:::     :::

บทสรุปโกปา เดล เรย์ 2021-22

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
โกปา เดล เรย์ ครั้งที่ 118 ในฤดูกาลแข่งขัน 2021-22 รูดม่านลงเรียบร้อยแล้วเมื่อคืนวันเสาร์ที่ เอสตาดิโอ ลา การ์ตูฆา สังเวียนแข้งเมืองเซบีย่า ENHORABUENA AL BETIS ขอแสดงความยินดีกับ เรอัล เบติส ที่คว้าแชมป์ไปครองในครั้งนี้ซึ่งถือเป็นสมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของสโมสรต่อจากปี 1976-1977 และ 2004-2005

การเข้าชิงระหว่าง เรอัล เบติส กับ บาเลนเซีย อาจไม่ใช่รสชาติที่แฟนบอลบ้านเราคุ้นเคยนัก เมื่อปราศเงาของ 3 ยักษ์ใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า,เรอัล มาดริด และ แอต.มาดริด


เมืองไทยอาจไม่ได้รับความสนใจในวงกว้าง ไม่เป็นที่พูดถึงเท่า หากแต่มองแง่บวก ในมุมที่ดูเหมือนจะด้อยนี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้คอบอลสเปนโดยเฉพาะรุ่นใหม่บ้านเราได้ทำความรู้จักกับอีกแง่งามของสโมสรอื่นๆใน สเปน 

สำหรับ บาร์เซโลนิสต้า หรือ มาดริดิสต้า โกปา เดล เรย์ อาจเป็นถ้วยที่เล็กที่สุด หากแต่สำหรับทีมอื่นๆแล้ว นี่คือรายการที่มีความหมายอย่างมาก เนื่องจากเป็นรายการที่พวกเขาสามารถวาดฝันถึงมันได้อย่างจริงจัง 


ยิ่งสหพันธ์ฟุตบอลสเปน (RFEF) ปรับฟอร์แมตการแข่งขันให้มาเล่นกันในรูปแบบน็อคเอาท์ นัดเดียวรู้เรื่องก็ยิ่งทำให้โอกาสเปิดกว้าง 

ก็อย่างที่คนมักพูดกันนั่นแหละครับ “บอลนัดเดียวอะไรก็เกิดขึ้นได้” 


และ บาร์ซ่า แชมป์เก่า กับ เรอัล มาดริด แชมป์ 19 สมัยปีนี้ มาไม่ถึงนัดชิงเมื่อโดน แอธ.บิลเบา ดับฝัน แต่จนแล้วจนรอด ยอดทีมแคว้นบาสก์ก็ตะลุยไปไม่ถึงดวงดาวเมื่อพลาดท่าให้ บาเลนเซีย ในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งเป็นรอบเดียวที่เล่นกันแบบเหย้า-เยือน 

ส่วนฟาก เบร์ดิบลังโก หลุดเข้าชิงหลังเอาชนะ ราโย บาเยกาโน่ ของ อันโดนี่ อิราโอล่า ด้วยสกอร์รวม 3-2 

…………………………..

ในมุมที่บ้านเราอาจไม่ได้รับรู้ หากแต่การเข้าชิงของ เบติส กับ บาเลนเซีย สร้างกระแสคลั่งไคล้ให้กับแฟนของตัวเองอย่างล้นหลาม มีการปลุกเร้ากันอย่างเต็มที่ทั่วทั้งเมือง


แฟนบาเลนเซียออกมารวมตัวกันตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่ย่าน ลา เซอู  ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ลา กาเตดรัล เด บาเลนเซีย มหาวิหารใหญ่ใจกลางเมือง นอกจากนี้แล้ว อีกนับหมื่นคนได้เดินทางมุ่งหน้าสู่เซบีย่า 

Sevilla es blanquinegra, es blanquinegra, Sevilla es blanquinegra! (เซบีย่า เป็นสีขาว-ดำ) 

เสียงตระโกนของสาวก ‘โลส เช’ ดังขึ้นที่เมืองเซบีย่าตั้งแต่แสงแรกของพระอาทิตย์ 

ส่วนสาวก ‘เบร์ดิบลังโก้’ ได้เปรียบค่อนข้างเยอะ เพราะ ลา การ์ตูฆา สังเวียนนัดชิงอยู่ห่างจาก เบนีโต้ บียามาริน รังเหย้าของพวกเขาแค่ 10 กิโลเมตรเท่านั้น อะไรๆจึงสะดวกกว่า


รายงานข่าวว่าหนนี้ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ไม่มีการปะทะของแฟน นับว่าเป็นเรื่องที่ดี 

จุดสำคัญๆของเมืองอย่าง คิรัลด้า (หอระฆังของมหาวิหารเซบีย่า),ปลาซ่า เอสปันญ่า (ปลาซ่า เอสปันญ่า เดียวในสเปนที่รูปทรงครึ่งวงกลม) หรือเลียบแม่น้ำกวาร์ดาคีบีร์ บรรยากาศสุดคึกคัก แต่ก็ดำเนินไปอย่างสงบเรียบร้อย

พูดได้ว่าเป็นภาพนัดชิงในฝันของสหพันธ์ฯก็คงไม่ผิด 



ส่วนเกมในสนาม มานูเอล หลุยส์ เปเยกรินี่ ออกสตาร์ท 11 คนแรกด้วยผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด ในระบบที่ใช้มาตลอดทั้งซีซั่น 4-2-3-1 

เคลาดิโอ บราโว่ จอมเก๋าเฝ้าเสา แผงหลัง เอคตอร์ เบเยริน,เกร์มัน เปซเซย่า,มาร์ค บาร์ตร้า,อเล็กซ์ โมเรโน่ มิดฟิลด์คู่กลาง วิเลี่ยมส์ การ์วัลโญ่ กับ กุยโด้ โรดริเกซ ส่วนตัวรุก เซร์คิโอ กานาเลส,นาบิล เฟคีร์,ฆวนมี่ ทำเกมร่วมกัน โดยมี บอร์ฆา อิเกลเซียส ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า 

ส่วน บาเลนเซีย นั้น โฆเซ่ บอร์ดาลาส ยึดระบบหลัง 3 ซึ่งปรับมาเล่นในช่วง 2 เดือนหลังแล้วผลงานกระเตื้องขึ้น  3-4-1-2  ให้ จอร์จี้ มามาร์ดาชวีลี่ย์ ลงเฝ้าเสา แผงหลังประกอบด้วย มูคตาร์ เดียกาบี้,กาเบรียล เปาลิสต้า และ โอมาร์ อัลเดเรเต้

ตรงกลาง อีไลก์ โมริบา เดินเกมกับ อูโก้ กียามอน และมี ดิมิทรี ฟุลกิเยร์ กับ โฆเซ่ กาย่า รับบทวิงแบ็กขวา-ซ้าย วาง การ์ลอส โซเลร์ เล่นหน้าต่ำ อยู่หลังคู่หน้า กอนซาโล่ เกเดส กับ อูโก้ ดูโร่


จาก 11 คนแรก ที่ออกมา เบติส ไม่ผิดไปจากความคาดหมาย แกนหลักที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นลงสนามครบทุกคน โดยเฉพาะ 4 ประสาน กานาเลส,เฟคีร์,ฆวนมี่ และ บอร์ฆา ที่ปีนี้เล่นได้ร้อนแรงสุดๆ 


ส่วน บอร์ดาลาส ตัดสินใจเลือก โมริบา และให้ บรียาน คิล นั่งรอที่ข้างสนามไปก่อน ซึ่งถือว่าไม่ได้เซอร์ไพรส์มากมาย 

ตามหน้าเสื่อ เทียบผลงานทั้ง ลา ลีกา และโกปา เดล เรย์ รอบก่อนๆ เบติส ดูเหนือกว่า และเกมก็ออกมาอย่างที่ไม่ผิดคาดนัก 

เบติส ที่เหมือนเล่นในถิ่นตัวเอง ออกสตาร์ทได้ดี และขึ้นนำก่อนจากลูกโขกของ บอร์ฆา อิลเกลเซียส  ซึ่งจังหวะนี้ต้องชมทั้ง เฟคีร์ ที่รอจังหวะปล่อยบอลได้เหมาะเหม็ง และ เบเยริน ที่สอดขึ้นมารับริมเส้นได้ถูกจังหวะก่อนครอสเข้ามาในกรอบเขตโทษอย่างเเม่นยำ บอลลอยโด่งข้ามหัว กาเบรียล มาถึง บอร์ฆา ได้โขกเหน่งๆ ไม่มีเหลือ


เบติส ขึ้นนำทั้งแต่นาทีที่ 11 เป็นทีมอื่นอาจยุบไปแล้ว แต่ บาเลนเซีย สวมหัวใจสิงห์สู้ไม่มีถอย แม้จะมีจังหวะหวาดเสียจะเสียประตูเป็นระยะ แต่ลูกแทงทะลุช่องของ โมริบา นั้นเฉียบขาดแบบสุดๆ ให้ อูโก้ หลุดเข้าไปเดี่ยวกับ บราโว่ 

อูโก้ ดูโร่ จบมันได้อย่างเฉียบขาด ตักข้ามนายด่านชิเลโน่เข้าไปตีเสมอให้ไอ้ค้างคาวเป็น 1-1 จากนั้นเกมก็เข้มข้น มีจังหวะลุ้นประตูกันตลอด โดยเฉพาะ เบติส ที่หลายครั้งน่าเป็นประตูเหลือเกิน แต่บอลเจ้ากรรมไม่พุ่งชนเสาก็เฉี่ยวออกไป 


เบติส สร้างโอากาสยิง 7 ครั้งเข้ากรอบ 4 ครองบอล 63% ส่วน บาเลนเซีย โอกาสยิง 5 เข้ากรอบ 4 ครองบอล 37% ตรงนี้ถือว่าไม่ได้เหนือกว่ากันมากมาย เพียงแต่จังหวะจะแจ้งอยู่ที่ เบติส 


แต่จนแล้วจนรอด ทั้งสองทีมก็ทำอะไรกันต่อไม่ได้อีก จบ 90 นาทีต้องยืดออกไปอีก 30 นาที แต่ก็ยังหาผู้ชนะไม่ได้ 

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีแค่ 2 ประตูในช่วงต้นเกม แต่ตลอดทั้ง 120 นาทีถือเป็นการต่อสู้ทางลูกหนังที่เข้มข้น สูสี และขาวสะอาด

เกมมาถึงช่วงการดวลจุดโทษ ต่างฝ่างต่างคัดมือสังหารที่คิดว่าชัวร์ที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งนั้น หรือมากกว่าหนึ่งจะต้องพลาด 


แฟนบาเลนเซียทุกคนผิดหวังสุดๆที่ ยูนูส มูซาห์ ยิงจุดโทษไม่เข้า พากันคิดว่าทำไมถึงให้เด็กอายุแค่ 19 รับหน้าที่สำคัญที่บีบหัวใจแบบนี้ แต่หลักการยิงจุดโทษ อันดับแรก ต้องหาคนที่มั่นใจซะก่อน แต่หน้างานจะเข้าไม่เข้าก็ว่ากันอีกเรื่อง 


เมื่อบอลปลิวไป และผู้เล่นที่เหลือไม่มีใครพลาด เบติส จึงประกาศศักดาคว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ ไปครอง 

ภาพ ฆัวกิน ซานเชซ รับถ้วยแชมป์จากพระหัตถ์ของกษัตริย์เฟลิเป้ ที่ 5 แห่งอัสตูเรียส ก่อนชูขึ้นเหนือฟากฟ้าที่ ลา การ์ตูฆา วินาทีนั้นเซบีย่าราวกับถูกฉาบย้อมด้วยสีเขียว-ขาวไปทั้งเมือง นับเป็นความสุขที่สัมผัสได้จากสีหน้าแววตาของนักเตะ ทีมสต๊าฟ และสำคัญที่สุดคือแฟนบอล 

สำหรับ บาเลนเซีย แน่นอนว่านี่คือความผิดหวังครั้งใหญ่ ที่ยากจะรับมือ เพราะนอกจากเกียรติประวัติแล้ว มันยังเป็นช่องทางเดียวของพวกเขาที่จะตีตั๋วไปฟุตบอลยุโรปฤดูกาลหน้า 



ทั้งๆที่อุตส่าห์เดินมาไกลถึงวันนี้ แต่กลับหลุดลอยไปต่อหน้า บาเลนเซียนิสต้า ไม่มีใครปิดกลั้นความบอบช้ำผิดหวังจากความพ่ายแพ้ครั้งนี้ได้ หากแต่ในขณะเดียวกัน การต่อสู้ของพวกเขา ก็นับได้ว่าสมควรภาคภูมิใจ

ไม่มีอะไรติดค้าง นักเตะทุกคนใส่ทุกอย่างที่มีลงไปหมดแล้วตลอดการโรมรัน 120 นาทีเต็ม 

ยินดีกับผู้ชนะ เรอัล เบติส และภาคภูมิใจกับผู้แพ้อย่าง บาเลนเซีย ครับ

นี่เป็นโกปา เดล เรย์ ปีที่ดีที่สุดปีนึงเลยทีเดียว 


เจมส์ ลา ลีกา 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด