โดยขุมกำลังหลักระดับแม่เหล็กไม่ว่าจะเป็น “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน, พรรษา เหมวิบูลย์, ศุภชัย ใจเด็ด ดาวซัลโว สูงสูดในไทยลีก และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้าฟอร์มฮ็อตจาก “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด”
นอกจากนี้ยังมี “สารัช อยู่เย็น” ขาประจำจาก “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ตามมาด้วย “กฤษดา กาแมน” จอมทัพ จาก “ชลบุรี เอฟซี”
หรือจะเป็น “ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์” ที่ฟอร์มดีแบบเงียบๆ กับ “แข้งเทพ” และ “วีระเทพ ป้อมพันธ์” จาก” เมืองทอง” ตัวเด็ดของ “มาโน่” ที่จะขาดไม่ได้ เพราะนี่คือหัวใจสำคัญในการบิวอัพเกมจากแดนหลัง
ส่วน 2 ขุนพลจากแดนปลาดิบทั้ง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ จอมทัพจาก “คาวาซากิ ฟรอนตาเล่” และ “เช็ค” สุภโชค สารชาติ ตัวรุกจาก “คอนซาโดเล่ ซัปโปโร” ต่างตบเท้ามีชื่ออย่างพร้อมเพรียง
รวมไปถึงจอมเก๋าอย่าง “จักรพันธ์ แก้วพรม” ที่หวนคืนสู่ทัพ “ช้างศึก” อีกหนในรอบ 3 ปี หลังระเบิดฟอร์มเทพในเครื่องแบบ “ราชันมังกร” ราชบุรี เอฟซี
และเพื่อนร่วมทีมอย่าง “กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล” อีกหนึ่งมือกาว ที่ฟอร์มดีต่อเนื่องก็ไม่ตกขบวนเช่นเดียวกัน
ขณะที่ตัวหลักอย่าง “ธีรศิลป์ แดงดา” กับ “วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ” คู่ดูโอ้จาก “บีจี ปทุม” และ “อดิศักดิ์ ไกรษร” หัวหอกจาก “เมืองทอง ยูไนเต็ด” หลุดโผไป
ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะสภาพร่างกายยังไม่สมบูรณ์มากนัก และเป็นการเปิดโอกาสให้นักเตะรุ่นใหม่ได้โชว์ฝีเท้าบ้าง
ไม่ว่าจะเป็น “ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว” กองกลางจาก “ชลบุรี เอฟซี” และ “ธีรศักดิ์ เผยพิมาย” กองหน้าที่ฟอร์มฮ็อตยิง 2 ประตูติดต่อกันในเกมรีโว่ไทยลีก ต่างมีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เตรียมลงเล่นทัวร์นาเมนต์นี้เป็นครั้งแรกด้วย
ทาง “มาโน่” เองบอกเองว่าได้ติดตามผลงานทุกคนมาร่วมเดือน ดังนั้นนี่คือทีมชุดที่ดีที่สุดของเขาในรายการนี้
จะเห็นได้ว่า “มาโน่” เองคงทราบดีว่าตอนนี้แนวรุกของทีม “ช้างศึก” จะใช้บริการแค่ “เทพมุ้ย” และ AK9” ที่เริ่มโรยราไม่ได้แล้ว
ดังนั้นการใช้ขุมกำลังรุ่นใหม่อย่าง ศุภชัย ใจเด็ด, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ถือเป็นการสร้างทีมชาติไทยสู่อนาคต
โดยเฉพาะ “กองหน้า” ซึ่ง “ศุภชัย” จะได้พิสูจน์ตัวเองว่าพร้อมก้าวขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ในเร็ววันนี้ได้ดีแค่ไหน
ส่วน “ศุภณัฏฐ์” หลังโดน “มาซาทาดะ อิชิอิ” ตัดต่อพันธุกรรม จาก “กองหน้า” ไปเล่นเป็นปีกขวาจะได้รับมอบหมายให้เล่น “กองหน้า” หรือ “ปีก” ในชุดทีมชาติไทย
ขณะที่ “ธีรศักดิ์” ฉายแววการจบสกอร์ที่คมกริบ การหาพื้นที่ว่างในการเล่นได้อย่างธรรมชาติ มองแล้วก็คล้าย “มุ้ย” อยู่เหมือนกัน
ซึ่งทั้งตัวเขาและ “ชาญณรงค์” คงต้องคว้าโอกาสทองและพิสูจน์ตัวเองให้ได้ เพราะหากผลงานดี โอกาสติดทัพ “ช้างศึก” ยาวๆ มีสูงทีเดียว
นี่คือการทดลองทีม และสร้างทีมสู่อนาคตแบบแยบยลของ “มาโน่” ที่น่าติดตาม
ส่วนผลงานหากได้แชมป์ ก็ถือเป็นโบนัส ก็แล้วกัน
