:::     :::

ขาดเทียร์นีย์ขาดใจ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาร์เซน่อล ทิ้งโอกาสเก็บชัยชนะ 5 นัดติดต่อกันจากทุกรายการอย่างน่าเสียดายหลังทำได้เพียงเปิดรังเสมอ คริสตัล พาเลซ ไปแบบไร้สกอร์ ในการลงสนามเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ มิเกล อาร์เตต้า เริ่มพาทีมกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้งด้วยการชนะ 3 นัดติดในลีกเหนือ เชลซี, ไบรท์ตัน และ เวสต์บรอมวิช ก่อนต่อยอดเข้ารอบเอฟเอ คัพ หลังทุบชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 ในช่วงต่อเวลา

แต่นัดล่าสุดกลับไม่สามารถเจาะตาข่ายทัพปราสาทเรือนแก้วของ รอย ฮ็อดจ์สัน และไม่แม้แต่มีความใกล้เคียงที่จะทำได้

อาร์เตต้า มีปัญหาให้แก้ไขเล็กน้อยในช่วงก่อนเริ่มเกมเพราะ คีแรน เทียร์นีย์ แบ็กซ้ายตัวสำคัญ และ ปาโบล มารี เซนเตอร์ที่พาทีมชนะรวดตลอด 4 นัดหลังสุด ต่างมีปัญหาบาดเจ็บลงเล่นไม่ได้

เอนส์ลีย์ เมตแลนด์-ไนลส์ จึงได้โอกาสลงเสียบทำหน้าที่แบ็กซ้ายแทน เทียร์นี่ย์ ส่วนตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟของ มารี มี ดาวิด ลุยซ์ ยึดตัวจริงต่อร่วมกับ ร็อบ โฮลดิ้ง ที่ได้พักในเกมเอฟเอ คัพ  

ตรงกลางสลับให้ ดานี่ เซบายอส ลงตัวจริงแทน โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ในการจับคู่กับ กรานิต ชาคา ขณะที่ 4 ตัวรุกเป็นเซตที่ดีสุดที่จัดได้คือ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์, บูคาโย่ ซาก้า และ เอมิล สมิธ โรว์ 

กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ หัวหอกดาวรุ่งบาดเจ็บในช่วงวอร์มก่อนเกมเอฟเอ คัพ แต่ยังโชคดีไม่เป็นอะไรมาก สามารถกลับมาซ้อมได้แล้ว แต่ยังเร็วไปที่จะคืนสนามทันที 

ข่าวดีข้างสนามคือได้ทั้ง โธมัส ปาร์เตย์ กองกลางตัวเก่ง และ กาเบรียล มากัลเญส อีกหนึ่งเซนเตอร์ตัวหลัก หายเจ็บและหายป่วยโควิด-19 กลับมามีชื่อสำรอง

ตัวผู้เล่นและฟอร์มช่วงหลังของ อาร์เซน่อล ดีกว่ามาก อีกทั้งได้เล่นในบ้านตัวเอง ทว่ากลับเป็น คริสตัล พาเลซ ที่ทำได้ดีกว่าในหลายจังหวะ ผู้เล่นเกมรุกที่นำโดย คริสติย็อง เบนเตเก้ และ วิลฟรีด ซาฮา มีความเข้าขารู้ใจและประสานงานกันดีกว่า

อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายครองบอลตามคาด แต่จังหวะทำเกมรุกเข้าไปจบลุ้นประตูในครึ่งแรกไม่มีเลย จังหวะลุ้นยิง 2 ครั้งตลอดครึ่งแรกเป็นการหาจังหวะยิงเองหน้าเขตโทษของ โอบาเมย็อง และ ซาก้า ที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของ บิเซนเต้ ไกวต้า โกลเลือดกระทิงของทีมเยือน


บนเตเก้ ป่วนเกมรับอาร์เซน่อลได้เยอะ

ตรงกันข้ามกับ พาเลซ ที่ครองบอลน้อยแต่บุกได้น้ำได้เนื้อ สามารถลุ้นจบสกอร์ถึง 9 ครั้งในครึ่งแรก 

กรานิต ชาคา ต้องพุ่งบล็อกลูกยิงในเขตโทษของ วิลฟรีด ซาฮา แบบเส้นยาแดงผ่าแปด ขณะที่ แบรนด์ เลโน่ ต้องงัดซูเปอร์เซฟมาป้องกันลูกโหม่งจ่อๆ ของ คริสติย็อง เบนเตเก้ และ อาร์เซน่อล ได้คานช่วยอีกจังหวะที่ เจมส์ ทอมกิ้นส์ โหม่งผ่านมือ เลโน่ ไปได้แล้ว

ในครึ่งหลัง อาร์เซน่อล พยายามโหมมากขึ้นและผ่านบอลมากกว่า พาเลซ 233 ครั้ง (374 ต่อ 141 ครั้ง) เพิ่มขึ้นจากครึ่งแรกที่ตัวเลขการผ่านบอลต่างกันเพียง 218 ครั้ง (318 ต่อ 200 ครั้ง)

โอกาสยิงของปืนใหญ่เพิ่มมากขึ้นเป็น 9 ครั้งใน 45 นาทีหลัง แต่ไม่ได้มีจังหวะหวาดเสียวเหมือนที่ พาเลซ ได้ลุ้น บิเซนเต้ ไกวต้า เหนื่อยน้อยกว่าหลายนัดก่อนหน้านี้

เกมรุกของ อาร์เซน่อล ทำกันช้ามาก ไม่มีจังหวะโจมตีแบบที่ พาเลซ ไม่ทันตั้งตัว แถมยัง "ดีเลย์" การเล่นกันเอง บอลที่ควรจะต่อเนื่อง ลื่นไหล ก็ชะงักหลายครั้ง ทำให้ลูกทีมของปู่รอยสามารถตั้งรับได้อย่างมั่นคงและมั่นใจ 

หลายคนที่เคยทำได้ดีในช่วงหน้านี้ทั้ง ลากาแซ็ตต์, ซาก้า และ สมิธ โรว์ ฟอร์มดร็อปลงไป การเล่นร่วมกันเพื่อสร้างเกมรุกกดดันคู่แข่งมีเพียงไม่กี่จังหวะ 

ลากาแซ็ตต์ ที่ยิงหรือจ่ายตลอด 5 นัดก่อนหน้านี้ โดดเด่นอย่างมากและไม่มีโอกาสได้สับไกเลยในนัดนี้ ขณะที่ โอบาเมย็อง ก็ยังเรียกฟอร์มเก่งกลับมาไม่ได้เต็มตัวแม้จะยิงประตูในเอฟเอ คัพ ล่าสุดได้ 

กรานิต ชาคา กับ ดานี่ เซบายอส เล่นได้ค่อนข้างโอเคอย่างมากในการจับคู่กันตรงกลางโดยเฉพาะรายแรกที่ลงมาช่วยเกมรับหลายจังหวะทั้งบล็อกลูกยิงและสกัดบอลอันตราย 

แต่ อาร์เตต้า ก็จำต้องถอดออกคนนึงเพื่อปรับเกมแดนกลางส่ง โธมัส ปาร์เตย์ ลงไปแทน เซบายอส เป็นฝ่ายที่ต้องหลีกทางให้ แต่การร้างสนามไปนานของอดีตแข้ง แอต.มาดริด ก็ทำให้การเล่นยังไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก และไม่ได้ช่วยยกระดับทีมอย่างที่ควรจะเป็น 


ฝั่งซ้ายกลายเป็นอัมพาตเมื่อขาด เทียร์นีย์

แต่ที่เป็น "รอยโหว่" ขนาดใหญ่คือตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ไม่มี คีแรน เทียร์นีย์ 

เมตแลนด์-ไนลส์ ไม่สามารถทดแทนแข้งชาวสกอตต์ได้เลยเพราะเพียงแค่ 20 นาทีแรกก็เห็นถึงความแตกต่างชัดเจนเพราะจ่ายบอลเสียถึง 6 ครั้งจากการจ่ายทั้งหมด 17 ครั้ง 

เกมรุกที่เคยเป็นจุดแข็งจากการเติมเกมไม่มีวันหมดของ เทียร์นีย์ จึงง่อยเปลี้ยเสียขา เหมือนเป็นอัมพาตไปเลยสำหรับเกมฝั่งซ้ายของ อาร์เซน่อล  

มิเกล อาร์เตต้า ยอมรับหลังเกมว่าการขาดอดีตแข้ง เซลติก เหมือน อาร์เซน่อล ขาดใจไปเลย 

"การขาดหายไปของ คีแรน เทียร์นี่ย์ ส่งผลกับทีมอย่างแท้จริง การขึ้นเกมรุกทางซ้ายสำคัญมาก แต่เขาได้รับบาดเจ็บ เราต้องหาทางออก เขาจะเข้าทำสแกน MRI วันศุกร์นี้"

ส่วนฝั่งขวายิ่งไม่ต้องพูดถึง เอคตอร์ เบเยริน ไม่สามารถช่วยเกมรุกได้เลย จังหวะเปิดบอลจากด้านข้างทำไม่ได้ ได้แต่จ่ายบอลคืนหลังไปเริ่มใหม่ และเป็นคนที่ทำให้จังหวะการเล่นของทีมสะดุดหลายครั้ง 

ยิ่งพอปรับแท็กติกถอย ซาก้า จากตัวรุกฝั่งขวาลงมาเป็นแบ็กซ้ายแทน เมตแลนด์-ไนลส์ ที่ถูกเปลี่ยนออกในนาที 65 ความพยายามที่จะโจมตีริมเส้นทั้งสองฝั่งของ อาร์เซน่อล จึงหมดลงอย่างสิ้นเชิง 

นิโกล่าส์ เปเป้ ที่ลงมาทำเกมรุกฝั่งขวาก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และฤดูกาลนี้ก็ยังไม่สามารถสร้างโอกาสให้เพื่อนลุ้นประตูได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เป็นสถิติที่น่าตกใจมากเมื่อนึกถึงค่าตัวสถิติสโมสร 72 ล้านปอนด์ 

ข้อดีไม่กี่อย่างที่เกิดขึ้นจากนัดล่าสุดคือการที่ โธมัส ปาร์เตย์ กลับมาลงสนามในรอบมากกว่าหนึ่งเดือน และเก็บ "คลีนชีต" เกมลีกในบ้านได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้

แต่ขณะเดียวกัน คริสตัล พาเลซ ก็เก็บคลีนชีตนอกบ้านได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้เช่นกัน และไม่แพ้เลยในการดวล อาร์เซน่อล 5 นัดหลังสุด...



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด