สำหรับฟาบินโญ่ โดยเฉพาะฤดูกาลนี้ ที่สามารถประตูไปแล้ว 6 ลูกรวมทุกรายการ พร้อมกับการบัญชาเกมแดนกลางให้กับพลพรรค “หงส์แดง” อย่างที่เราทราบกัน นอกจากการเล่นตำแหน่งกองกลางแล้ว เจ้าตัวยังสามารถถอยลงไปเล่นเป็นปราการหลังได้อีกด้วย
แน่นอนว่า กว่าที่ฟาบินโญ่ จะก้าวมาเป็นนักเตะตัวหลักของทางลิเวอร์พูล เขาต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเอง รวมไปถึงการปรับตัวอย่างหนัก เขาต้องอาศัยเวลาที่ยาวนาน จมอยู่บนม้านั่งสำรอง กว่าจะมีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ และยึดตำแหน่งมาได้ตลอดเหมือนทุกวันนี้
ช่วงนี้ เราลองไปย้อนความทรงจำหน่อยว่า ฟาบินโญ่ ต้องผ่านพ้นอะไรมาบ้าง รวมถึงปัจจัยในการปรับตัวอย่างหนัก ในการย้ายจากโมนาโก ในลีกฝรั่งเศส มาเล่นในลีกมหาโหดอย่างพรีเมียร์ลีก ท่ามกลางคนที่สบประมาทว่า เขาไม่น่าจะพิสูจน์ตัวเองได้
“ความอดทนคือสิ่งจำเป็น” ฟาบินโญ่ เริ่มเล่า
ย้อนกลับไปศึกพรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2018-19 ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะเวสต์แฮม 4-0 โดยนักเตะหน้าใหม่อย่างฟาบินโญ่ ทำได้เพียงแค่ซึมซับบรรยากาศในสนามแอนฟิลด์ อยู่บนม้านั่งสำรอง เขาไม่รู้อนาคตของตัวเองเลยว่า เขาต้องเผชิญหน้ากับการปรับตัวที่แสนยาวนาน
สถิติที่น่าตกใจบ่งบอกว่า จากวันที่จรดปากกาเซ็นสัญญากับทัพ “หงส์แดง” อย่างเป็นทางการนั้น “152 วัน” คือจำนวนวันที่ฟาบินโญ่ ต้องเฝ้ารอการลงสนามในฐานะตัวจริงเป็นครั้งแรก ซึ่งวันเวลาที่แสนยาวนานขนาดนั้น นักเตะบางคนอาจถอดใจ หรือท้อถอยกลางทางไปแล้ว
ดาวเตะวัย 28 ปี กล่าวต่อว่า “ผมคอยเพ่งความสนใจไปที่แฟนบอลของลิเวอร์พูล ย้อนไปเกมกับเวสต์แฮม นี่คือสิ่งสำคัญที่ผมจำได้ การได้ยินเสียงขับขานบทเพลง YNWA ทำให้ผมขนลุกเลยล่ะ”
“ช่วงปรีซีซั่น ผมได้ลงเล่นตลอดทุกเกม อย่างไรก็ตาม เมื่อฤดูกาลได้เริ่มต้นขึ้น ผู้จัดการทีมอย่างเจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจเลือกใช้กลุ่มนักเตะที่เล่นด้วยกันมาเป็นเวลานานลงสนามก่อน”
สำหรับฟาบินโญ่ การนั่งอยู่บนม้านั่งสำรองมีข้อดีเหมือนกัน เพราะมันเป็นสถานที่ที่เอาไว้ให้นั่งมองภาพรวมของเกมทั้งสนาม เพื่อที่จะคอยจับจังหวะของลีกมหาโหดอย่างพรีเมียร์ลีก ให้รวดเร็วที่สุด และเป็นจุดประสงค์ของกุนซืออย่างเจอร์เก้น คล็อปป์ เช่นเดียวกัน
โดยเขาบอกว่า “มันเป็นเรื่องของการเรียนรู้ และเฝ้ามอง การนั่งชมเกมจากข้างสนามนั้น ช่วยในเรื่องของการดูว่า ทีมมีลักษณะการทำงานเป็นอย่างไร”
“ผมหวังว่าตัวเองจะมีโอกาสลงสนาม ผมรู้ดีว่ามันต้องมีวันนั้นแน่นอน ดังนั้น ผมจึงต้องใช้ความอดทน ผ่านการทำงานอย่างหนัก การเล่นในพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะกับตำแหน่งกองกลาง คุณไม่มีเวลามานั่งคิดหรอก”
“2-3 เกมแรก ผมคิดว่าตัวเองทำได้ดี ทว่าผมต้องเร็วให้มากขึ้น คล็อปป์ ต้องการให้ผมเรียนรู้ว่าทีมเล่นกันอย่างไร และอะไรคือหน้าที่ของผม”
ฟาบินโญ่ กล่าวถึงทัศนคติที่ยอดเยี่ยมว่า “ผมต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเอง ทุกอย่างเป็นเรื่องของกรอบเวลา แม้ว่าผมจะผิดหวังที่ไม่ได้ลงสนามในทันที แต่ผมก็ตระหนักดีว่า การทำงานหนัก และการเรียนรู้ คือสิ่งที่จะนำพาตัวผมไปอยู่ในจุดที่ต้องการ พร้อมกับทำให้โค้ชเห็นแล้วว่า เขาสามารถไว้ใจในตัวผมได้”
นอกจากการเรียนรู้แล้ว การพัฒนาเชิงกายภาพ คือสิ่งที่ฟาบินโญ่ ให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน การเล่นในลีกที่เน้นการปะทะอย่างพรีเมียร์ลีก ทำให้เขาต้องมุ่งหน้าเข้าโรงยิม เพื่อเพิ่มเติมความแข็งแกร่ง และความฟิตของตัวเอง
กองกลางทีมชาติบราซิล กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “ผมต้องการเวลาในการปรับปรุงร่างกาย การปรับตัวไม่เพียงส่งผลต่อลิเวอร์พูล แต่ยังรวมถึงการเพิ่มความรวดเร็ว และความแข็งแรงในการเล่นพรีเมียร์ลีก”
จากคนที่นั่งอยู่ข้างสนามเป็นหลักในช่วงแรก วันนี้ฟาบินโญ่ กลายเป็นกองกลางเจ้าของส่วนสูง 6 ฟุต 2 ที่แสนสงบนิ่ง และมีสายตาที่มองเห็นความอันตรายที่รายล้อมตัวเขาในสนาม แน่นอนว่า “ความอดทน” นำพาเขามาอยู่ในฐานะ “ฟันเฟืองสำคัญ” ของลิเวอร์พูล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
