:::     :::

เสียงบ่น'เฮียมู'...สะเทือนถึงเก้าอี้

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน 2563 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
2,920
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เพียงแค่สัปดาห์แรกของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็ขึ้นหัวใหญ่หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์กีฬาทุกฉบับแล้ว

    สเปอร์ส ของเขาถูก เอฟเวอร์ตัน บุกชนะ 1-0 จากประตูชัยของ โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน

    ทันทีที่จบเกม นายใหญ่ชาวโปรตุเกสตราหน้าลูกทีมของเขาว่าเป็นพวก 'ขี้เกียจ' และไม่ชอบทีมของตัวเองเลยในวันนั้น

    นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำถึงการขาดความฟิตของนักเตะ โดยบ่นว่าแข้งบางคนในทีมของเขาไม่ได้ซ้อมอย่างเหมาะสมก่อนเกมนัดเปิดสนาม

    มันน่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน เพราะย้อนกลับไปในอดีต เวลาที่เขาคร่ำครวญในช่วงต้นซีซั่นในพรีเมียร์ลีกทีไร ผลที่ได้คือการถูกไล่ออกจากช่วงอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี

    น่าสนใจเหลือเกิน ว่าประวัติศาสตร์นั้นจะซ้ำรอยหรือไม่?


เชลซี (2004-07)

'ไม่ได้นักเตะตามต้องการ และเรื่องของผ้าห่ม'

    แม้ว่าจะนำทีมคว้าแชมป์ลีกได้ 2 สมัยติดต่อกันใน 2 ฤดูกาลแรกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่ มูรินโญ่ ก็ยังมองหาโอกาสปรับปรุงทีมของเขา

    กระนั้น เมื่อผู้จัดการทีมไม่สามารถเซ็นสัญญากับนักเตะตามที่เขาต้องการได้ นั่นทำให้เขารู้ถึงความผิดหวัง และมีการเปรียบเทียบแบบไม่เหมือนใคร

    "มันเหมือนกับการมีผ้าห่มที่เล็กเกินไปสำหรับเตียง" เขา กล่าวในปี 2017

    "คุณดึงผ้าห่มขึ้นเมื่อให้อกของคุณอบอุ่น และเท้าของคุณก็ยื่นออกมา"

    "ผมไม่สามารถซื้อผ้าห่มผืนใหญ่กว่านี้ได้เพราะซูเปอร์มาร์เก็ตมันปิดแล้ว แต่ผมก็พอใจนะ เพราะผ้าห่มของผมมันเป็นผ้าขนสัตว์ มันไม่ใช่ผ้าห่มธรรมดา"

    จากนั้นไม่นาน มูรินโญ่ ก็โหวกเหวกโวยวายถึงการไม่ได้รับการสนับสนุนให้ซื้อนักเตะใหม่ของเขาอีกครั้ง หลังแข้ง สิงห์บลูส์ ทยอยพากันบาดเจ็บ


'ไม่มีไข่ก็ไร้ไข่เจียว!'

    มันเป็นการแถลงข่าวก่อนเกมครั้งสุดท้ายของ มูรินดญ่ ในฐานะกุนซือ เชลซี รอบแรก และมันก็เป็นสิ่งที่หลายคนไม่เคยลืม

    สิงห์บลูส์ ต้องเล่นกับ โรเซนบอร์ก ในแชมเปี้ยนส์ลีก ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งผลสุดท้ายเสมอ 1-1 แบบพลิกล็อก ซึ่งก่อนเกม มูรินโญ่ โวยวายถึงสภาพทีมของเขาที่ขาดทั้ง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ และ มิชาเอล บัลลัค ที่ต่างก็เดี้ยงกันหมด

    "สไตล์การเล่นของเรานั้นสำคัญมาก แต่มันคือไขเจียว และไข่" มูรินโญ่ กล่าว

    "ถ้าไม่มีไข่ ไม่มีไขเจียว! มันขึ้นอยู่กับคุณภาพของไข่ ในซูเปอร์มาร์เก็ต คุณมีไข่ชั้นหนึ่ง ชั้นสอง หรือชั้นสาม และบางชนิดก็มีราคาที่แพงกว่าแบบอื่น และบางแบบก็ใช้ทำไข่เจียวได้ดีกว่า ดังนั้น เมื่อไข่ชั้นหนึ่งอยู่ที่เวสโทรส (ห้างระดับไฮโซ) และคุณไปไม่ได้ คุณก็มีปัญหา"

    ความแตกต่างของ มูรินโญ่ กับ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมมันพิสูจน์แล้วว่ามีมากเกิน และจากนั้นโค้ชก็โดนตะเพิดออกไป


เชลซี (2013-2015)

มูรินโญ่ vs หมอเอวา

    นัดเปิดซีซั่น 2015-16 เชลซี เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยการป้องกันแชมป์ในบ้านกับ สวอนซี

    สิงห์บลูส์ ขึ้นนำ 2 ครั้ง แต่ก็โดนทีมเยือนตีเสมอเป็น 2-2 ทว่าผลการแข่งขันกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย เมื่อ มูรินโญ่ เปิดฉากโต้เถียงอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนกับแพทย์ประจำทีมอย่างหมอ เอวา การ์เนยโร่ ทื่เส้นข้างสนาม

    เอแด็น อาซาร์ นั่งลงไปที่พื้นกับอาการบาดเจ็บในช่วงท้ายเกม และ เอวา กับ จอน เฟิร์น ทีมแพทย์อีกคนก็ต่างวิ่งลงไปในสนามเพื่อทำการตรวจเช็กอาการสตาร์เบลเยียม

    มูรินโญ่ โกรธมากที่ อาซาร์ ต้องออกจากสนามก่อน เมื่อมีการปฐมพยาบาล และเขาก็พุ่งเป้าไปที่แพทย์ทั้ง 2 คนนั้น โดยมีนักอ่านปากบอกว่าเขาพูดว่า 'เฮ้ เฮ้! ออกมาจากสนามเดี๋ยวนี้ F*****g hell' ก่อนที่กุนซือโปรตุเกสจะบ่นต่อว่า 'filho da puta' (ไอ้ลูก***หรี่) ใส่ เอวา ตอนที่เธอกลับมายังเส้นข้างสนาม

    มูรินโญ่ สั่งแบนหมอจากซุ้มม้านั่งหลังจากนั้น และ หมอเอวา ก็ถูกบีบให้ต้องออกจากสโมสร จนนำไปสู่การฟ้องร้องต่อสโมสร และตัวของ มูรินโญ่ ก่อนที่จะมีการยอมความในที่สุด ซึ่งมีรายงานว่า เอวา ได้เงินค่าชดเชยราว 5 ล้านปอนด์

    ฤดูกาลนั้นของ เชลซี ไม่ดีขึ้นเลย และ มูรินโญ่ ก็โดนไล่ออกในเดือนธันวาคมกับการรั้งอันดับ 16 ของตาราง และมีคะแนนเหนือทีมโซนตกชั้นแต้มเดียว

แมนฯ ยูไนเต็ด (2016-2018)

'ปรีซีซั่นบรรลัย'

    ทั้งที่ฤดูกาลยังไม่เริ่มต้น แต่ มูรินโญ่ ก็ฟิวส์ขาดก่อนที่จะเข้าสู่ซีซั่น 2018-19

    ผู้จัดการทีมรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้นักเตะตามต้องการ หลังสโมสรเซ็นสัญญากับ อเล็กซิส ซานเชซ ในเดือนมกราคม ซึ่งที่สุดแล้วดีลนั้นก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

    ยูไนเต็ด จบด้วยการเซ็นสัญญากับ เฟร็ด, ดีโอโก้ ดาโล่ต์ และ ลี แกรนท์ แต่ มูรินโญ่ ต้องการ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ มาเสริมความแข็งแกร่งให้แนวรับ ซึ่งที่สุดแล้ว แม็กไกวร์ ก็มา ผีแดง ในยุคหลังจากเขา

    "ผมต้องการนักเตะอีก 2 คน" มูรินโญ่ กล่าวในเดือนกรกฎาคม ปี 2018

    "ผมคิดว่าผมจะได้นักเตะสักคนจากที่ผมส่งรายชื่อ 5 คนให้กับสโมสร"


'ให้เกียรติกูหน่อย!'

    3 วันในฤดูกาล 2018-19 เราได้เห็น ยูไนเต็ด แพ้ให้กับ สเปอร์ส คาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 0-3

    มันเป็นสถิติคุมทีมแพ้คาบ้านด้วยสกอร์ห่างที่สุดในอาชีพของ มูรินโญ่ แต่เขาก็ยังคงยกย่องผลงานของลูกทีมในห้องแถลงข่าวหลังเกมนั้น โดยเน้นย้ำให้เห็นถึงแฟนๆ ที่ปรบมืออยู่นอกสนาม

    แต่เมื่อถูกยิงคำถามถึงกองเชียร์จำนวนมากที่ออกจากสนามไปก่อนจบเกม นายใหญ่โปรตุเกสก็ตอบกลับมาอย่างเกรี้ยวกราด

    "วันนี้นักเตะออกจากสนามหลังแพ้คาบ้าน และแฟนๆ ก็ปรบมือให้พวกเขาเพราะพวกเขาสมควรได้รับมัน"

    มูรินโญ่ ชู 3 นิ้วขึ้นมา พร้อมกล่าวต่อว่า "พวกคุณรู้ไหมว่าผลคืออะไร? ก็ 3-0 ไง แต่มันยังหมายถึงจำนวนแชมป์พรีเมียร์ชิพ 3 สมัยด้วย และผมคนเดียวที่ได้แชมป์พรีเมียร์ชิพมากกว่าผู้จัดการทีมอีก 19 คนที่เหลือรวมกันซะอีกนะ"

    "ผมคนเดียวได้ 3 สมัย และพวกเขาที่เหลือรวมกันได้ 2 สมัย (เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ มานูเอล เปเยกรินี่)"

    "3 ของผม 2 ของพวกเขา ดังนั้นให้ความเคารพกันหน่อย เคารพ เคารพน่ะ"

    นั่นคือจุดเริ่มต้นหายนะของ มูรินโญ่ ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยสโมสรไล่เขาออกในเดือนธันวาคม ก่อนที่จะนำ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามาแทนที่

สเปอร์ส (2019-ปัจจุบัน)

'ไก่ขี้เกียจ'

    สเปอร์ส เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 ในเดือนกรกฎาคม และวันนั้นเป็นทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่เล่นกันแบบซังกะตาย แต่ ทอฟฟี่ ก็เปลี่ยนแปลงทีมด้วยการเซ็นสัญญานักเตะระดับ ฮาเมส โรดริเกซ, อัลลัน และ อับดูลาย ดูกูเร่ ซึ่งมันก็ดูดีจนสามารถนำ 3 แต้มกลับไปยังเมอร์ซี่ไซด์ได้

    แนวทางการเล่นของ ไก่เดือยทอง ดูเหมือนว่าไม่ใช่ทีมที่ตั้งเป้าหมายกับการล่าท็อปโฟร์เลย และ มูรินโญ่ ก็บ่นถึงการขาดความฟิตของทีม ก่อนที่จะสับแหลกใส่ลูกทีมบางคนว่ามีสภาพจิตใจที่ไม่ถูกต้อง

    "มันเป็นผลมาจากความฟิตที่แย่ในช่วงปรีซีซั่น" มูรินโญ่ กล่าวหลังเกมแพ้ สเปอร์ส 0-1

    "นักเตะบางคนไม่ได้เล่นปรีซีซั่นด้วยซ้ำ บางคนก็สภาพจิตใจไม่ถูกต้อง ผมไม่ชอบทีมตัวเองเลยในวันนี้"

    "เราไม่มีความฟิตของร่างกาย เราไม่มีความแข็งแกร่ง แฮร์รี่ เคน ได้ซ้อมแค่ครั้งเดียว ส่วน มุสซ่า ซิสโซโก้ นั้นแค่สองครั้ง มันก็ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันในการที่นักเตะไม่ได้ร่วมซ้อม"

    "เรามีเคสของผู้เล่นที่ติดเชื้อโควิด-19 เรามีนักเตะที่ต้องกักตัว ส่วนคนอื่นๆ ก็ไปเล่นให้ทีมชาติ"

    "เราดูขี้เกียจในการเพรสซิ่ง นั่นเป็นผลมาจากความฟิตที่ไม่ดี ปรีซีซั่นที่แย่ นักเตะบางคนไม่ได้ปรีซีซั่นด้วยซ้ำ ผู้เล่นบางคนก็มีสภาพจิตใจที่ไม่ถูกต้อง ผมไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้ ผมไม่แน่ใจเกี่ยวกับมัน"

    "ผมจะบอกว่ามันเป็นการเล่นเพรสซิ่งแบบขี้เกียจ และเมื่อคุณขี้เกียจที่จะเพรสซิ่ง คุณไม่กดดัน มันก็คือคุณปล่อยให้คู่แข่งสร้างเกมจากแดนหลัง"

พาสต้า

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด