:::     :::

ผู้จัดการทีมในแบบฉบับ เอริค เทน ฮาก

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม 2565 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
2,642
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ถือว่าเริ่มต้นได้ดี

สำหรับ เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เริ่มช่วงปรีซีซั่น ด้วยการพาทีมเก็บชัยชนะ 3 เกมติดต่อกัน พร้อมกับผลงานยิง 11 ประตู และเสียไปเพียง 2 ลูก อย่างไรก็ตาม แนวทางการเล่นของปีศาจแดงยังต้องปรับจูนกันอีกพอสมควร นี่คือการบ้านที่เทน ฮาก ต้องแก้ไขอย่างหนัก


ช่วงนี้ เราลองไปย้อนเส้นทางการเป็นกุนซือของเทน ฮาก กันหน่อย เราจะมองเห็นปรัชญา และแนวทางจัดการทีมของเขา ไม่แน่ว่า แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะทำความรู้จักกับเขาในมุมที่อาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปติดตามกันเลย 

เอริค เทน ฮาก เริ่มต้นเส้นทางการเป็นผู้จัดการทีม ในช่วงปี 2012 ด้วยการกุมบังเหียนโก อเฮด อีเกิ้ลส์สโมสรในระดับดิวิชั่น 2 ของลีกเนเธอร์แลนด์ การเป็นกุนซือหน้าใหม่ ไม่ได้ทำให้ปรัชญาต้องเปลี่ยนแปลงเลย เขามองเห็นสิ่งที่ควรปรับปรุงของสโมสรแห่งนี้ ทำให้ลงมือแก้ไข และรื้อระบบใหม่อย่างเร่งด่วน


ย้อนกลับไปเวลานั้น เทน ฮาก เป็นผู้จัดการทีมที่ใส่ใจกับทุกรายละเอียด ทั้งในห้องแต่งตัว, สนามซ้อม และสนามแข่งขัน ทุกอย่างที่ว่ามานั้น ต้องอยู่ในขั้นสมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งการเป็นสโมสรเล็กๆในลีกรอง ไม่อาจเป็นข้ออ้างในการทำงานแบบมักง่ายได้


เรื่องนี้ถูกยืนยันจากปากของบาร์ท เฟิร์นส์อดีตนักเตะโก อเฮด อีเกิ้ลส์ ออกมาเล่าถึงผู้จัดการทีมคนนี้ว่า เป็นคนที่เน้นเก็บทุกรายละเอียด และทุกอย่างต้องเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยกล่าวว่าทีมเราจะมีผู้หญิงที่ดูแลเรื่องชุดแข่ง เธอจะวางเครื่องดื่มแบบสุ่ม อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการทีมอยากให้จัดเรียงเป็นแนวตรง โดยทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบในสายตาของเขา ผู้คนรอบข้างต้องการเวลา เพื่อทำความคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านั้น

ขณะที่ ชรูจด์ โอเฟอร์กูร์ อดีตนักเตะของ โก อเฮด อีเกิ้ลส์ ที่เคยร่วมงานกัน กล่าวบ้างว่าเรามีพนักงานผู้ชาย ที่ทำหน้าที่ดูแลสนาม เป็นประจำทุกวัน ผู้จัดการทีมจะเดินมาหาเขา พร้อมกับบอกว่า ใบหญ้าของสนามต้องยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร อะไรทำนองนั้น นั่นเป็นความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ของสโมสรแห่งนี้ เขาก้าวเข้ามา และเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไป


โอเฟอร์กูร์ ขยายความว่า สิ่งที่ผู้จัดการทีมลงมือทำ เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เพราะนี่คือการลดข้อด้อยต่างๆ และบีบความต่างกับทีมใหญ่ให้แคบลง โดยบอกว่าจำไว้ว่า เราไม่ใช่สโมสรใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ เราไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุด กระนั้น เขาต้องการทำทีมของตัวเองให้ดีที่สุด ซึ่งกุนซือหลายคนเข้ามาคุมทีมโก อเฮด อีเกิ้ลส์ และมีทัศนคติบางอย่างที่ต้องรับมือ เขาเข้ามาทำให้ทีมดีขึ้นเรื่อยๆ


โอเฟอร์กูร์ ย้อนความทรงจำว่า กุนซือคนนี้เน้นการซ้อมที่หนักหน่วงมาก โดยเฉพาะในช่วงการปรีซีซั่นเราซ้อมกับบอลเยอะมาก บางครั้ง ตอนบ่ายเราต้องวิ่งเข้าไปในป่ากันเป็นกลุ่ม ผู้จัดการทีมจะเป็นคนคอยบอกเราว่า เราต้องวิ่งในระยะทางที่กำหนด โดยให้เวลาเพียงแค่ 2 นาที


นักเตะต้องพิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็น กลุ่มของเราทำได้ 1 นาที 50 วินาที ทันใดนั้นเอง เขาตะโกนลั่นกลับมาว่า -ถ้าฉันบอกให้พวกนายวิ่ง 2 นาที นั่นคือ 2 นาที ฉันไม่ต้องการเห็นการวิ่ง 2 นาที 10 วินาที หรือว่า 1 นาที 50 วินาที- เขาเป็นผู้จัดการทีมที่มีนิสัยแบบนี้ ถ้าคุณไม่ยึดติดกับแผน คุณจะต้องเจอกับปัญหา

สลับมาที่เฟิร์นส์ เล่าถึงเรื่องราวที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้บ้างว่าเทน ฮาก จะทำการจัดเตียงนอนของนักเตะ เพื่อให้เรานอนหลับ และพักผ่อน ระหว่างการฝึกซ้อมทั้ง 2 ครั้ง นั่นถือว่าเป็นเรื่องใหม่ของพวกเราในเวลานั้นเลย ย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว หลังจากจบเกมการแข่งขันแล้ว เขาจะเรียกเราเข้าห้องไปทีละคน พร้อมกับเปิดคลิปผลงานของนักเตะแต่ละคนให้ดู แน่นอนว่า เขาไม่เคยพอใจกับฟอร์มการเล่นง่ายๆเลย


โอเฟอร์กูร์ เสริมถึงการใส่ใจอีกว่าเทน ฮาก ติดช่องหน้าต่างเอาไว้ที่ประตูในห้องทำงาน เราทุกคนต่างตั้งคำถามเหมือนกันว่า -บอสจะทำแบบนั้นไปทำไมกัน หรือแค่อยากเห็นลอดออกมาว่า นักเตะกำลังทำอะไรกันอยู่ ?- แต่ความจริงแล้ว ผู้จัดการทีมบอกว่า หากประตูปิด และไม่เสริมช่องหน้าต่างเข้าไป นักเตะก็จะไม่กล้าเข้ามาหา เพราะคิดว่าเขาอาจจะยุ่ง หรือเกรงใจที่จะเคาะประตู การทำแบบนี้ ทำให้เห็นชัดเจนว่า ผู้จัดการทีมกำลังยุ่งอยู่หรือไม่ ทำให้การเข้ามาหาเขาเป็นเรื่องง่าย นั่นเป็นสิ่งที่ผมประทับใจ


แม้จะเข้ามาทำงานเพียงแค่ปีเดียว แต่การใส่ใจของเขาทั้งหมด ทำให้เขาสามารถทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม พร้อมกับพาสโมสรแห่งนี้ เลื่อนชั้นมาเล่นในลีกสูงสุด เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ก่อนจะไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับบาเยิร์น มิวนิค (ทีมสำรอง), อูเทร็คท์ และอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม

เวลาผ่านไป 10 ปีเต็ม วันนี้เทน ฮาก ไม่ได้เป็นผู้จัดการทีม โก อเฮด อีเกิ้ลส์ อีกแล้ว แต่เขาก้าวมาคุมทีมที่ยิ่งใหญ่สุดทีมหนึ่งของโลกลูกหนัง ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และความสำเร็จอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แน่นอนว่า มันมาพร้อมกับความกดดันเช่นเดียวกัน


จากการรื้อระบบต่างๆ ทั้งการวางน้ำ, ดูแลผืนหญ้า, ปรับการฝึกซ้อม และเปลี่ยนห้องทำงาน ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องของวันวาน เขาต้องมาเจอความกดดันอย่างมหาศาลในเร็ววัน


ภายในทีมปีศาจแดงที่เต็มไปด้วยสิ่งที่ต้องรื้อระบบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขายนักเตะ, การเชื่อมต่อระบบแมวมอง, การสร้างบรรยากาศในห้องแต่งตัว, การเรียกสปิริต และที่สำคัญคือ การติดตั้งระบบการเล่นให้ตรงตามเอกลักษณ์ เพื่อนำสโมสรพุ่งชนกับความสำเร็จอีกหนึ่งครั้ง


นี่คือสิ่งที่รอเขาอยู่เบื้องหน้า ซึ่งต้องบอกว่าเป็นงานที่ยากสุดในชีวิต ในการกู้คืนสโมสร ที่กุนซือชื่อดังหลายคนสั่นคลอน และเอาชื่อมาทิ้งที่นี่ ไม่ว่าสุดท้ายจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่ชีวิตของเขากำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาล

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด