:::     :::

แสงสว่างในวัน "ฉลามพิการ"

วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2565 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,247
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ไม่น่าเชื่อว่า 6 เกมเข้าไปแล้ว ที่ ชลบุรี เอฟซี ยังสะกดคำว่า "ชนะ" ไม่เป็นในลีกสูงสุด ลูกทีมของ "โค้ชเตี้ย"สะสม พบประเสริฐ ออกอาการเมาหมัดมาแบบยาวๆ

แพ้ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด 0-1 (ย), แพ้ โปลิศ เทโร เอฟซี 1-2 (ห), แพ้ สุพรรณบุรี เอฟซี 1-2 (ย), เสมอ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-1 (ห), เสมอ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 1-1 (ย) และ แพ้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-2 (ย)


ด้วยผลแบบนี้ ใครๆก็คงจะคิดว่า “ฉลามชล” หมดมุกไปแล้วจริงๆ แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าในเกมที่ผ่านมา เกิดปัญหาขึ้นมากมายก่อนยกพลออกไปเยือนถิ่น “ปราสาทสายฟ้า” ไม่มี เรนาโต้ เคลิช ที่ติดสัญญายืมตัว รวมทั้ง สหรัฐ สนธิสวัสดิ์, ทรงชัย ทองฉ่ำ กับ จิดี้ คานยุค ที่ติดโทษแบน แถมขาด จูเนียร์ เอลสตอลด์ ที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน ทำให้ลงเล่นด้วยความเสียเปรียบเต็มประตู แต่การแพ้หวุดหวิดแค่ 1-2 นั้นทำให้ยังเห็นมุมมองดีๆ บางอย่างจากทีม

เด็กจากอคาเดมีของ “ฉลามชล” ที่ผ่านการเคี่ยวเข็ญจาก “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ที่เสริมปรัชญาลูกหนังด้วยคำว่า “ห้ามยอมแพ้ใน 90 นาที มีสมาธิกับเกมการแข่งขัน และออกไปสู้ในแบบฉบับของ ชลบุรี เอฟซี” 


แม้ “โค้ชเฮง” จะไม่ได้เข้าไปยุ่งกับการจัดตัวผู้เล่นลงสนาม การรับผิดชอบทุกอย่างอยู่ที่ “โค้ชเตี้ย” แต่คงปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ประธานเทคนิคของสโมสร มีส่วนสำคัญในการพูดกระตุ้นบรรดาดาวรุ่งของทีม ที่ก้าวมาเป็นตัวหลักจนถึงทุกวันนี้

ในสนามวันนั้น "ฉลามชล" ได้ บุคฆอรี เหล็มดี เดินบวก ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กับ ศศลักษณ์ ไหประโคน ไหนจะมี ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ และ จักรพงษ์ แสนมะฮุง ที่โดน โจนาธาน โบลินกี, ธีราทร บุญมาทัน, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม บุกมาแบบไม่ยั้ง

ไม่นับรวม พิทักษ์ พิมพ์แป้ ที่ใช้สปีดส่วนตัวเกือบจะหลุดเข้าไปในเขตโทษ เพียงแต่โดน เรบิน ซูลาก้า ปราการหลังทีมชาติอิรัก อัดจนหัวคะมำ รวมทั้ง รชต หมอรักษา ถูกทั้ง ดิเกา, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และ รัตนากร ใหม่คามิ กระแทกไปจนน่วม


จริงอยู่ที่พวกเขาแพ้ แต่เสียงสะท้อนกลับชื่นชมการเล่นของเหล่า “ฉลามหนุ่ม” กลุ่มนี้ โดยเฉพาะช่วงตีไข่แตกมาได้ 1 ลูก พยายามตั้งเกมบุกเพื่อต่อกรกับว่าที่แชมป์ไทยลีก 2021/2022 อย่างไม่เกรงศักดิ์ศรี ทำให้เรียกเสียงปรบมือได้จากแฟนบอลของทุกสโมสร

หลังจบเกมมีคลิปจากทางเพจของสโมสรชลบุรี เอฟซี ลงเพื่อเป็นการปลุกใจให้นักเตะกลับมายืดอกสู้ เพราะดูแล้วสภาพจิตใจค่อนข้างจะหดหู่ไม่น้อย ซึ่งมีประโยคหนึ่งที่ “โค้ชเตี้ย” ลั่นออกมาว่า 

"ฟุตบอลแม่งเป็นแบบนี้ ตราบใดที่แม่งยังไม่สิ้นสุด พวกมึงก็ต้องมาเทรนกันใหม่ สู้กันใหม่ ไม่มีโลกสวยในวงการฟุตบอลให้พวกมึง แพ้พวกมึงพูดอะไรไม่ได้มาก นอกจากพูดกันในห้องนี้กับพวกมึง จำโมเมนต์ครึ่งหลังไว้ ที่พวกมึงกล้าเล่น กล้าเข้าถึงกัน"


เหมือนเป็นเชื้อไฟที่ดีให้กับ “ฉลามวัยรุ่น" เพราะในเกมล่าสุด ที่ออกไปชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึก ลัก คัพ 2021/2022 แม้จะต้องเล่นถึงต่อเวลา 120 นาที แต่รอยยิ้มก็เริ่มกลับมาอยู่บนสีหน้าของนักเตะและทีมสตาฟฟ์ อย่างเห็นได้ชัด

แมตช์ดังกล่าวไม่มี จิดี้ คานยุค ที่บาดเจ็บ ส่วน จูเนียร์ เอลสตอลด์ กับ ฟาอิค เจฟรี โบเกียห์ ก็ลงไม่ได้ เพราะรายการนี้ใช้โควตา 3+1 ในการลงสนาม แต่การเล่นเกมรับที่มีสมาธิ ใช้การโต้กลับเร็วอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยทีเด็ดจากการจบสกอร์ที่เฉียบคมของ ยู บยองซู เป็นการปิดฉากฝันร้ายของ “ฉลามชล” ที่ไม่ชนะใครมาเดือนเศษรวมทุกรายการ 


จบเกมดังกล่าว “โค้ชเตี้ย” ผายมือทั้งสองพร้อมชูขึ้น เหมือนกับจะสื่อว่า “เป็นไงบ้างครับคุณผู้ชม เด็กของผมเจอกับใครก็ได้” 

เชื่อเถอะว่าชัยชนะที่เกิดขึ้นทำให้ “โมเมนตัม” ของทีมเริ่มกลับมาอีกครั้ง แถมยังสร้างความมั่นใจให้กับเด็กๆของ “ฉลามชล” ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังเจอกับสภาวะแย่ๆจากผู้เล่นในทีมเจ็บและติดโทษแบน จนไม่ชนะทีมใดได้เลยในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา

ขอสดุดีให้กับความเชื่อมั่นในแนวทางและหัวจิตหัวใจของเหล่าทัพ "ฉลามชล" ทุกๆ คนจริงๆ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด