แต่ข่าวที่หลุดออกมาจากฝั่งอังกฤษ ระบุว่าใกล้เต็มแก่แล้ว บางเจ้าบอกตรวจร่างกายผ่านฉลุย รอแค่ เวิร์ค เพอร์มิต หรือใบประกอบอนุญาตการทำงานเท่านั้น

ทำไมต้องรอก็เพราะทาง อเล็กซิส ซานเชซ เป็นนักเตะชาติตามกฏหมายบ้านเมืองอังกฤษก็ต้องขอใบประกอบที่ว่าเป็นธรรมดา (แม้จะเคยทำงานมานานหลายปีก็ตาม) แต่คงไม่เป็นปัญหาอะไร ถึงตรงนี้ แฟนผีแดง ก็รอคอยที่จะเห็นว่าที่นักเตะเบอร์ 7 รายใหม่คนนี้ชูเสื้อได้เลย

ว่ากันถึงเบอร์ 7 โดยเฉพาะในรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถือเป็นหมายเลขที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่เล่าต่อกันนานนับหลายสิบปี

แฟนบอลปิศาจแดงคงทราบถึงเรื่องราวที่ว่าเพราะมันถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ไล่เรียงมาตั้งแต่ จอร์จ เบสต์ จวบจนมาถึง เมมฟิส เดอปาย นักเตะคนล่าสุดที่เคยสวมใส่หมายเลข 7 ลงสนามให้กับทีม

ย้อนกลับไปตั้งแต่ ยุคของ จอร์จ เบสต์ แฟนบอล ยูไนเต็ด ยุคปัจจุบันคงจะได้เห็นไฮไลต์การเล่นของอดีตดาวเตะผู้ล่วงลับรายนี้มาพอสมควร

นี่คือนักเตะที่ได้รับการยกย่องอย่างมากในยุคนั้น คำสรรเสริญต่างๆนานา ทะลุกาลเวลาและถูกเล่ามาจวบจนถึงปัจจุบัน ว่านี่คือจุดเริ่มต้นของตำนานหมายเลข 7 แห่งรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด

กาลเวลาเดินทางผ่านไป นักเตะหลายคนสวมใส่เบอร์ดังกล่าวให้กับ ปิศาจแดง แต่กว่าจะมีการพูดถึงกันอีกครั้งก็ต้องรอคอยถึง ไบรอัน ร็อบสัน อดีตตำนานกัปตันทีมเจ้าจองฉายา 'กัปตันมาร์เวล' ผู้ห้าวหาญ

นี่คือนักเตะที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กล่าวชมว่าเป็นกองกลางที่ครบเครื่องมากที่สุดคนหนึ่งที่เขาเคยร่วมงานมาด้วย ยิง, จ่าย, ปะทะ มีอยู่รวมกันในตัวของ ร็อบสัน คนนี้

แต่ทุกอย่างก็ถึงวันเปลี่ยนแปลง ร่างกายของ ร็อบสัน เริ่มโรยราจากนักเตะแกนหลักกลายมาเป็นแบ็คอัพของน้องๆในทีม บวกกับช่วงเวลานั้น ทีมมีชายที่ชื่อว่า เอริค คันโตน่า

อันที่จริงในยุคก่อนที่นักฟุตบอลจะมีเบอร์เสื้อเป็นของตนเอง แต่ละคนจะใส่เบอร์ลงสนามแตกต่างกันไปตามตำแหน่ง ซึ่งเมื่อมาถึงยุคสมัยที่ต้องเปลี่ยนแปลง นักเตะจำเป็นต้องมีเบอร์ประจำ ก็ถึงเวลาที่ ร็อบสัน จะต้องตัดสินใจ

"ผมไม่ได้สนหรอกว่าจะเสียเบอร์ 7 ให้ เอริค (คันโตน่า) ผมทราบดีว่าในปี 1993-94 ผมจะลดบทบาทเป็นตัวสำรองมากขึ้น และ เอริค เพิ่งแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของเขากับสโมสร"

"เขาคว้าแชมป์ลีกกับทีมในปีแรกที่ย้ายมา และจริงๆแล้วเขากลายมาเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมในเวลาไม่นาน"

"เขาชอบที่จะสวมเสื้อหมายเลข 7 ดังนั้นเมื่อถึงหน้าร้อนปีนั้น ผมบอกผู้จัดการทีมไปว่า ผมไม่ได้มีปัญหาหากจะเปลี่ยนไปใส่เบอร์อื่น เพราะผมเคยสวมหมายเลข 16 ในฟุตบอลโลก ปี 1982 ดังนั้นผมไม่มีปัญหาหากต้องใส่เบอร์ 12, 14 หรืออะไรก็ตาม"

นั่นคือจุดเริ่มต้นของตำนานเบอร์ 7 กับชายที่ชื่อ เอริค คันโตน่า ที่ต่อมาเขาได้ส่งต่อมันไปถึง เดวิด เบ็คแฮม

อันที่จริงแล้ว หลังจากการอำลาทีมของ 'ก็องโต้' ในตอนนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้มองหาตัวแทนที่จะเข้ามาสวมเบอร์ที่ว่านั่น และเล็งไปที่ รอย คีน

อดีตตำนานกัปตันทีมหมายเลข 16 ของสโมสร ระบุว่าตอนนั้น 'เฟอร์กี้' เรียกเขาเข้าไปพบที่ห้องทำงาน และบอกกับ 'คีโน่' อยากให้เขาสวมหมายเลข 7 ในฤดูกาลต่อไป เพราะป๋าไม่อยากให้ เดวิด เบ็คแฮม ได้มันไปก่อนถึงเวลาอันควร

อย่างไรก็ตาม รอย คีน มีสีหน้าเรียบเฉยพร้อมปฏิเสธ และบอกว่า 'ให้ ไอ้เบ็คส์ มันไปเหอะป๋า'

นั่นจึงเป็นที่มาของ เบอร์ 7 ในคราบหนุ่มหล่อจอมฟรีคิกขวัญใจแม่ยกในเวลาต่อมา ก่อนจะมาถึงชายที่ชื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ...

ถือได้ว่าเป็นเบอร์แห่งตำนานคงไม่ผิดแปลก เพราะส่วนใหญ่นักเตะที่เคยใช้เบอร์ดังกล่าวให้กับ ยูไนเต็ด ล่วนแล้วแต่ดังกระฉ่อนโลกแทบทั้งนั้น แต่ช่วงหลังๆที่ผ่านมา ล้วนแล้วแต่ประสบพบเจอกับความล้มเหลวกันเป็นแถว

มันเกิดขึ้นนับตั้งแต่ที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เดินออกไปหาความฝันด้วยการย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริดในปี 2009

นับจากนั้นนั้นมา มีนักเตะ 4 รายที่วนเวียนมาสวมใส่หมาย 7 ให้กับ ปิศาจแดง

ไมเคิ่ล โอเว่น

อันโตนิโอ วาเลนเซีย (ตอนหลังกลับไปใส่เบอร์ 25 ตามเดิม)

อังเคล ดิ มาเรีย

และ เมมฟิส เดอปาย ...

ที่ว่ามาถือว่ามีฝีเท้าดีพอตัว โดยเฉพาะ 2 รายหลังสุดที่ถูกตั้งความหวังเอาไว้สูงลิบ แต่ผลที่ออกมากลับทำให้แฟนบอลผิดหวังเป็นอย่างมาก

ส่วนหนึ่งคงมาจากแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามาสู่ตัวนักเตะ ไม่ว่าจะจากทีม, แฟนบอล หรือ สื่ออังกฤษที่คอยจับตาดูอยู่ทุกฝีก้าว

การมาเป็นสตาร์เด่นของสโมสรที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันหลีกหนีเรื่องราวต่างๆไม่ได้ เพราะนอกจากผลงานในสนามต้องคงเส้นคงวาแล้ว พวกเขาเหล่านั้นต้องรับมือกับแรงกดดันจากภายนอก

ถึงตรงนี้หากเป็นไปตามที่สื่ออังกฤษคาดการ และเป็นไปตามภาพที่หลุดออกมา อเล็กซิส ซานเชซ จะเข้ามาสานต่อในตำแหน่งเบอร์ 7 คนใหม่ให้กับทีม

ด้วยฝีเท้า, บุคลิก และตัวตนของกองหน้าชาวชิลีรายนี้ ก็ตองบอกว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง

อีกทั้งยังมีประสบการณ์กับ พรีเมียร์ลีก มานาน เขาทรายดีถึงการรับมือกับเรื่องราวต่างๆ อีกทั้งแฟนบอลก็รู้ถึงพิษสงยามที่นักเตะทีมชาติชิลีรายนี้อยู่ในช่งที่เข้าฝัก

แต่ท้ายที่สุดผลงานในสนามจะเป็นตัวพิสูจน์และบอกกับทุกคนเองว่า (ว่าที่) หมายเลข 7 คนใหม่ ที่กำลังจะเข้ามา สอบผ่านหรือไม่ ... 

ทุกคนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด