2018 และค่าตัวก็ไม่ธรรมดาเลยที่ตัวเลข 38.7 ล้านปอนด์ 

ในตอนแรกก็มีเรื่องน่าหงุดหงิดใจเหมือนกันกับการที่ต้องไปเล่นให้กับทีมสำรอง ซึ่งดูเจ้าตัวเองก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก แต่การไปของ จูเลน โลเปเตกี และการมาของ ซานติอาโก้ โซลารี่ ก็ทำให้ วินิซิอุส ได้กลับขึ้นมาอยู่ทีมชุดใหญ่เต็มตัว และทำผลงานได้ไม่เลวเลย

ด้วยอายุเพียง 18 ปีเท่านั้นทำให้ยังไม่เคยสัมผัสกับการเล่นชุดใหญ่ ถ้าจะมองว่าไม่เก่งจริงเพราะบางคนอายุเท่านี้ก็เล่นทีมชุดใหญ่แล้ว แต่ก็พอเข้าใจได้ เพราะตอนนี้ บราซิล ก็มีกองหน้าชั้นดีขึ้นมาหลายคน

ภายใต้การคุมทีมของ ซีเนดีน ซีดาน เจ้าตัวอาจจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในแนวรุก และด้วยปัจจัยรอบด้านถ้ามีดีพอการติดทีมแซมบ้าก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินไป

โรดรีโก้ โกเอส

จาก ซานโต๊ส ไป เรอัล มาดริด

ค่าตัว : 40 ล้านปอนด์

หนึ่งในแข้งดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองจากหลายทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปทั้ง บาร์เซโลน่า, ลิเวอร์พูล และ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง แต่สุดท้ายทีมที่มี "เสน่ห์" อย่าง เรอัล มาดริด ได้ตัวไปร่วมทีม

ต้องบอกว่าเจ้าหนูรายนี้ไม่ธรรมดาได้รับการจับตามองตั้งแต่ยังเรียนชั้นประถมอยู่แล้ว โดยค่ายกีฬายักษ์ใหญ่อย่างไนกี้เจ้ามาเป็นสปอนเซอร์ส่วนตัวตั้งแต่อายุเพียง 11 ขวบและลงเล่นทีมชุดใหญ่ให้ ซานโตส ตั้งแต่อายุเพียง 16 ปีเท่านั้น

และในวัยเพียง 17 ปี โรดรีโก้ ขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีม ซึ่งในปี 2018 เจ้าตัวลงเล่นให้ทีมดังจากแดนแซมบ้าถึง 58 เกม! พร้อมกับยิงไป 12 ประตูอีกด้วย

แน่นอนว่าการเป็นนักเตะของ ซานโตส เฉกเช่นเดียวกับ เนย์มาร์ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นดาวเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก ย่อมได้รับการคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นแข้งแถวหน้าของโลกในอนาคต แม้ว่าในปีแรกกับ เรอัล มาดริด อาจจะต้องเริ่มต้นในทีมกาสตีย่าไปก่อนก็ตามที

อารอน วาน-บิสซาก้า

จาก คริสตัล พาเลซ ไป แมนฯ ยูไนเต็ด

ค่าตัว : 50 ล้านปอนด์

สดๆร้อนๆกันเลยทีเดียวสำหรับ อารอน วาน-บิสซาก้า กับการก้าวขึ้นมาเป็นสมาชิกใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวระดับ 50 ล้านปอนด์ ทั้งที่เพิ่งขึ้นมาเป็นตัวหลักถาวรกับ คริสตัล พาเลซ เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น

แน่นอนว่ามีเสียงค่อนขอดออกมาค่อนข้างมากกับค่าตัวที่ดูว่าแพงเกินเหตุ ทั้งที่ในตลาดยังมีตัวที่ถูกกว่านี้, ผลงานดีกว่านี้, สถิติดีกว่านี้ และประสบการณ์เหนือกว่านี้

โอเคว่าด้วยอายุยังน้อยถือว่าสามารถใช้งานได้อีกยาวๆเกิน 10 ปี กับการการันตีว่าเป็นแข้งดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ พาเลซ ในปี 2017/18 และเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีในฤดูกาลที่ผ่านมา

ยังไงฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงยังไง วาน-บิสซาก้า ก็ต้องเป็นแบ็คขวาตัวจริงของ "ปีศาจแดง" แน่นอน บรรดาเร้ด อาร์มี่ก็ได้แต่หวังว่าคงจะทำได้ดีคุ้มค่าตัวที่จ่ายไปก็แล้วกัน

อายเมริก ลาปอร์กต์

จาก แอธ.บิลเบา ไป แมนฯ ซิตี้

ค่าตัว : 57.2 ล้านปอนด์

ถือเป็นนักเตะที่โลดแล่นและมีชื่อคุ้นหูกันมานานหลายปีในลา ลีกา สเปน ทั้งที่ปัจจุบันเจ้าตัวอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น

อายเมริก ลาปอร์กต์ เข้ามาเป็นกำลังหลักในแนวรับของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกับช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกตั้งแต่ปีที่แล้วต่อด้วยปีนี้ที่ทีมคว้าสามแชมป์ในประเทศมาครอง 

ในขณะที่ ริยาด มาห์เรซ เป็นนักเตะที่ค่าตัวสูงสุดที่ทีม "เรือใบ" ซื้อมาร่วมทีมติดทีมชาติเกือบครึ่งร้อยแล้ว นักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับสองอย่าง ลาปอร์กต์ ยังไม่เคยรับใช้ทีมชาติชุดใหญ่เลยแม้แต่นัดเดียว

แม้จะเคยเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศสมาแทบทุกชุดไล่ตั้งแต่ยู-17, 18, 19 และ 21 ส่วนกับทีมชาติชุดใหญ่ที่สามารถเลือกเล่นได้ทั้ง สเปน และ ฝรั่งเศส แถมเคยถูกเรียกติดทีมชาติมาทั้งสองชาติด้วย แต่ก็ยังไม่เคยลงเล่นอย่างเป็นทางการเลยแม้แต่นัดเดียว

ถึงตอนนี้เจ้าตัวตัดสินใจแล้วว่าจะรับใช้ทีม "ตราไก่" เชื่อว่าสักวันหนึ่งในอนาคตอันใกล้เจ้าตัวคงจะได้รับโอกาสลงเล่นให้ฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกในชีวิต