:::     :::

ภารกิจเขย่าท็อปโฟร์ของฮอฟเฟนไฮม์

วันอังคารที่ 11 มกราคม 2565 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
1,274
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฮอฟเฟนไฮม์ ยุค เซบาสเตียน เฮอเนส เทรนเนอร์วัย 39 ปีพร้อมก้าวขึ้นมาไล่ล่าตั๋วเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้งในฤดูกาลนี้

ฮอฟเฟนไฮม์ ยังอยู่ระดับดิวิชั่น 5 ของลีกเมืองเบียร์เมื่อปี 2000 ก่อนสโมสรจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ได้รับเงินสนับสนุนจาก ดีทม่าร์ ฮ็อปป์ เจ้าพ่อซอฟต์แวร์จนกระทั่งเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นบุนเดสลีกาครั้งในประวัติศาสตร์ในซีซั่น 2008-2009 

พวกเขาจบซีซั่น 2017-2018 ฐานะทีมอันดับ 3 ของบุนเดสลีกาภายใต้การดูแลของ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ ในขณะนั้น ซึ่งเป็นผลงานดีสุดในประวัติศาสตร์สโมสร ก่อนผ่านเข้าไปเล่นรายการแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกด้วย

นับจากปี 2009 เล่นเกมในบ้านที่ ไรน์-เนคคาร์-อาเรน่า (ปัจจุบันรู้จักกันในชือ เปรเซโร่ อาเรน่า) หลังเคยเล่นบนสังเวียน ดีทมาร์-ฮ็อปป์-สตาดิโอน ตั้งแต่ปี 1999

ฮอฟเฟนไฮม์ โอกาสลุ้นเล่นรอบแบ่งกลุ่มตั้งแต่ซีซั่น 2017-2018 หลังจบอันดับ 4 ของฤดูกาลก่อนหน้านั้น แต่พวกเขาพ่ายต่อ ลิเวอร์พูล ในการเล่นรอบเพลย์ออฟ 2 เกม ด้วยสกอร์รวม 3-6 หลุดไปเล่นรายการยูโรปาลีก ก่อนตกรอบแบ่งกลุ่มฐานะบ๊วยจากสโมสรร่วมกลุ่มอย่าง บราก้า, ลูโดโกเร็ตส์ และ บาชัคเชฮีร์ 


อย่างไรก็ตาม นาเกลส์มันน์ นำ ฮอฟเฟนไฮม์ ลงสัมผัสรอบแบ่งกลุ่มของแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกในฤดูกาล 2018-2019 ทว่าลงเอยด้วยความผิดหวังไม่ชนะใครจากการลงเล่น 6 เกมและเก็บได้เพียง 3 คะแนนเท่านั้นในการเผชิญหน้ากับทีมที่มีประสบการณ์เหนือกว่าอย่าง แมนฯซิตี้, โอลิมปิก ลียง และ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค 

จากนั้น นาเกลส์มันน์ ย้ายไปทำงานกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 รวมถึงการสูญเสียผู้เล่นตัวหลักหลายคน แต่ ฮอฟเฟนไฮม์ ยังจบซีซั่นนั้นด้วยอันดับ 6 คว้าตั๋วลุยยูโรปาลีก 

หลังเคยมีประสบการณ์บนเวทียุโรปครั้งแรกในซีซั่นก่อนหน้านั้น ฮอฟเฟนไฮม์ ทำผลงานยอดเยี่ยมในรอบแบ่งกลุ่ม สถิติชนะ 5 เสมอ 1 เมื่อเผชิญหน้ากับทีมที่เกรดด้อยกว่าอย่าง เซอร์เวน่า ซเวซด้า, สโลวาน ลิเบเรช และ เกนท์ แต่พวกเขาตกม้าตายเพียงรอบ 32 ทีม หลังการปราชัยต่อ โมลด์ ของนอร์เวย์ด้วยสกอร์รวม 3-5


ทีมของ เซบาสเตียน เฮอเนส ยังทำผลงานบนเวทีบุนเดสลีกาไม่ดีนัก โดยจบซีซั่น 2020-2021 อันดับ 11 แต่ ฮอฟเฟนไฮม์ ของเทรนเนอร์วัย 39 ปีกำลังจะกลับมาท้าทายท็อปโฟร์อีกครั้งในซีซั่นนี้ 

ฮอฟเฟนไฮม์ เปิดฉากซีซั่นนี้ด้วยการบุกชนะ เอาก์สบวร์ก 4-0 จากนั้นออกอาการเป๋เล็กน้อยเก็บได้เพียง 2 คะแนนจากการลงเล่น 4 เกมถัดมา จนกระทั่งกลับมาคว้าชัยชนะเหนือ โวล์ฟสบวร์ก 3-1 ในเกมสัปดาห์ที่ 6 

ทีมของ เฮอเนส ยังพ่ายอีก 3 ครั้งจากการลงเล่น 5 เกมต่อมาโดยเก็บชัยชนะเหนือ โคโลญจน์ กับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เท่านั้น 

ผ่านมาถึงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ฮอฟเฟนไฮม์ กลับมาเครื่องติดอีกครั้งด้วยการคว้าชัย 4 เกมติดต่อกัน และไม่แพ้ตลอด 7 เกมหลังสุดหลังเริ่มต้นศักราช 2022 ด้วยการเปิดบ้านทุบ เอาก์สบวร์ก 3-1 จากการเหมาสองประตูของ อีลาส เบบู ทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของเวทีบุนเดสลีกาตามหลังเฉพาะ บาเยิร์น มิวนิค กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เท่านั้น


'เรากำลังเดินหน้าได้ดีแและจัดการต่อเรื่องที่เราทำค้างไว้' เบบู ซึ่งเคยทำแฮตทริคในเกมชนะ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ 6-3 ในเกมสัปดาห์ที่ 13 กล่าว 'เราสามารถต่อยอดจากชัยชนะนี้ ผลลัพธ์ทำให้เรามีความเชื่อมั่นและความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น'

ดาวิด รวม แบ็กซ้ายวัย 23 ปีซึ่งทำประตูปิดกล่องจากชัยชนะเหนือ เอาก์สบวร์ก 3-1 ในเกมล่าสุดกล่าวเสริมว่า 'ผมไม่ได้ดูอันดับในฤดูกาลนี้้ด้วยซ้ำ การคำนวณทั้งหมดนี้ไม่ได้ช่วยอะไร เราจะพยายามทำให้ดีที่สุดในแต่ละเกม แล้วเราจะได้เห็นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตอนจบ'

ส่วน เฮอเนส เทรนเนอร์วัย 39 ปีกล่าวในทำนองเดียวกับลูกทีมว่า 'คุณยังไม่ได้รับอะไรเลย' แม้ว่า ฮอฟเฟนไฮม์ จะพุ่งขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของลีกเมืองเบียร์หลังแมตช์เดย์ที่ 18

ผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจ


ไม่ว่า รวม หรือ เฮอเนส จะมองดูที่อันดับคะแนนในตารางตอนนี้หรือไม่ แต่มีความคาดหวังเพิ่มมากขึ้นหลัง ฮอฟเฟนไฮม์ ดึง เซบาสเตียน บุตรชายของ ดีเตอร์ เฮอเนส ตำนานกองหน้าทีมชาติเยอรมัน และเป็นหลานชายของ อูลี่ เฮอเนส อดีตประธานสโมสร บาเยิร์น มิวนิค จากทีมเยาวชนเสือใต้มารับตำแหน่งเทรนเนอร์ในช่วงซัมเมอร์ปี 2020

การมีสายเลือดฟุตบอลเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การฝึกสอนฟุตบอลที่มีประสิทธิภาพเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และเทรนเนอร์คนใหม่ของ ฮอฟเฟนไฮม์ ก็มีเช่นกัน หลังการนำทีมสำรองเสือใต้คว้าแชมป์ดิวิชั่น 3 ครั้งแรกในซีซั่น 2019-2020

เฮอเนส นำ ฮอฟเฟนไฮม์ จบฤดูกาล 2020-2021 อันดับ 11 แต่ปีที่สองภายใต้การทำงานของเทรนเนอร์วัย 39 ปี วิธีการทำงานของเขาเริ่มเห็นผลมากขึ้น 

ฮอฟเฟนไฮม์ มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังการย้ายมาร่วมทัพของ เซบาสเตียน รูดี้ กับ คริส ริชาร์ดส์ โดยฝ่ายหลังเคยทำงานร่วมกับ เซบาสเตียน ในทีมสำรองของ บาเยิร์น มิวนิค เขาย้ายมาเล่นด้วยสัญญายืมตัวเป็นปีที่สองติดต่อกัน ขณะที่ อันเจโล่ สตีลเลอร์ มิดฟิลด์วัย 20 ปี ที่ออกมาจากทีมดังแคว้นบาวาเรียเช่นเดียวกัน

ส่วน รวม เคยเป็นดาวเด่นที่มีส่วนช่วย กรอยเธอร์ เฟือร์ธ เลื่อนชั้นขึ้นสู่เวทีบุนเดสลีกาและคว้าแชมป์ยุโรปร่วมกับทีมชาติเยอรมันชุดยู-21 ปี ก่อนจะเซ็นสัญญากับ ฮอฟเฟนไฮม์ ฐานะฟรีเอเจนต์ 

การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

จากความสำเร็จในเกมเปิดซีซั่นที่บุกยิงสลุต เอาส์บวร์ก 4-0 แต่ฟอร์มของ ฮอฟเฟนไฮม์ ค่อนข้างแกว่งหลังจากนั้น ก่อนทีมของ เฮอเนส จะปรับจูนจนกลับมาทำผลงานคงเส้นคงวามากขึ้นนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 

ส่วนหนึ่งมาจาก เฮอเนส ปรับจากระบบแนวรับ 4 คนมาเป็น 3 คน ทั้งระบบ 3-4-3 และ 3-5-2 นั่นมีผลทำให้ ฮอฟเฟนไฮม์ ปิดฉากปี 2021 ฐานะทีมอันดับ 5 และยิงประตูมากสุดอันดับ 4 ของลีกน้อยกว่า บาเยิร์น มิวนิค, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ เลเวอร์คูเซ่น เท่านั้น


อเล็กซานเดอร์ โรเซ่น ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของ ฮอฟเฟนไฮม์ กล่าวว่าทีมสามารถมองย้อนกลับไปด้วยความภูมิใจและความพึงพอใจ 

'มันเป็นการคว้าอันดับ 3 ดีสุดของเรานับตั้งแต่ ฮอฟเฟนไฮม์ อยู่ในบุนเดสลีกา' โรเซ่น กล่าว 'ผมคิดว่าคุณสามารถเก็นได้จากช่วงกลางๆว่าเรายืนหยัดเพื่ออะไร มีโอกาสมากมาย, เล่นเกมรุก, พลัง, การวิ่ง, การสปรินท์ และ การผ่านบอล'

ฮอฟเฟนไฮม์ เคยมาอยู่จุดนี้มาก่อน แน่นอนว่าการคว้าอันดับ 4 และอันดับ 3 ในยุคของ นาเกลส์มันน์ ในซีซั่น 2016-2017 และ 2017-2018 รวมถึงการคว้าอันดับ 6 ในฤดูกาล 2019-2020

กลุ่มผู้เล่นสำคัญมีส่วนร่วมกันอีกครั้งในฤดูกาลนี้ ทั้งผู้รักษาประตู โอลิเวอร์ เบามันน์, กองหลัง เควิน โฟ้กท์ และ พาเวล คาเดราเบ็ค, มิดฟิลด์ตัวรับ ฟลอเรียน กิลลิตช์ กับ เซบาสเตียน รูดี้ และกองหน้าชาวโครแอต อันเดร ครามาริช


ฮอฟเฟนไฮม์ ชุดปัจจุบันเป็นการผสมผสานระหว่างผู้เล่นประสบการณ์ข้างต้นและนักเตะพรสวรรค์ที่กำลังพัฒนา รวมถึงผู้มาใหม่อย่าง อีลาส เบบู และ ดาวิด รวม 

นักเตะหลายคนยังสร้างความประทับใจทั้งกองหลัง คริส ริชาร์ดส์, สองมิดฟิลด์ เดนนิส ไกเกอร์ และ เดียดี้ ซามาสเซกู รวมถึงสองแนวรุกดาวรุ่ง คริสตอฟ บอมการ์ทเนอร์ และ จอร์จินิโอ รุตเตอร์ 

ทั้งหมดนี้เป็นขุมกำลังที่น่าตื่นเต้น แม้กระทั่ง สเตฟาน รอยเตอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของ เอาก์สบวร์ก ยังกล่าวชื่นชมผลงานของ ฮอฟเฟนไฮม์ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวระหว่างไลน์ของ ครามาริช ขณะที่ บอมการ์ทเนอร์ และ ไกเกอร์ หาจังหวะจ่ายบอลอย่างรวดเร็วจนยากต่อการสกัด 

'ฮอฟเฟนไฮม์ เล่นด้วยความนิ่ง, รวดเร็วและกับเป้าหมายไปสู่การทำประตูคู่แข่ง' รอยเตอร์ กล่าว 'พวกเขาอยู่ที่นั่น (ตารางคะแนน) และคาดว่าพวกเขาจะอยู่ที่นั่นไปจนจบแม้ว่าจะมีการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นก็ตาม'

ไม่เคยยอมแพ้

เฮอเนส แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ฮอฟเฟนไฮม์ ยุคเขาจะไปในทิศทางเดียวกัน ในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลทีมของเทรนเนอร์วัย 39 ปีมีผู้ทำประตูต่างกันมากถึง 16 คน 

'เราแสดงให้เห็นแคแร็กเตอร์ของพวกเรา อย่างที่เราทำมาตลอดทั้งฤดูกาล' ริชาร์ดส์ กล่าว 'เราเล่นเพื่อกันและกันและต่อสู้ไปด้วยกัน แต่ละทีมต่างทราบดีเมื่อพวกเผชิญหน้ากับเรา'

'ในช่วง 2-3 เกมที่ผ่านมา เราแสดงให้เห็นแล้วว่าเราสามารถพลิกเกมแบบนี้ได้' รูดี้ กล่าวถึงเกมบุกเสมอ เลเวอร์คูเซ่น 1-1 ในแมตช์เดย์ที่ 16 'การที่เราไม่เคยยอมแพ้เป็นหนึ่งในจุดแข็งของเรา'


ฮอฟเฟนไฮม์ ตามหลัง 0-2 จนถึงนาที 80 ก่อน สตีลเลอร์ กับ มูนาส ดับบูร์ สองผู้เล่นสำรองจะลงมาช่วยทำคนละประตูตามตีเสมอสำเร็จ 

'เรามีการแข่งขันในระดับที่น่าเหลือเชื่อสำหรับสถานที่และเราแข็งแกร่งเป็นพิเศษในการเล่นเกมรุก' ดับบูร์ กล่าว 'ในฐานะนักฟุตบอลในสถานการณ์เช่นนี้ คุณต้องแสดงให้เห็นเมื่อถูกเรียกร้อง'

ดับบูร์ เป็น 1 ใน 11 นักเตะฮอฟเฟนไฮม์ที่ยิงอย่างน้อย 2 ประตูบนเวทีบุนเดสลีกาซีซั่นนี้ โดยมี เบบู เป็นผู้นำดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรจากผลงาน 7 ประตู หลังกองหน้าวัย 27 ปีเพิ่งขยายสัญญาจนไปจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2026 ในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา 


'ผมค้นพบการผสมผสานที่ลงตัวของการสนับสนุน, ความไว้วางใจและโอกาสในการฝึกซ้อมที่ดีที่นี่' เบบู กล่าว 'มันเป็นทีมที่ ไม่เพียงแต่ส่งเสริมแนวคิดเรื่องสปิริตของทีม แต่ยังฝึกซ้อมมันในแต่ละวัน นั่นเป็นเหตุผลที่ผมตั้งตารอและตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต'

กองหน้าทีมชาติโตโกย้ายมาอยู่กับ ฮอฟเฟนไฮม์ หลัง ฮันโนเวอร์ ตกชั้นในปี 2019 ซึ่ง เบบู ยกระดับฟอร์มการเล่นจากซีซั่นก่อนที่ยิง 9 ประตู ตอนนี้เขากดไปแล้ว 7 ประตูและคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรประจำเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนที่ผ่านมา 


ก่อน โอลิเวอร์ เบามันน์ นายทวารวัย 31 ปีจะคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรประจำเดือนธันวาคม หลังได้รับคะแนนโหวต 64 เปอร์เซ็นต์เหนือกว่าทั้ง เควิน โฟ้กท์ และ มูนาส ดับบูร์ ฉลองการทำข้อตกลงใหม่ไปจนถึงปี 2024 นั่นจะทำให้เขาอยู่กับ ฮอฟเฟนไฮม์ นานถึง 10 ปี

'เราประสบความสำเร็จมากมายในฐานะทีมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผ่านเข้ารอบยูโรปาลีก 2 ครั้งและได้เล่นแชมเปี้ยนส์ลีกเพียงครั้งเดียว และผมมั่นใจว่าเราทุกคนมีอนาคตที่น่าตื่นเต้นรออยู่ข้างหน้าที่นี่ หากเรายังเดินหน้าทำงานด้วยกันเช่นนี้ต่อไป' เบามันน์ กล่าว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด