ในเกมร้อน หลังเกมยิ่งร้อน!!!
เรื่องในสนาม
เกมนี้เบิร์นลี่ย์มาดีเหมือนกันครับ ตอนนี้เหมือนทุกคนพอจะรู้แล้วว่าควรเล่นกับลิเวอร์พูลแบบไหน และส่วนใหญ่เวลาเจอกับลิเวอร์พูลจะตั้งรับกันแน่นหนาเอาไว้ก่อน และรอโอกาสสวนกลับกันเป็นหลัก เกมนี้เบิร์นลี่ย์ก็เลือกที่จะทำแบบนั้นเช่นกันครับ เน้นแพ็กเกมรับแน่นหนาไว้ก่อนและมีลูกหนักลูกชนงัดมาใช้กันเต็มที่ซึ่งช่วงแรกก็ทำได้ดีครับ เล่นเอาลิเวอร์พูลเป๋ๆ เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็มาปลดล๊อกได้จากลูกยิง(?) ..... เอิ่ม ... ไม่สินะ ต้องเรียกว่าลูกเปิดมากกว่า (ฮา) ที่ไปแฉลบผู้เล่นของเบิร์นลี่เข้าประตูไปอย่างสุดสวย เล่นเอานิค โป๊ปที่เกมนี้เหนียวสุดๆ หมดปัญญาที่จะป้องกันไปเลย และพอเป็นเสียประตูลูกนั้นไปเหมือนกับเบิร์นลี่หัวใจสลายไปเลยครับ และดูเหมือนสมาธิที่ทำได้ดีมากตั้งแต่ต้นเกมมาหลุดลอยหายไปเลย จนก่อให้เกิดความผิดพลาดง่ายๆ จากการจ่ายบอลแบบไม่เน้นไปเข้าทางของฟิร์มิโน่ จ่ายบอลไปให้กับมาเน่ยิงเสียบเสาสองเข้าไป พอเป็นแบบนี้เบิร์นลี่ดูเหมือนยิ่งออกทะเลไปไกลเลย หลังจากเสียประตูที่ 2 นี่พวกเขาดูหมดเรี่ยวแรงและไม่มีกะจิตกะใจเล่นบอลเหมือนช่วงแรกๆ แล้วทำให้ในครึ่งหลังพวกเขาไม่ได้สร้างความหนักใจให้กับลิเวอร์พูลเลยครับ และสุดท้ายก็มาโดนทีเด็ดของฟิร์มิโน่ยิงประตู 3-0 ปิดกล่องไปอย่างเด็ดขาด หลังจากโดนประตูนี้ไปเบิร์นลี่ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วครับ พวกเขารู้ตัวอยู่แล้วว่าเกมนี้พวกเขาแพ้แน่นอน พวกเขาเหลือภารกิจเพียงแค่ทำให้ลิเวอร์พูลไม่มีสถิติคลีนชีตเกมแรกในฤดูกาลนี้แค่นั้นเอง แต่ก็ทำได้แค่เกือบครับ สุดท้ายแล้วพวกเขาเองก็ไม่มีทีเด็ดพอที่จะทำอันตรายอะไรลิเวอร์พูลเลย จบเกมก็เป็นลิเวอร์พูลเอาชนะเกมนี้ไปได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรแบบที่คาดไว้ก่อนเกมครับ พวกเขาทำสถิติสวยหรูชนะ 100% ในการเปิดสนาม และสร้างสถิติชนะในเกมลีก 13 นัดติดต่อกันเป็นสถิติสูงสุดของสโมสรและยังพ่วงสถิติไม่แพ้ใครในเกมลีกเป็นเกมที่ 21ติดต่อกันอีกด้วย เรียกว่า เรื่องในสนามตอนนี้พวกเขายอดเยี่ยมจริงๆ
ซุปเปอร์บ๊อบบี้
ก่อนจะเข้าประเด็นร้อนหลังเกม ขอแวะมาซูฮกโรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่กันก่อนครับ ในเกมนี้บ๊อบบี้ของเรานั้นเล่นได้ยอดเยี่ยมเอามากๆ ไม่รู้ว่าทุกคนจะรู้สึกหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าตั้งแต่บ๊อบบี้ได้แชมป์ UCL กับ แชมป์โคป้า อเมริกามา บ๊อบบี้ดูเหมือนจะยกระดับการเล่นของตัวเองไปอีกขั้นนึง และดูเหมือนว่าเขากำลังมั่นใจอย่างสุดๆ ช่วงเปิดฤดูกาลมานี้ลูกเล่นและเทคนิคต่างๆ ของเขาที่เราแทบไม่เห็นกันมาก่อนหน้านี้ ถูกงัดมาใช้ให้แฟนบอลได้ร้องฮือกันอย่างต่อเนื่อง ในเกมนี้ก็เช่นกันครับ ฟิร์มิโน่นั้นเล่นได้อย่างสุดยอดเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นลูกขยันหรือเทคนิคต่างๆ การเชื่อมเกม การเอาตัวรอด และสุดท้ายคือความเฉียบคม ฟิร์มิโน่ทำได้ยอดเยี่ยมเอามากๆ จริงๆ ถ้าลองสังเกตดูในเกมนี้ ลิเวอร์พูลได้จังหวะสวนกลับสวยๆ หลายครั้งครับ บางทีก็จากซาล่าห์ หรือจากมาเน่ แต่ทุกครั้งก็จะทำเสียกันในจังหวะสุดท้ายกันไปหมด ผิดกับการสวนกลับที่บอลมาอยู่ในเท้าของฟิร์มิโน่ครับ เขาเลือกที่จะให้บอลได้ถูกจังหวะและแม่นยำอย่างสุดยอดจริงๆ ในเกมนี้ และสุดท้ายเขาก็มาได้ประตูที่ 50 ในลีกของเขาเองและทำสถิติเป็นนักฟุตบอลบราซิลคนแรกในพรีเมียร์ลีกที่ทำประตูได้ครบ 50 ประตูเป็นคนแรกอีกด้วย เรียกได้ว่าเกมนี้บ๊อบบี้นั้นรับตำแหน่ง MOM ไปได้อย่างไร้ข้อกังขาเลยจริงๆ
เรื่องนอกสนาม
ในเกมนี้มีประเด็นดราม่าร้อนแรงครับ ที่ทุกคนก็น่าจะเห็นกันอยู่แล้ว จากอาการหงุดหงิดของมาเน่ในจังหวะที่โดนเปลี่ยนตัวออกมา จนพี่ใหญ่อย่างเจมส์ มิลเนอร์ต้องเข้าไปเคลียร์กันเลยทีเดียว ซึ่งสื่อพยายามจะเอามาโยงในประเด็นที่ว่ามาเน่หงุดหงิดกับซาล่าห์ที่วันนี้ค่อนข้างแย่เลย แต่กลับไม่ถูกเปลี่ยนตัวออก กลับเป็นเขาที่โดนเปลี่ยนตัวแทนไปซะงั้น ทั้งๆ ที่เกมนี้เขาเล่นได้อย่างดีเยี่ยมแท้ๆ .... เอาทีละประเด็นก่อนละกันครับ ประเด็นแรกเลยคือ การที่มาเน่โดนเปลี่ยนตัวออกนั้น ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรนอกเสียจากว่าต้องการเก็บความฟิตและรักษาสภาพร่างกายของมาเน่ไว้ครับ เพราะว่าใครๆ ก็น่าจะรู้ดีว่ามาเน่นั้น มาร่วมทีมทีหลังเพื่อนเขา แต่ด้วยร่างกายที่สุดยอดของมาเน่เองนั่นแหละ ที่ทำให้มันดูเหมือนกับว่ามันไม่ส่งผลอะไรเลยในเรื่องนี้ แต่ในความจริงก็คือ ความฟิตของมาเน่นั้นยังไม่เต็มที่ครับ ถ้าฝืนลงสนามไปอาจจะเกิดอาการบาดเจ็บเอาได้ และด้วยฟอร์มที่สุดยอดของมาเน่ในตอนนี้ คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ถ้าลิเวอร์พูลต้องมาเสียเขาไปจากอาการบาดเจ็บเพียงเพราะแค่อยากจะเอาใจนักฟุตบอลที่อยากเล่นใช่ไหมล่ะครับ
ส่วนเรื่องที่สื่อพยายามโยงว่าหงุดงิดซาล่าห์นั้น มันก็มีเหตุผลอยู่ครับ ในเกมนี้ต่อให้เราจะชอบและปกป้องซาล่าห์แค่ไหนก็ตามก็ต้องยอมรับตามตรงแหละครับ ว่าเกมนี้ซาล่าห์นั้นเล่นได้ค่อนข้างแย่เอามากๆ เขาตัดสินใจผิดพลาดไปหมดเลยทีเดียว หลายๆ จังหวะที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้แต่ก็ต้องมาเสียเพราะเขาไปหลายครั้งเลย ทั้งจังหวะที่ล๊อกจนกองหลังหลุดไปหมดแล้ว แต่ก็ดันไม่ส่งให้ฟิร์มิโน่ที่ยืนรออยู่โล่งๆ แต่กลับเลือกที่จะยิงด้วยเท้าขวาข้างที่ไม่ถนัดซะอย่างนั้นและทำให้พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าโมโหจริงๆ แม้แต่เจอร์เก้นคล็อปเองก็หงุดหงิดกับจังหวะนี้ จนถึงขั้นโวยวายอยู่ข้างสนามและส่งสัญญาณมือที่พอจะเดาออกได้ว่า มีเพื่อนรอโล่งๆ อยู่ 2 คนทำไมเลือกที่จะยิงเอง อะไรแบบนั้นเลย
ในมุมมองของผมเอง ตรงจุดนี้ทำให้หลายๆ คนหงุดหงิดกับซาล่าห์เอามากๆ (ผมเองก็เช่นกัน) บางคนถึงกับอยากขายเขาทิ้งกันไปเลยทีเดียว (เอาจริงดิ!!) จริงๆ แล้วถึงแม้จังหวะนั้นจะน่าเสียดายและหงุดหงิดจริงๆ แต่มันไม่น่าจะมีอะไรมากไปกว่าการ “ตัดสินใจพลาด” แค่นั้นแหละครับ และผมเชื่อความการที่มาเน่หงุดหงิดนั้นไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรที่เกี่ยวกับซาล่าห์อะไรหรอก เพราะว่าถ้าเรายังจำกันได้ .... เมื่อฤดูกาลก่อน หลายครั้งมาเน่ก็เคยทำแบบนี้ครับ (ฮา) และก็น่าจะจำกันได้ว่าตอนนั้นก็มีแฟนๆ หลายคนบ่นด่า มาเน่กันถล่มทลายกันไปเลยทีเดียว และแน่นอนว่า ก็พยายามเร่ขายหรือหาคนมาแทนแบบนี้นั่นแหละ ซึ่งตอนนี้มันก็เป็นจังหวะของซาล่าห์ไปแค่นั้นเองครับ มันก็เป็นเรื่องที่จะต้องกลับไปติวกันครับ ว่าจังหวะแบบนี้ควรจะติดสินใจยังไง เสียมากกว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไร และยิ่งมาเล่นเรื่องประเด็นที่ว่ามาเน่หงุดหงิดซาล่าห์อะไรแบบนี้ ผมว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลยครับ อย่างที่เราเห็นๆ กันอยู่ว่าทีมสปิริตของนักเตะลิเวอร์พูลชุดนี้นั้นยอดเยี่ยมขนาดไหน และพวกเขาฝ่าฟันอะไรกันมาด้วยกันมากมายแค่ไหน ถ้าจะมาสั่นคลอนเพราะจังหวะที่ว่า “เพื่อนไม่ยอมส่งบอลให้” อะไรแบบนี้ ผมว่ามันไม่ค่อยเมกเซนส์เท่าไรครับ และเรื่องที่มาเน่หงุดหงิดนั่น ก็น่าจะเป็นอย่างที่เจอร์เก้น คล็อปป์ว่าไว้นั่นแหละครับ ว่ามาเน่เป็นคนที่มีอารมณ์ร่วมสูงและอยากลงเล่นต่อมันก็แค่นั้นเอง
หรือจริงๆ แล้ว มาเน่อาจจะแค่หงุดหงิดที่ฟิร์มิโน่ดีใจท่าแปลกประหลาดจนเขาไม่รู้จะก๊อปปี้ยังไงแค่นั้นก็ได้นะครับ 55555+