:::     :::

ย้อนรอยหมายเลข'9'บาร์ซ่า

วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม 2565 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
2,811
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ย้ายมาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า พร้อมความคาดหวังสูงลิบเกี่ยวกับการผลิตสกอร์เหมือนช่วงที่เล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ตลอด 8 ปีก่อนหน้านี้

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ย้ายมาสู่ถิ่น 'คัมป์ นู' พร้อมความคาดหวังสูงในฐานะผู้เล่นหมายเลข 9 คนใหม่ของ บาร์เซโลน่า นับตั้งแต่การอำลาสโมสรของ หลุยส์ ซัวเรซ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2020

เลวานดอฟสกี้ มาพร้อมกับสถิติที่ยอดเยี่ยมในการค้าแข้ง 8 ปีกับ บาเยิร์น มิวนิค จากการกระทุ้ง 344 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 375 เกม พร้อมดีกรีดาวซัลโวบุนเดสลีกา 7 สมัย (1 ครั้งกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์) รวมถึงรางวัล รองเท้าทองคำ หรือดาวซัลโวสโมสรยุโรป 2 สมัย

แม้ เลวานดอฟสกี้ กำลังจะอายุแตะหลัก 34 ปีในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ แต่ บาร์เซโลน่า ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของหัวหอกทีมชาติโปแลนด์ว่าจะรักษาระดับผลงานไปอีก 2-3 ปีเป็นอย่างน้อย 


ดังนั้น โจน ลาปอร์ต้า ประธานบาร์ซ่าจึงกล้าทุ่มเงินเบื้องต้น 45 ล้านยูโรบวกโบนัสอีก 5 ล้านยูโรดึง เลวานดอฟสกี้ เข้ามาเสริมแนวรุกตามความประสงค์ของ ชาบี เอร์นานเดซ แม้ว่ามันอาจเป็นการลงทุนมากเกินไปสำหรับนักเตะที่เหลือสัญญาเพียงปีเดียวและวัยใกล้แตะหลัก 34 ปีก็ตาม

มันเป็นเรื่องยากสำหรับการเปรียบเทียบนักเตะจากยุคต่างๆมากมาย แต่หากต้องการทำให้มันเฉพาะเจาะจงมากขึ้นเล็กน้อยคงต้องเทียบย้อนกลับไปตั้งแต่ โรนัลโด้ นาซารีโอ มาถึง 'คัมป์ นู' ตั้งแต่ปี 1996 ว่าผู้เล่นหมาย 9 ของทัพอาซูลกราน่าคนใดทำผลงานดีสุด 

10.มาร์ติน เบรธเวต

หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่แปลกประหลาดอย่างแท้จริง มันทำให้หลายคนรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่นักเตะอย่าง เบรธเวต ได้ย้ายมาเป็นส่วนหนึ่งของยอดทีมอย่าง บาร์เซโลน่า นั่นเป็นเพราะการขาดแคลนตัวเลือกในแนวรุกจนทำให้ทีมยักษ์กาตาลุนย่าต้องยอมจ่ายเงินค่าฉีกสัญญา 18 ล้านยูโรดึงกองหน้าทีมชาติเดนมาร์กมาจาก เลกาเนส นอกตลาดนักเตะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 

เบรธเวต เป็นเพียงการเซ็นสัญญาแก้ขัดของ บาร์เซโลน่า แต่ก็ไม่ใช่หายนะทั้งหมด เขายังทำ 10 ประตูจากการลงเล่น 57 เกม เกือบทั้งหมดมาจากการลงเล่นฐานะสำรอง

อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่า ยอมรับว่าการลงทุนดึง เบรธเวต มาสู่ถิ่น 'คัมป์ นู' เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด โดยเฉพาะการจ่ายค่าจ้างให้นักเตะถึงปีละ 4 ล้านยูโร มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะหาทางปล่อยกองหน้าทีมชาติเดนมาร์กออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ 

9.เมมฟิส เดอปาย

เดอปาย ล้มเหลวในการค้าแข้งกับ แมนฯยูไนเต็ด แต่กองหน้าชาวดัตช์สามารถฟื้นฟูอาชีพของตนเองหลังตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งกับ ลียง ในช่วงเดือนมกราคมปี 2017 ก่อนจะตัดสินใจเดินตามความฝันด้วยการย้ายมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า แบบไม่มีค่าตัวในช่วงซัมเมอร์ปี 2021

กองหน้าวัย 28 ปีเริ่มต้นอาชีพได้ดีภายใต้การกุมบังเหียนของ โรนัลด์ คูมัน โดยทำ 2 ประตูจากการลงเล่น 3 เกมแรก ก่อนจะเริ่มแผ่วหลังจากนั้นและมีบทบาทน้อยลง เนื่องจากการบาดเจ็บ รวมถึงการเปลี่ยนเทรนเนอร์มาเป็น ชาบี เอร์นานเดซ โดยปิดฉากซีซั่นแรกในสเปนของเขาด้วยการทำ 13 ประตูจากการลงเล่น 38 เกม และน่าจะเป็นปีเดียวที่เขาลงเล่นในฐานะนักเตะบาร์ซ่า

8.ซอนนี่ อันแดร์ซอน

อันแดร์ซอน ถูกดึงมาจาก โมนาโก ในช่วงซัมเมอร์ปี 1997 เพื่อเป็นตัวแทนของ โรนัลโด้ นาซารีโอ ด้วยเงินเกือบ 30 ล้านยูโร แต่กองหน้าชาวบราซิเลียนไม่สามารถสร้างความโดดเด่นได้อย่างที่แฟนๆบาร์ซ่าคาดหวัง

ตลอด 2 ปีใน 'คัมป์ นู' อันแดร์ซอน ทำได้เพียง 21 ประตู จากการลงเล่น 47 เกม ก่อน บาร์เซโลน่า จะโละกองหน้าชาวบราซิเลียนให้ ลียง ด้วยค่าตัว 18 ล้านยูโรในช่วงหน้าร้อนปี 1999

7.โบยาน เกร์กิช

ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกขนานนามว่า 'เมสซี่สแปนิช' หลังการแจ้งเกิดกับ บาร์เซโลน่า คล้าย ลีโอเนล เมสซี่ กองหน้าดาวดังชาวอาร์เจนไตน์ แต่หลังจากนั้นเพียง 2-3 ฤดูกาล กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงเพราะฝีเท้าเขาไม่ได้เลอเลิศตามการยกย่อง 

โบยาน ทำ 41 ประตูจากการลงเล่น 163 เกมกับ บาร์เซโลน่า ก่อนชีวิตค้าแข้งจะเรร่อนไปอยู่กับหลายสโมสรทั้ง โรม่า, มิลาน, อาแจ็กซ์, สโต๊ค ซิตี้, ไมนซ์, อลาเบส, มอนทรีออล อิมแพ็คท์ มาจนถึง วิสเซล โกเบ เป็นสโมสรในปัจจุบัน

6.ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

บาร์เซโลน่า และ ซลาตัน จะถูกจดจำไปตลอดในฐานะคู่แต่งงานที่ล้มเหลว แต่มันน่าจะเป็นความล้มเหลวของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ อิบราฮิโมวิช มากกว่า เนื่องจากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ทำให้การทำงานร่วมกันไม่ราบรื่นอย่างที่คาดหวัง

อิบราฮิโมวิช ย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน มาสู่ถิ่น 'คัมป์ นู' ในช่วงซัมเมอร์ปี 2009 สวนทางกับ ซามูแอล เอโต้ ที่โยกสู่ถิ่น 'ซาน ซีโร่' แม้กองหน้าชาวสวีดิชจะมีปัญหาไม่ลงรอยกับเทรนเนอร์ แต่เขายังทำผลงานในสนามได้ดีในระดับหนึ่ง ด้วยการทำ 22 ประตูกับ 13 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 46 เกม 

ซลาตัน หวนคืนอิตาลีในปีถัดมาด้วยการย้ายมาเล่นกับ เอซี มิลาน ด้วยสัญญายืมตัว ก่อนจะเซ็นถาวรกับทีมปีศาจแดง-ดำหลังจากนั้น

5.อเล็กซิส ซานเชซ

อเล็กซิส ย้ายจาก อูดิเนเซ่ มาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์ปี 2011 แต่กองหน้าทีมชาติชิลีไม่สามารถสร้างความประทับใจจนยึดตำแหน่งตัวจริงแบบถาวร นั่นทำให้เขาอยู่ในถิ่น 'คัมป์ นู' เพียง 3 ปี ทำ 47 ประตูจากการลงเล่น 141 เกม

บาร์เซโลน่า ปล่อย อเล็กซิส ย้ายไปเล่นกับ อาร์เซน่อล ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ก่อนฉายแววเด่นและกลายเป็นหนึ่งในยอดกองหน้าของเวทีพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นดีที่สุดของเขาที่ไม่เคยเกิดขึ้นในสีเสื้ออาซูลกราน่า

4.พาทริค ไคลเวิร์ต

ไคลเวิร์ต ไม่ใช่กองหน้าชาวดัตช์ดีสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร เนื่องจากยังมีผู้ยิ่งใหญ่อย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ ที่เคยอยู่กับบาร์ซ่าทั้งในฐานะนักเตะ, เทรนเนอร์ และตำนานที่ได้ทิ้งมรดกที่ยังตราตรึงมาจนถึงปัจจุบัน 

อย่างไรก็ตาม ไคลเวิร์ต ยังสร้างมรดกของตนเองไว้กับทีมอาซูลกราน่าเช่นเดียวกัน นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เอซี มิลาน ในช่วงซัมเมอร์ปี 1998 กองหน้าชาวดัตช์ยิงรวมกัน 122 ประตูจากการลงเล่น 257 เกม คว้าแชมป์ร่วมกับสโมสรมากมาย ก่อนจะอำลาถิ่น 'คัมป์ นู' ในช่วงซัมเมอร์ปี 2004 

3.โรนัลโด้ นาซารีโอ 

โรนัลโด้ ยังคงเป็นเจ้าของรางวัล บัลลง ดอร์ อายุน้อยที่สุดมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งต้องขอบคุณการระเบิดฟอร์มในซีซั่นเดียวที่ค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า หลังกระทุ้ง 47 ประตูจากการลงเล่น 49 เกมในฤดูกาล 1996-1997 ตอนเขาอายุเพียง 21 ปี พร้อมนำทีมยุค เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน คว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ และ คัพวินเนอร์ส คัพ ในซีซั่นหน้า

จากผลงานดังกล่าวทำให้ โรนัลโด้ และตัวแทนของเขาเรียกร้องค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อจากสโมสร แต่ บาร์เซโลน่า ไม่สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าว ก่อนยอมปล่อยกองหน้าชาวบราซิเลียนย้ายไปค้าแข้งกับ อินเตอร์ มิลาน ในช่วงหน้าร้อนปี 1997

2.ซามูแอล เอโต้

มีสองอย่างที่คุณนึกดึง เอโต้ นั่นคือจังหวะที่พุ่งพล่านและประตูจำนวนมาก ทั้งสองอย่างนำมาซึ่งความสมบูรณ์แบบของ บาร์เซโลน่า พร้อมประสบความสำเร็จมากมาย 

นับตั้งแต่ย้ายจาก มายอร์ก้า มาสู่ถิ่น 'คัมป์ นู' ในช่วงหน้าร้อนปี 2004 เอโต้ ทำ 130 ประตูจากการลงเล่น 199 เกม เขายังเป็นหนึ่งในแนวรุกที่น่าสะพรึงกลัวร่วมกับ ลีโอเนล เมสซี่ และ เธียร์รี่ อองรี ร่วมคว้าแชมป์ ลา ลีกา 3 สมัย และ แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย

1.หลุยส์ ซัวเรซ

แน่นอนว่าผลงานของ เอโต้ นั้นยอดเยี่ยม ขณะที่ โรนัลโด้ สร้างผลงานน่าประทับใจแต่ก็เกิดขึ้นภายในฤดูกาลเดียว ไม่มีใครที่มีความสม่ำเสมอและสร้างชื่อเสียงให้สโมสรได้มากเท่า หลุยส์ ซัวเรซ

กองหน้าชาวอุรุกวัยกระทุ้ง 198 ประตูจากการลงเล่น 283 เกมกับ บาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่ง นอกจากนี้เขายังทำอีก 113 แอสซิสต์ ใกล้เคียงกับสถิติของ ลีโอเนล เมสซี่ 

หลุยส์ ซัวเรซ ยังเป็นผู้เล่นสำคัญสุดอันดับ 2 รองจาก เมสซี่ เท่านั้น โดยคว้าแชมป์ ลา ลีกา 4 สมัยและแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัยร่วมกับทัพอาซูลกราน่า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด