และแน่นอน หมอนี่คือผู้เล่นที่คุณสมบัติโคตรเข้าแก๊ปกับบอลของเทน ฮากมากที่สุดอีกหนึ่งคน เพราะฉะนั้น เขาคือตัวเลือกที่เหมาะสมอีกรายที่ยูไนเต็ดสามารถซื้อมาเข้าระบบเทนฮากแบบไร้รอยต่อมากๆ

มีอะไรที่แฟนผี "ควรรู้" กับดีลนี้บ้าง? อ่านไปเรื่อยๆแล้วคุณจะเข้าใจเองว่าทำไมถึงต้องมารีวิวเป็นบทความขนาดนี้

เพราะนี่เป็นดีลที่โคตรน่าซื้ออีกคนนึงไงล่ะ!

รายงานข่าวกันก่อนเลยนะครับ มีข่าวจากผู้สื่อข่าวระดับtier1 tier2 ล้วนๆเกี่ยวกับนักเตะรายนี้ ขอให้คนอ่านสบายใจได้ว่า มันไม่ใช่ข่าวประเภทหลักลอยแต่อย่างใด

โดยหลังจากที่ยูไนเต็ดดูเหมือนว่าจะชวดได้ตัวทิมเบอร์แล้ว เหมือนอย่างที่รู้สาเหตุเรื่องนึงที่ถูกผู้จัดการทีมชาติพูดแกมขู่(ก็ขู่แหละ) ว่าถ้าย้ายทีมและไม่ได้ลงเล่นสม่ำเสมอ เขาจะไม่การันตีตำแหน่งในทีมชาติให้กับทิมเบอร์

ตรงนี้กล้าพูดได้เลยว่ามันเป็นการจงใจเตะตัดขาจากแรงแค้นล้วนๆเลยของ หลุยส์ ฟาน กัล อย่างที่รู้กันว่าจบไม่สวย และไม่เคยพูดอะไรดีๆกับสโมสรเลย รอบนี้ก็มามีส่วนกับการตัดสินใจของนักเตะที่เราต้องการด้วย

รอบที่แล้วที่พูดถึงแฟรงกี้ และนี่กับเคสทิมเบอร์อีก ทำให้ดีลนี้ต้องหยุดชะงักลงไปเพราะนักเตะอาจเลือกที่จะอยู่โยงกับอาแจ็กซ์ต่อ รวมถึงข่าวที่ว่าไม่สามารถตกลงpersonal termsกันได้ด้วย

ฟานกัลพูดในทำนองนี้ได้ว่า โอกาสลงสนามสำคัญต่อการติดทีมชาติ แต่คำพูดของLVGค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นการสกัดดาวรุ่งแมนยูชัดเจน ทั้งที่จริงๆมีวิธีการพูดอื่นอีกมากที่ฟานกัลสามารถอธิบายนักเตะว่า เรื่องเวลาในการลงสนามกับต้นสังกัดจำเป็นต่อการติดทีมชาติโดยที่ไม่ต้องแซะหรือตัดขาแมนยูก็ได้ แต่ไม่ทำ

ดังนั้นดีลนี้แฟนผีอาจต้องทำใจด้วยสาเหตุเฮงซวยแบบนี้กันไปก่อน

แต่อย่างที่พี่เหน่งวายน็อทเซเว่นบอก "แต่อย่าคิดว่าฉันไม่มีหนทางอื่น" กองหลังคนอื่นๆในตลาดยังมีอีกมากให้พิจารณาและดึงตัวเข้ามา โดยที่ยังอยู่ในเงื่อนไขสเป็คที่ผู้จัดการทีมต้องการ

และคนๆนั้น คือ ลิซานโดร มาร์ติเนซ นั่นเอง

เมื่อแห้วจากทิมเบอร์ แมนยูไนเต็ดจึงสวิตช์เป้าหมายไปยัง Lisandro Martínez ที่เทน ฮาก ร่วมงานกันมาสามซีซั่นเต็มๆ ซึ่งตัวนี้มีทางไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ร่วมวงที่จะคว้าตัวนักเตะรายนี้อยู่ โดยอาร์เซนอลยื่นข้อเสนอไป 25 ล้านปอนด์ และถูกปฏิเสธไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงอาจจะมาพร้อมการเสนอราคาอีกครั้งหนึ่งให้อาแจ็กซ์พิจารณา จากการรายงานของ Mike Verweij นักข่าว tier1 สายดัตช์

ก่อนหน้านี้สักพักใหญ่ๆ ยูไนเต็ดก็มีข่าวกับนักเตะรายนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งรอบนั้นก็รายงานโดย Mike McGrath [tier2] นักข่าวจากเดอะ เทเลกราฟ รวมถึง James Ducker[tier 1] ด้วยว่า มาร์ติเนซคือหนึ่งในลิสต์เสริมทัพของเราแน่นอน

ดังนั้นความเป็นไปได้จึงมีแน่นอน และยูไนเต็ดก็สนใจและอยากยื่นข้อเสนอให้ผู้เล่นรายนี้เช่นกัน โดยราคาค่าตัวน่าจะต้องมากกว่า 30 ล้านยูโรขึ้นไป ยึดจากรายงานของดิแอธเลติกที่ปฏิเสธbidของอาร์เซนอลในราคานี้ไปแล้ว

ส่วนด้านแมนยูไนเต็ด สำหรับดีลนี้คิดว่าต้องรอให้ทางดีล "แฟรงกี้ เดอ ยอง" เรียบร้อย หลังจากนั้นเราน่าจะมาเดินดีลนี้ในภายหลัง ซึ่งการซื้อขายกับ Ajax การต่อรองราคาไม่ใช่เรื่องยากเลย จากหลายๆดีลที่พวกเขาก็ปล่อยนักเตะออกยังกะเปิดน้ำก๊อกไหล รวมถึงรอบฟานเดอเบค ด้วย การซื้อตัวนี้ในราคาราว 35 - 40 ล้านยูโรไม่น่าจะมีปัญหาในแง่ของการติดต่อพูดคุยราคา

รอดูกันต่อไปหลังจากดีลแฟรงกี้ครับ ว่าสโมสรจะเอายังไงต่อ แต่เขาคือลิสต์เสริมทัพแน่อยู่แล้ว ดังนั้นการรีวิวนักเตะรายนี้ยังไงก็มีประโยชน์กับผู้อ่าน โดยเฉพาะแฟนผีแน่นอน เผื่อว่าจะชอบและสนใจกองหลังรายนี้ และจะให้ดี นั่งดูคลิปเพื่อให้เห็นภาพก่อนอ่านรีวิวจะดีมากครับ

2. ข้อมูลทั่วไป

Lisandro Martínez

อายุ 24 ปี

สัญชาติ : อาร์เจนไตน์

เท้าที่ถนัด : ซ้าย

ตำแหน่ง : เซ็นเตอร์แบ็ค

ตำแหน่งอื่นๆที่เล่นได้ : LB / DM / CM

ค่าตัวโดยประมาณ : 30-35 ล้านยูโร

3. สไตล์การเล่น

ตัวนี้ถือเป็นของแปลกอย่างหนึ่ง ที่ผมจะบอกว่า โดยพื้นฐานการเล่นของนักเตะ พอจะจำกัดความได้ว่า ลิซานโดร มาร์ติเนซ เป็นกองหลัง Ball-playing ที่เล่นเกมรับได้เข้มข้น และสามารถทำเกมแนวลึกจากแผงกองหลังให้ทีมได้อย่างชัดเจนมากๆ

ผมเลยอยากเรียกชื่อแกว่า "พี่เข้ม" จริงๆ

พี่เข้มเป็น Ball-playing ที่เข้าบอลจนแทบจะสามารถเรียกได้ว่าเป็นกองหลังตัวเล่นบอล สายเน้นเกมรับ มีความเป็น Stopper อยู่ในตัวชัดเจน ด้วยความเป็นนักเตะเมกาใต้ กล้าได้กล้าบวก เขาจึงพร้อมจะวิ่งเข้าไปประชิดตัวคู่แข่ง และแทคเกิลแบบขาดๆให้ได้เห็นอย่างไม่กลัวเจ็บ และมีความมั่นใจ

จะบอกว่าตรงนี้คล้ายกับโรโฮได้ไหม? บางส่วนก็นึกถึงโรโฮได้อยู่ คือเป็น CB ที่เล่น LB ได้ และกล้าเข้าบอล กล้าแทคเกิลเหมือนกัน มีความเร็วและความคล่องตัวสูงพอกัน

แต่ก็เหมือนกันแค่บางส่วนเท่านั้นเอง แต่สไตล์อย่างอื่นต่างกับโรโฮพอควร จะบอกว่าเป็นโรโฮ2คงไม่ได้

แต่จุดที่ "แปลก" อีกอย่างหนึ่งของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่ผมอยากจะให้ไปเซ็นมาซะพรุ่งนี้เลย นั่นก็คือ ความสามารถในการเล่นเป็นมิดฟิลด์ที่อัดแน่นอยู่ในตัวเขา ถ้าแมนยูได้ตัวนี้ เกมการเล่นในแดนกลาง และแดนหลัง ทีมเราจะกลายเป็นทีมที่นักเตะมีความสามารถและทักษะสูงเลยทีเดียว ไม่ใช่กองหลังไร้สกิลที่ไม่ถนัดในการเล่นกับบอล

การขยายความจุดเด่นของมาร์ติเนซ หลายๆแหล่งจึงบอกว่าเขาคือ Versatile Defender หรือกองหลังสารพัดประโยชน์ ซึ่งจุดที่ผมชอบคือ พี่แกมีความเป็น "DLP" (Deep-lying playmaker) อยู่ในตัวสูงจัดๆ

สามารถออกบอลฆ่า วางบอลยาว ตักบอลทำลาย Defensive Line แผงหลังของคู่แข่งได้สบายๆและสวยงามบ่อยครั้ง คิดง่ายๆว่าเหมือนมีป็อกบาวางบอลจากตำแหน่งกองหลังน่ะ ง่ายที่สุด

ถ้าลินเดอเลิฟวางบอลได้ มาร์ติเนซก็วางบอลได้เช่นกันด้วยเท้าซ้าย แถมอาจจะแม่นกว่าด้วย ตรงนี้ค่อยเปรียบเทียบในหัวข้อต่อไปอีกครั้ง

พื้นที่การเล่นแทบจะจุดเดียวกับบลินด์เป๊ะๆ LB CB DM LM CM

4. จุดเด่น

4.1 การวางบอลยาว

ข้อนี้ถือเป็นท่าไม้ตายของมาร์ติเนซเลย อย่างที่บอกว่า นักเตะมีความเป็นตัววางบอลสูง เมื่อมีโอกาส ลิซานโดร มาร์ติเนซจะวางบอลยาวให้นักเตะในแดนหน้าทันที เขาจึงได้รับฉายาว่า "จอมทำลาย Defensive Line" ของคู่แข่ง

จำนวนการวางบอลยาวเฉลี่ยต่อเกมของลิซานโดร มาร์ติเนซ สูงมากจนน่าตกใจ เฉลี่ยวางบอลยาวอยู่ที่ "5.4 ครั้งต่อเกม"

ดูท่าวางบอลซะก่อน โคตรโปร

4.2 การจ่ายบอล

ด้วยอัตราการจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 88.9% เป็นเรทที่ค่อนข้างสูงพอสมควร รับประกันการเล่นในสนามของเขาที่มีความแน่นอนและช่วยในเรื่องการเซ็ตเกมจากแดนหลังได้ดี

[ว่าด้วยเรื่องของการเปรียบเทียบ การจ่ายบอลสั้น บอลยาว มาร์ติเนซชนะลินเดอเลิฟขาดทั้งสองกรณี ด้วยคะแนนอัตราการจ่ายบอลสำเร็จ มาร์ติเนซ 88.9% vs  ลินเดอเลิฟ 87.3% ส่วนบอลยาว ลินเดอเลิฟวางยาวเฉลี่ย 1 ครั้งต่อเกม แพ้ 5.4 ของมาร์ติเนซขาดลอย]

4.3 การดวลลูกกลางอากาศ (Aerial Duels)

ข้อนี้หลายคนอาจจะไม่เชื่อ ด้วยความสูงที่ไม่ถึง 180 แต่ลิซานโดร มาร์ติเนซ มีจุดเด่นเรื่องหนึ่งนั่นก็คือการแย่งดวลลูกกลางอากาศกับคู่แข่ง

แน่นอน ความสูงของเขาแค่ 175cm (บางแหล่งบอก178cm) ย่อมเสียเปรียบอยู่แล้ว แต่สิ่งที่มาร์ติเนซมีอยู่ในตัวคือการกะระยะลูกบอล, jumping reach การเทคตัวที่ดี ทำให้ส่วนสูงแค่นั้นสามารถแย่งโหม่งได้เรื่อยๆ และจุดสำคัญสุดของเขาคือ "การชิงจังหวะโหม่ง" ที่มาจากการอ่านบอลโด่ง และกะระยะยืนที่ดี ทำให้เขาสามารถปักหลักและตั๊นคู่แข่งให้ไม่สามารถเข้ามาเบียดแย่งโหม่งได้สะดวกๆ

ถ้านึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงการแย่ง "รีบาวด์" ในกีฬาบาสเก็ตบอลก็ได้ คนที่รีบาวด์ได้จริงๆไม่ใช่คนตัวสูง กระโดดสูงเสมอไป แต่การแย่งพื้นที่ยืนให้ได้เปรียบต่างหากสำคัญกว่า ถ้าใครเล่นบาสตำแหน่งตัววงในไม่ว่าจะเซ็นเตอร์ หรือพาวเวอร์ฟอเวิร์ดน่าจะเข้าใจดี

นั่นแหละคือจุดแข่งในการแย่งโหม่งกับคู่ต่อสู้ ทั้งที่ส่วนสูงแค่นี้

อีกอย่างคือ ฟุตบอลสมัยใหม่ การเล่นกับบอลสำคัญมากกว่าต้องโฟกัสแค่บอลโด่งอย่างเดียวแล้ว ตรงจุดนี้เรายังมีกองหลังคนอื่นที่โหม่งเก่งๆอยู่กับทีมอีกสองคนที่ช่วยแบ่งเบาภาระได้ นั่นก็คือ แมกไกวร์ กับ วาราน นั่นเอง

*อนึ่ง อัตราการแย่งโหม่งชนะต่อเกมในเอเรดิวิซี่+แชมเปี้ยนส์ลีก ของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ คือ "2.9ครั้งต่อเกม" ซึ่งถือว่าดวลแย่งโหม่งกับคู่แข่งแล้วชนะในเรทที่สูงมาก เมื่อเทียบกับแมกไกวร์ลินเดอเลิฟ มาร์ติเนซสถิติที่เป็นตัวเลขดูดีกว่า สองคนนั้นเฉลี่ยคือ 2.5 และ 2.2 Aerial Won per Game ตามลำดับ

แต่ไม่ได้แปลว่ามาร์ติเนซถึงกับจะโหม่งเก่งกว่าแมกไกวร์ อันนี้ไม่จริง เพราะตัวเลขต้องตีความเรื่องของบริบท สิ่งแวดล้อมในลีก ความยากง่ายของฟุตบอลที่เจอในเอเรดิวิซี่ กับ พรีเมียร์ลีกด้วย ดังนั้นเราไม่ควรเอาตัวเลขตรงนี้ไปเคลมว่า มาร์ติเนซโหม่งเก่งกว่าใคร

แค่ให้ดูว่า เขาส่วนสูงแค่นี้ แต่แย่งโหม่งเก่งมาก เท่านั้นเองครับ

4.4 การเข้าแทคเกิล และ การตามประกอบ (Tackling & Marking)

ข้อนี้คือสกิลเกมรับที่มัดรวมกันเลย เนื่องด้วยเขาเป็นกองหลังสายสปีดที่มีความเร็ว ความคล่อง การเคลื่อนที่รวดเร็ว บวกกับ Work Rate หรือความขยันในการเล่น สิ่งที่เราเห็นบ่อยๆคือ มาร์ติเนซจะวิ่งไล่ตามคู่แข่งที่บุกเข้ามา และเข้าไปแทคเกิล เล่นเกมปะทะเพื่อหยุดเกมบุกของคู่แข่งบ่อยครั้ง

ด้วยความเป็นกองหลังอเมริกาใต้ การเข้าบอลถึงลูกถึงคนแบบไม่กลัวเจ็บ สกัดบอลขาดๆ มีให้เห็นเป็นเรื่องปกติ นี่คือข้อดีในเกมรับของเขาที่อย่างน้อยก็มีการเล่นป้องกันที่ "เข้มข้น" มากๆ ทั้งการวิ่งตามเข้าบีบใส่คู่แข่ง และทุ่มตัวเข้าแทคเกิล

ไปเอามาบวกกับนูนเญซต่อround2ในพรีเมียร์ลีกก็ได้ถ้าข้องใจ

4.5 ความอิสระในการเล่น

ข้อนี้เป็นข้อดีมากๆที่ทำให้เขามีความยืดหยุ่นสูง ทั้งในแง่ของฟังก์ชั่นการเล่น มาร์ติเนซเป็นตัว Ball-playing defender ก็จริง แต่มีความเป็น stopper อยู่ในตัวสูง ทำให้เขาเป็นกองหลังที่เซ็ตเกมก็ได้ แต่ก็ยังใช้เล่นเกมรับ ป้องกันคู่แข่งได้อย่างดี รวมถึงการ "ออกบอลบุก" จากแนวหลังสุดเหมือนมี DLP ยืนในตำแหน่งกองหลัง และพร้อมวางยาวตลอดเวลา

พื้นที่การยืน ครอบคลุมเกือบทั่วทั้งสนาม ที่สามารถยืนแดนกลางก็ได้ แดนหลังก็ได้ ยืนพื้นที่ตรงกลางสนาม หรือริมเส้นก็ได้ ทั้ง CB, LB, LCB, DM, CM รวมถึง LM ด้วยปรัชญาฟุตบอลที่อิสระและหาพื้นที่ในการเซ็ตบอลจากระบบของเทน ฮาก

ความยืดหยุ่น ความอเนกประสงค์ (versatile) ที่ครบเครื่องของมาร์ติเนซ คือจุดเด่นที่ทำให้เขาน่าสอยมาใช้งานที่โอลด์แทรฟฟอร์ดอย่างมากจริงๆ

4.6 อื่นๆ

ด้วยสถิติกองหลังที่มี goal contribution ถึง 4 ลูก กับการยิง 1 ประตู + 3 แอสซิสต์ ใน 21 เกมเอเรดิวิซี่ เป็นสถิติเกมรุกที่น่าพอใจ / คีย์พาส 0.7 ครั้งต่อเกม / การยิงเฉลี่ย 1.7 ครั้งต่อเกม ถือว่าสร้างโอกาสยิงให้ตัวเองได้เยอะ (shot on target % อยู่ที่ 20.5% ยิงห้าครั้งเข้ากรอบหนึ่งครั้ง ตามราคากองหลัง)

ส่วนสถิติเกมรับเชิงตัวเลข : tackles won 31 ครั้ง / interceptions 49 ครั้ง จาก 21เกม(หารเฉลี่ย90)

ตีเป็นอัตราต่อเกม รวมในเอเรดิวิซี่ กับ แชมเปี้ยนส์ลีก เขาบล็อค 0.4 ครั้งต่อเกม / แทคเกิล 1.9 ครั้งต่อเกม / เคลียร์บอล 2.8 ครั้งต่อเกม เกมรับโดยรวมถือว่าใช้ได้

มีประโยชน์กับทีมในทุกๆด้านจริงๆ ลิซานโดร มาร์ติเนซ

4.7 จุดอ่อน ข้อด้อย

จุดอ่อนของมาร์ติเนซ ก็น่าจะเป็นข้อเดียวที่แฟนบอลพอจะมองเห็น นั่นก็คือสรีระส่วนสูงที่เสียเปรียบคู่แข่ง เวลาที่อาจจะเจอกองหน้าที่ตัวใหญ่มากๆ ถ้าเจอบอมป์มาแล้วกองหน้าที่ว่าแย่งโหม่งได้ ก็อาจจะโหม่งแพ้ขาดลอยไปเลย น่ากังวลอยู่แค่ตรงนั้น แต่รวมๆฟุตบอลสมัยใหม่ ลูกโด่งสำคัญน้อยกว่าภาคการเล่นในการเซ็ตบอล ทำเกม และเล่นเกมรับภาคพื้น ดังนั้นส่วนดีอื่นๆของลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่ทดแทนได้ก็มีอยู่หลายอย่าง

และที่สำคัญ ลูกโด่งเรามีพวกแมกไกวร์ วาราน ช่วยเหลือตรงนี้อยู่แล้ว เพราะงั้นไม่มีปัญหา ไม่จำเป็นว่ามาร์ติเนซจะต้องเป็นกองหลังที่เก่งไปซะทุกอย่าง เราสามารถใช้ทีมเวิร์คและจุดเด่นของเพื่อนในการรับมือได้

ฟุตบอลเล่นกันเป็นทีม อย่าลืมในจุดนี้

5. การนำมาเข้ากับแมนยูไนเต็ด

การที่ตอนนี้ข่าวกับทิมเบอร์ได้ชะงักลงไป ทำให้ตัวเลือกของเราจึงเริ่มพุ่งเป้ามาทางนี้ ซึ่งต้องบอกว่า จะใครก็ได้ ไม่ว่าจะทิมเบอร์ หรือ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ดีทั้งคู่จริงๆ เพียงแค่สไตล์บางอย่างแตกต่างกัน เช่นความเป็นกองหลังตัวทำเกมจากแนวลึกของมาร์ติเนซ ที่ต่างกับทิมเบอร์ แต่รวมๆแล้วทั้งสองคนคล้ายๆกันตรงที่เป็นกองหลังสายสปีด มีความคล่องตัว และเล่นในพื้นที่ต่างๆได้อย่างอิสระ ทั้งเกมรุกเกมรับ ตรงกลาง หรือริมเส้น

เรามีกองหลังแบบวาราน แมกไกวร์ ลินเดอเลิฟอยู่แล้ว ถ้าได้อีกคนเข้ามาเพิ่มมิติการเล่นด้วยความคล่องตัว เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเล่นที่ใช้ build-up play จากแนว defensive line ได้อย่างดีเลย

กองหลังสายคล่องนี่แหละจำเป็นกับมิติการเล่นของบอลเทน ฮาก มากๆครับ เพราะงั้นถึงต้องเอามาให้ได้นั่นแหละ

การลงตำแหน่งของลิซานโดร มาร์ติเนซ สามารถเล่นได้ทั้งระบบหลังสาม และระบบแบ็คโฟร์ ดังนี้

1. ยืน CB

อันนี้คือรูปแบบแรก ง่ายๆ ให้เล่นเซ็นเตอร์แบ็ค คู่กับนักเตะกองหลังคนอื่น จะวาราน แมกไกวร์ ลินเดอเลิฟ ได้หมด

หรือถ้าวันไหนอยากเล่นหลังสาม แน่นอนว่ามาร์ติเนซน่าจะยิ่งชอบroleการเป็นกองหลังตัวข้างมากกว่าเดิม เพราะมันจะเอื้อให้เขาออกจากตำแหน่งได้อิสระมากๆ เพราะเอาจริงๆนักเตะสามารถเล่นมิดฟิลด์ได้แบบสบายๆเลย (ใช้เป็นมิดฟิลด์ตัวรับให้ทีมก็ได้นะตัวนี้ เพราะสกิลมิดฟิลด์ครบ แถมเล่นรับได้ดีด้วยเพราะเป็นกองหลังแท้ๆ)

รูปแบบการใช้มาร์ติเนซมีอีกสองอย่างคร่าวๆดังนี้

2. ยืน LCB

ให้มาร์ติเนซเล่นกองหลังตัวข้างซ้าย ในระบบแบ็คทรี ซึ่งระบบนี้จะมีสวีปเปอร์หลังสุดคุมพื้นที่อยู่แล้ว ทำให้ลิซานโดร มาร์ติเนซ เคลื่อนที่ได้อิสระมากๆ ขณะที่ถึงเวลาป้องกัน ก็ลงมาเล่นกองหลังได้ และสามารถเข้าแทคเกิลได้อิสระ เพราะเป็นกองหลังตัวข้าง ต่อให้เข้าว่าว เข้าวืด หรือโฉ่งฉ่าง ทีมก็ไม่เสียหายอยู่ดี

เข้ากันกับสไตล์การแทคเกิลของมาร์ติเนซพอดี แผนในรูปนี้ดีเลยแหละ

3. ยืน DM

อีกอย่างหนึ่งก็คือ เราสามารถปรับมาร์ติเนซให้มาเล่น "กลางรับ" ตัวตัดเกม ทำเกมในแดนกลางในลักษณะของการให้เล่น "DLP แท้ เน้นเกมรับ" ได้สบายๆเลย ดังนี้

สามประสาน "SAR" + double pivot FDJ & Martinez

แค่เขียนก็ขนลุกแล้ว บอกเลยว่า ดีทุกแผน เพราะฉะนั้นตัวนี้ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ หลังจากที่ จอห์น สตีฟ และ เอริค ปิดดีล แฟรงกี้ เดอ ยอง กับบาร์ซ่าสำเร็จ ให้รีบไปซิวตัว ลิซานโดร มาร์ติเนซมาด่วนๆเลย เพราะอาร์เซนอลก็จ้องอยู่เหมือนกัน

ด้วยราคาแค่นี้ แต่ประสิทธิภาพเหลือล้น ความหลากหลายและความยืดหยุ่นเกินใคร ทำหน้าที่ได้ทั้งรุก และ รับ แถมดูท่าจะดีทั้งคู่

ไม่ว่ายังไงก็ควรซื้อมาให้ได้ ในกรณีที่พลาดเป้า จูเรียน ทิมเบอร์ แบบกู่ไม่กลับ เพราะคำขู่ของคนบางคน

ลิซานโดร มาร์ติเนซ คือของคุณภาพราคาถูก ที่มาเพื่อจุดประสงค์ในการเล่นเข้าระบบ และทำให้ทีมมีบาลานซ์ทั้งเกมรุกและเกมรับอย่างเข้มข้นจริงๆ

วิ่งดิ อาร์โนลด์ วิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

-ศาลาผี-