:::     :::

มันยังไม่จบครับนาย

วันพฤหัสบดีที่ 07 เมษายน 2565 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,053
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สิ้นเสียงนกหวีดยาว 90 นาทีเกมสุดสัปดาห์ ทำเอางานเลี้ยงฉลองแชมป์รีโว่ ไทยลีก ซึ่งถูกจัดเตรียมไว้อย่างอลังการต้องพับฉากชนิดเซ็งกันทั้งบาง

เมื่อ  “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พลาดท่า ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ “กว่างโซ้งมหาภัย” ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ไป 1-1 

ทีเด็ดฟรีคิกสุดสวยของ “เกทเทอร์สัน” และขุนพลลูกหนังจากแดนล้านนา ทำให้ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ยังไม่สามารถการันตีตำแหน่งแชมป์อย่างเป็นทางการ

ขณะที่ผู้ล่าอย่าง “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ค่อยๆ ตามมาอย่างช้าๆ ล่าสุดเปิดรังบีจี สเตเดียม ถลุง “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี ยับ 7-2  


ทำให้ช่องว่างของคะแนนห่างกันแค่ 5 แต้ม กับโปรแกรมการแข่งขันที่เหลืออีก 2 นัด อะไรก็เกิดขึ้นได้ 

ซึ่ง “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ต้องการ 2 แต้มจาก 2 นัด ก็จะเช็คบิลทันที แต่การไปเยือน หนองบัว พิชญ ที่ลุ้นจบท็อปทรี และ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่กำลังหนีจากขุมนรกไทยลีก 2 ไม่ง่ายแน่นอน

ส่วน บีจี ปทุมฯ อีก 2 เกมข้างหน้าพวกเขาเจองานเบาไม่ว่าจะเจอ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ฟอร์มนอกบ้านไม่เอาไหน และ ชลบุรี เอฟซี ที่ฟอร์มไม่ดีในช่วงหลัง ในรังเหย้าของตัวเองทั้งหมด 

หาก “ปราสาทสายฟ้า” ฟอร์มกู่ไม่กลับ และ “เดอะ แรบบิท” เดินหน้าคว้าชัยทั้งหมด ก็จะปาดหน้าคว้าแชมป์ทันที 


เอาจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่า “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” จะเจอสถานการณ์แบบนี้ เพราะมีแต้มนำเพียบ และฟอร์มการเล่นแกร่งกล้าเหลือเกิน 

แต่สาเหตุที่การลุ้นแชมป์กลับมาเข้มข้นอีกครั้งคงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ “แดกู เอฟเฟ็กค์”

เพราะตั้งแต่พวกเขาปราชัยบนแผ่นดินโสมขาวต่อ แดกู เอฟซี ในศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ รอบ 3 ยังไม่สามารถคว้าชัยชนะในฟุตบอลลีกได้เลย 

ไม่ว่าจะเป็นการโดน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด บุกมาอัดคารัง 1-0 จากนั้นก็ออกไปเสมอกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ไปแบบไร้สกอร์ แถมมีประเด็นดราม่าตามมาอีกเพียบ รวมถึงเกมล่าสุดกับ 1 แต้มจาก ลีโอ เชียงรายฯ​ 

ซึ่งตอนนี้ความกดดันต่างๆ ถูกโยนไปทางฝั่ง “ปราสาทสายฟ้า” เต็มๆ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความเครียดมากๆ 


ไม่ว่าจะเป็นจังหวะปะทะคารมของ “ธีราทร บุญมาทัน” กับ “รูบิน ซูลาก้า” ในเกมล่าสุด แม้จะไม่มีอะไรตามมา แต่รอยร้าวในใจอาจส่งผลต่อฟอร์มในเกมที่เหลือ

นอกจากนี้ 2 เกมข้างหน้าพวกเขาจะไม่สามารถใช้งานของ “อาร์ม” ศุภชัย ใจเด็ด หัวหอกตัวเก่งดาวซัลโวของทีมอย่างแน่นอน เพราะอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้ารุนแรงกว่าที่คิด และน่าจะทำให้เจ้าตัวปิดเทมอในฤดูกาลนี้ค่อนข้างแน่ 

ขณะที่ “โจนาธาน โบลินกี้” เองก็ติดโทษแบนอีก 1 นัด ทำให้เกมบุกไปเยือน หนองบัว พิชญ ในสุดสัปดาห์นี้ จะไร้เงาดาวยิงทีมชาติคองโก 

ซึ่งจะทำให้ภาระในการยิงประตูตกไปอยู่บนบ่าของ “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา วัย 19 ปี 

โดย “เจ้าแบงค์” แสดงให้เห็นแล้วว่ายังไม่ดีพอที่จะเป็นตัวจริงให้กับทีม เพราะสถิติที่เจ้าตัวลงสนามเป็น 11 คนแรกยามใด ไม่เคยยิงประตูได้เลย 


ผิดกับการลงเป็นตัวสำรองที่มักทำได้ดีเสมอ หลังทำไป 4 ตุงจากการลงมาเป็นซูเปอร์ซับทั้งหมด

ล่าสุด รัตนากร ใหม่คามิ กองกลางปอดเหล็ก ยังโดนใบเหลืองเพิ่ม ทำให้สะสมใบเหลืองครบ 4 ใบ ต้องติดโทษแบนอีก เรียกได้ว่าปัญหาถาโถมเข้าใส่ “ปราสาทสายฟ้า” ไม่หยุด

แถมฟอร์มการเล่นในบ้านของ “พญาไก่ชน” ฤดูกาลนี้ยังแกร่งเหลือหลาย แพ้แค่ 3 เกมต่อ สมุทรปราการ ซิตี้, ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี เท่านั้น 

เกมเลกแรกที่เจอกัน หนองบัว พิชญ ที่เหลือผู้เล่น 10 คน ยังสามารถยันเสมอ บุรีรัมย์ ถึงบ้านแบบไร้สกอร์มาแล้ว ดังนั้นเกมนี้ไม่ง่าย


ต้องมาตามดูว่าหัวจิตหัวใจของพลพรรค “ปราสาทสายฟ้า” จะแข็งแกร่งจะผ่านช่วงเวลาลำบาก และก้าวไปคว้าแชมป์ตามเป้าหมายไหม หรือจะโดนอาถรรพ์ไม่รับแชมป์นอกบ้าน ตามมาหลอกหลอนเหมือนปี 2018 

เรียกได้ว่าซีรีย์ลูกหนังไทยลีก ยังไม่จบง่ายๆ 

บางทีการตัดสินแชมป์อาจจะต้องไปวัดกันถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาลเลยทีเดียว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})