แม้จะมี ธีรศักดิ์ เผยพิมาย หัวหอก และ อนุศักดิ์ ใจเพชร กองหลังที่อายุเข้าเกณฑ์ตามกำหนด แต่ภาพรวมกระดูกบอลยังห่างจากคู่แข่งร่วมกลุ่มอย่าง เวียดนาม และ สิงคโปร์ ที่อายุเยอะกว่าพอสมควร
แถมระยะเวลาการฝึกซ้อมและรวมตัวกันมีเพียงสัปดาห์เดียว คงเป็นเรื่องยากที่ ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย จะจูนเครื่องให้ลงล็อกได้ทันเวลา
แต่ “ซัลบาร์” ยังเชื่อมั่นนักเตะชุดนี้ เพราะส่วนใหญ่เคยสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตั้งแต่คุมทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี กระทั่งหักปากกาเซียนทะลุเข้าชิงดำสำเร็จ
การแพ้ เวียดนาม แค่ประตูเดียวไม่มีอะไรต้องเสียใจ เพราะก่อนเกมไม่กี่ชั่วโมงมีนักเตะไทยถูกตรวจพบเชื้อโควิด-19 ถึง 8 ราย
บางรายถือเป็นตัวหลักของทีม ทำให้มีการเปลี่ยนผู้เล่น 3 ตำแหน่ง ด้วยการถอย “อนุศักดิ์” ไปยืนแบ็คขวาแทน “วาริส” และใช้ “ชนภัช” จับคู่กับ “ธีร์กวิน”
ตัวรุกไม่มี ธีรศักดิ์ และ นิพิฐพนธ์ ที่ยิงรวมกัน 4 ประตู ทำให้ต้องใช้ วรเดช บุญมาขจรกิจ และ ธนวุฒิ โพธิ์ชัย กองหน้าวัย 16 ปี ลงสนามแทน
ต้องยอมรับว่าการจัดการแข่งขันรายการนี้ยังคงไร้มาตรฐาน มีอย่างที่ไหนผลตรวจโควิด-19 ออกก่อนการแข่งขันแค่ไม่กี่ชั่วโมง แบบนี้คงยากที่จะรับมือทัน โดยเฉพาะการบินข้ามประเทศซึ่งต้องผ่านกระบวนการอันซับซ้อน
นั่นทำให้ “ซัลบา” เลือกที่จะสู้ต่อและไม่เรียกแข้งรายใดมาเพิ่ม แม้ว่าทางสมาคมฯ จะเติมนักเตะไปเสริมทัพ เพื่อรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินไว้แล้วก็ตาม
ส่วน เวียดนาม ตลอดทัวร์นาเมนต์พวกเขามีนักเตะติดโควิด-19 หลายคนตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบชิงชนะเลิศและมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นถึง 10 คน ทำให้ทัพ “ดาวทอง” ที่ได้เปรียบเรื่องอายุเราอยู่แล้ว ยิ่งได้เปรียบเราเข้าไปอีกเรื่องความสด
แต่กว่าแข้งพลังเหงียนจะเอาแข้งไทยอยู่ ก็ออกอาการรากเลือด และต้องนอนฆ่าเวลาอยู่หลายจังหวะ
ตรงนี้ต้องชมความเป็นนักสู้ของแข้งพลังหนุ่มของไทยจริงๆ แม้ตอนอวสานจะเต็มไปด้วยคราบน้ำตา แต่สำหรับทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชุดรองแชมป์อาเซียนคือพระเอกของแฟนบอลอย่างไร้ข้อกังขา
โดยหลังจบทัวร์นาเมนต์นักเตะไทยติดทีมยอดเยี่ยมถึง 3 คน คือ ธวัชชัย อินทร์ประโคน แบ็คซ้าย, ชนภัช บัวพันธ์ กองกลัง และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กองหน้าที่ยิงไป 3 ประตู รางวัลดาวซัลโวไปครอง ซึ่งกลายเป็นแข้งไทยคนแรกที่ได้ในรายการนี้
นี่เป็นการการันตีว่านักเตะชุดนี้สอบผ่าน และการให้พวกเขาแบกอายุมาประลองเชิงกับรุ่นพี่มันคุ้มค่ามากๆ
จากนี้หวังว่าทุกคนจะนำข้อบกพร่องไปแก้ไขเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เพื่อก้าวมาเป็นกำลังของทีมชาติไทยในอนาคตต่อไป
ส่วนการต่อยอดไปเล่นฟุตบอลเยาวชน ชิงแชมป์โลกตามที่ “ซัลบา” ตั้งเป้าไว้ หากมองความจริงต้องบอกว่ายากเหลือเกิน แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ขอเพียงวางเป้าหมายให้ชัดเจน เตรียมงาน วางโปรแกรมฝึกซ้อม อุ่นเครื่อง สร้างลีกเยาวชนให้แข็งแกร่ง สโมสรกล้าให้โอกาสนักเตะไทยเยอะๆ
นักเตะตั้งเปลี่ยนทัศนคติ ให้รู้จักการกินอาหารให้มีประโยชน์ พักผ่อน สร้างร่างกายให้แกร่งกล้า แค่นี้โอกาสฝันเป็นจริงมีสูง
ซึ่งภาคส่วนทั้งรัฐและสมาคมฯ รวมถึงเอกชน ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง
เพราะเมื่อทำสำเร็จ ทุกคนในชาตินั่นแหละที่จะมีแต่รอยยิ้มกันถ้วนหน้า
