:::     :::

จิ๊กซอว์ที่หายไปของ "กิเลนผยอง"

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม 2565 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
661
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด ถูกจัดอยู่ในกลุ่มพรีเมี่ยมของลูกหนังไทย การันตีด้วยแชมป์ไทยลีก 4 สมัย

แต่ปัจจุบันความสำเร็จเริ่มห่างไกลจากพวกเขาออกไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่แปลกที่มันจะเกิดขึ้น เพราะไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าไปตลอดกาล 

แต่บอร์ดบริหารของสโมสรไม่ได้นิ่งเฉยพยายามปรับโฉมทีม ตามกำลังเงินสนับสนุนที่ลดลงไป เพื่อหวังว่าทีมกลับมาผงาดเป็นเจ้าลูกหนังไทยอีกครั้ง


โดยเฉพาะฤดูกาลนี้มีการคว้านักเตะฝีเท้าดีมาเสริมทัพไม่ว่าจะเป็น “เอกนิษฐ์ ปัญญา” หนึ่งในเจ้าหนูมหัศจรรย์ของวงการลูกหนังไทยในปัจจุบัน ด้วยค่าตัว 30 ล้านบาท 

หรือ “เอริก โจฮานน่า” ปีกความพริ้วดีกรีทีมชาติเคนย่า เมื่อบวกกับขุมกำลังเก่าทั้ง ลูคัส โฮช่า, วีระเทพ ป้อมพันธ์, พิชา อุทรา, เฮนรี อานิเยร์ หรือ ซาดอร์ มีร์ซาเยฟ ถือว่า “เมืองทอง ยูไนเต็ด”ศักยภาพไม่ขี้เหร่เลย 


แฟนบอลคงแอบหวังลึกๆ ว่าทีมรักจะขึ้นไปท้าชิงแชมป์กับคู่ปรับอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี ได้สนุกเร้าใจกว่าเดิม 

ทว่าหลังออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่มาได้ 3 นัด “กิเลนผยอง” กลับทำผลงานได้ไม่ดี เพราะไม่สามารถชนะคู่แข่งได้เลย

โดยเสมอไป 2 นัด และแพ้ 1 นัด มี 2 แต้ม ถือเป็นการออกสตาร์ท 3 นัดแรก ที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรนับตั้งแต่ปี 2009  


ซึ่งการลงสนาม 2 เกมหลังสุดนั้น พวกเขาเจอคู่แข่งที่ไม่ได้แกร่งมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ “ลำปาง เอฟซี” 

แต่ขุนพล “กิเลนผยอง” กลับปล่อยให้น้องใหม่จากเมืองเหนือที่เหลือ 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรก ฉกแต้มจากถิ่นธันเดอร์ โดม กล้บบ้านเฉยเลย 

ทำให้สถานการณ์ของทีมดูไม่ดี และ มาริโอ ยูรอฟสกี้ กุนซือของทีมเอง ขาเก้าอี้เริ่มสั่นคลอนเหมือนกัน 

ยิ่งเห็นโปรแกรมอีก 6 นัดของทีมต้องบอกว่าเหนื่อยเอาการ เริ่มจากรับมือ “สุโขทัย เอฟซี” น้องใหม่ที่ยังไม่ชนะ 


จากนั้นจะต้องเจอโปรแกรมหฤโหด เริ่มจากเจอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (เยือน), ชลบุรี เอฟซี (เหย้า), บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (เยือน), การท่าเรือ เอฟซี (เหย้า) และออกไปเยือน โปลิศ เทโร เอฟซี

เอาจริงๆ ระบบการเล่นและวิธีการโจมตีคู่แข่งของทีม “กิเลนผยอง” ถือว่าเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสถิติการจ่ายบอลถึง 1,000 ครั้งใน 2 เกมแรก จ่ายบอลสำเร็จถึง 876 ครั้ง จ่ายบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย 285 ครั้ง สำเร็จถึง 125 ครั้ง 


สุดท้ายแม้รูปเกมจะสวยงาม แต่สิ่งที่ขาดไปคือ “คนทำประตู”

เอาจริงๆ เมืองทองฯ เป็นทีมที่ไม่เคยขาดแคลนกองหน้าชั้นเลิศเลย ตั้งแต่ ธีรศิลป์ แดงดา, เคลตัน ซิลวา หรือ เฮแบร์ตี้ แฟร์นันเดส 

กระทั่งฤดูกาลนี้พวกเขาได้เสีย “วิลเลียม พ็อพพ์” ที่กดไป 15 ประตู เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งส่งผลกระทบการต่อทำประตูของทีมโดยตรง


แถมคนที่ย้ายเข้ามาอย่าง “เอกนิษฐ์” หรือ “โจฮานน่า” เป็นสายปั้น มากกว่ายิงเอง 

ขณะที่หัวหอกตัวความหวังอย่าง “อานิเย่ร์” ก็ยังไม่ฟิต ขณะที่ “อดิศักดิ์ ไกรษร” ยังเรียกฟอร์มเก่งเข้าร่างยังไม่ได้

 ส่วน “ปรเมศย์ อาจวิไล” หรือ “กรวิชญ์ ทะสา” เองยังพรรษาลูกหนังระดับท็อปน้อยเกินไป 

คงเป็นการบ้านของ “มาริโอ” แล้วว่าจะสะสางปัญหาเหล่านี้ยังไง และจะปรับแนวทางการเล่นแบบไหนให้เข้ากับนักเตะที่มีอยู่ตอนนี้ เพื่อพาทีมปลดล็อคคว้าชัยชนะเกมแรกของฤดูกาลให้ได้


ส่วนบอร์ดบริหารเห็นทีต้องมองหา “หัวหอกตัวเป้า” คนใหม่ เข้ามาเสริมทัพในเลก 2 แล้ว เพราะเห็นได้ชัดว่าเป็นจิ๊กซอร์ที่ขาดหายไปจริงๆ 

หากยังหาดาวยิงตัวความหวังไม่ได้ เห็นทีฤดูกาลนี้ “กิเลน” คง “ผยอง” ไม่ออกเหมือนกัน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด