ข่าวที่สร้างความฮือฮาให้วงการลูกหนังช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาก็คืออภิมหาสัญญาที่ เปแอสเช เตรียมยื่นให้ คิลิยัน เอ็มบั๊บเป้ พิจราณา

        รายละเอียดที่มีการนำมาเปิดเผยต้องบอกว่า ใครยังใจแข็งอยู่ได้นี่ ต้องเป็นยอดคนจริงๆ 

เอาเฉพาะตัวเลขค่าเหนื่อยนำเสนอว่า เปแอสเช พร้อมจ่ายให้ เอ็มบั๊บเป้ สัปดาห์ละ 1 ล้านยูโร บางแหล่งข่าวก็บอกว่าทะลุไปถึง 1.2 ล้านยูโร แต่รวมๆแล้วคิดเป็นรายได้ปีละ 50 ล้านยูโร 

ค่าเหนื่อยนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้หัวหอกเฟร้นช์แมนขึ้นแท่นนักเตะค่าเหนื่อยสูงสุดในทีมแซงหน้า เลโอ เมสซี่ กับ เนย์มาร์ เท่านั้น แต่ยังจะกลายเป็นแข้งที่มีค่าเหนื่อยสูงสุดในตลาดอีกด้วย 

นอกจากนั้นแล้วยังมีโบนัสเตรียมไว้ให้อีกก้อนโต โดยขึ้นอยู่กับผลงานของทีมและส่วนตัว เอ็มบั๊บเป้ เอง 

ตรงนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจน แต่คร่าวๆคือหาก เอ็มบั๊บเป้ นำทีมคว้าแชมป์รายการใหญ่,คว้ารางวัลส่วนตัว , ยิงประตูได้ตามที่กำหนด ลงสนามผ่านเกณฑ์ หากทำได้ครบตามเงื่อนไข ก็จะได้รับเงินสูงสุดเกือบเท่าตัวของค่าเหนื่อยรายปีเลย 

ค่าเหนื่อยตีกลมๆ 50 ล้านยูโร โบนัสสูงสุดก็จะต้องไม่ต่ำกว่า 70-80 เมื่อรวมแล้ว ตัวเลขจะวิ่งไปถึง 120-130 ล้านยูโรเลยทีเดียว 

จ่ายหนักแค่ฝั่ง เอ็มบั๊บเป้ ก็อาจดึงดูดไม่พอ เปแอสเช ตั้งใจเปย์ให้กับครอบครัวของเขาซึ่งพ่วงตำแหน่งเอเยนต์แบบจัดเต็มอีกด้วย 

รายงานว่า ค่าตอบแทน หรือคอมมิชชั่นที่ครอบครัวของ เอ็มบั๊บเป้ จะได้รับนั้น มีมูลค่าที่สูงชนิดที่ว่าไม่เคยมีเอเยนต์คนไหนเคยได้รับส่วนแบ่งจากสโมสรสูงเท่านี้มาก่อน  

แต่แจกเงินยังไม่มากพอ ภายในสัญญาฉบับใหม่นี้ เอ็มบั๊บเป้ ยังมีความพิเศษเหนือไปกว่านั้น คือเจ้าตัวจะได้สัญญาด้านโฆษณาจากบริษัทต่างๆที่อยู่ในเครือหรือเป็นพันธมิตรกับ Qatar Sports Investments

กรณีนี้ เอ็มบั๊บเป้ จะถูกวางให้เป็นบุคคลสำคัญในกลยุทธ์ภาพลักษณ์ระดับโลกที่ กาตาร์ เตรียมไว้สำหรับการประชาสัมพันธ์ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจมาถึง 

กล่าวอีกนัยหนึ่งหัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสจะเป็นตราสัญลักษณ์ของการแข่งขันฟุตบอลโลกกาตาร์ซึ่งไม่เพียงเสริมภาพลักษณ์ส่วนตัวของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเสื้อทีมชาติฝรั่งเศสด้วย

ส่วนเรื่องของโปรเจคต์ด้านฟุตบอล แน่นอนที่สุดว่า เอ็มบั๊บเป้ จะถูกยกให้เป็นแกนกลางของสโมสร ทุกย่างก้าวในอนาคตของ เปแอสเช จะขึ้นอยู่กับเขาเป็นสำคัญ 

สุดท้าย ที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ "ระยะเวลาของสัญญาฉบับใหม่"

สัญญาฉบับใหม่ที่ทาง เปแอสเช ยื่นให้พิจราณา เอ็มบั๊บเป้ มีระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปีพร้อมอ๊อปชั่นต่อเพิ่มเพียงเท่านั้น ซึ่งถือว่าผิดแผกไปจากข้อเสนอเดิมๆที่ผ่านมา 

ตรงนี้เห็นชัดว่า เปแอสเช ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ จากที่เคยยื่นข้อเสนอสัญญาระยะยาว เมื่อถูกปฏิเสธหลายครั้ง จึงตระหนักว่า เอ็มบั๊บเป้ ไม่ต้องการสัญญาที่ผูกมัดยาวนานแบบนั้น จึงปรับให้สั้นลง

พูดเป็นภาษาด้าน มาร์เก็ตติ้ง ก็ปรับกลยุทธ์เพื่อให้ตรงใจกับผู้บริโภคนั่นเอง เมื่อ เอ็มบั๊บเป้ ไม่ต้องการผูกมัดในสัญญาระยะยาว ก็ปรับให้สั้นลงซะเลย ซึ่งระยะเวลา 1 ปี+อ๊อปชั่นต่อเพิ่มได้นั้น ถือว่าไม่สร้างความกดดันให้กับ เอ็มบั๊บเป้ จนเกินไป 

กระตุ้นให้เกิดความสนใจและการตัดสินใจที่ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องพะวงว่าจะมีภาระผูกพันในะระยะยาวอย่างที่ผ่านๆมา ซึ่งใครจะรู้ว่าเมื่อ เอ็มบั๊บเป้ อยู่ต่ออีก 1 ปีแล้ว ความคิดของเขาอาจเปลี่ยนแปลงไปก็ได้

ครับ ตรงนี้ ต้องบอกก่อนว่ายังคงเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ยังไม่มีการยืนยันที่ชัดเจนจากฝั่ง เปแอสเช หากแต่ก็พอให้คิดได้ว่ามีความเป็นได้สูงอยู่แล้วที่ ยักษ์ใหญ่ปารีเซียงจะกระทำการเช่นนี้ เพราะพวกเขาไม่ต้องการเสียดาวเตะคนสำคัญที่สุดของทีมไป 

เพียงแต่ว่าเรื่องของรายละเอียด อาจไม่ตรงตามที่สื่อฝั่งอังกฤษนำเสนอทั้งหมดก็เป็นได้ เวลานี้ก็ควรฟังหูไว้หูก่อนที่จะตัดสินใจเชื่ออะไร 

กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่าข่าวนี้ สร้างแรงกระเพื่อมอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกับสื่อฝั่งสเปน และแฟนๆของ เรอัล มาดริด 

ที่ผ่านมา สื่อแดนกระทิงดุมีการนำเสนอมาโดยตลอดว่า เอ็มบั๊บเป้ กับ เรอัล มาดริด นั้นคือเส้นทางที่ขีดไว้แล้ว บางสื่อนำเสนอไปถึงจุดที่ว่าทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงแบบพรีคอนแทค หรือสัญญาเบื้องต้นกันเรียบร้อยแล้ว 

 ไม่ว่าช้าหรือเร็ว เอ็มบั๊บเป้ กับ เรอัล มาดริด ก็จะต้องโคจรมาอยู่ร่วมกัน แต่เมื่อเจอข่าวนี้เข้าไป อะไรๆที่เคยมั่นใจก็ชักจะสั่นคลอนเหมือนกัน 

น่าสนใจมากครับว่าสุดท้ายแล้ว ซัมเมอร์ปีนี้ โลกลูกหนังจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด 

เอ็มบั๊บเป้ จะหักปากกาเซียนโดยรั้งอยู่ที่ปารีสอันเนื่องจากอภิมหาสัญญาที่มิอาจปฏิเสธได้ หรือจะยังคงมุ่งหน้าสู่มหาครมาดริดตามความฝันในวัยเยาว์ 

เจมส์ ลา ลีกา