มันคือชัยชนะนัดแรกหลังจาก 4 เกมก่อนหน้านั้นต้องเจอกับความผิดหวังเสมอ 2 ชนะ 2 จนหมดลุ้นแชมป์กลุ่ม ที่สำคัญคือเสียงวิจารณืที่พุ่งมาจากสื่อและแฟนบอลแดนน้ำหอม

แต่การได้ 3 คะแนนในเกมล่าสุดส่งผลให้ลูกทีม ดีดีเย่ร์ เดส์ช็องส์ กระโดดจากทีมบ๊วยมารั้งที่ 3 แทน ออสเตรีย กระนั้นงานของทัพตราไก่ยังไม่จบแค่นี้

เกมสำคัญจะเกิดขึ้นในคืนนี้ (อาทิตย์) ซึ่งทาง เลส์ เบลอส์ หมายมั่นบุกชนะ เดนมาร์ก ออกมาให้ได้ และหากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องไปรอลุ้นผลของคู่ ออสเตรีย พบ โครเอเชีย

ปัจจัยต่างๆ ถือว่าเข้าทาง ฝรั่งเศส มากกว่า แต่หากพิจารณาจากผลงานโดยรวมและสภาพทีมถือว่าเป็นเกมที่หนักหนาสาหัสแน่นอน บวกกับ เดนมาร์ก ต้องการชัยชนะเช่นกันเพื่อโอกาส แซงหน้า โครเอเชีย เข้าแชมป์กลุ่ม

ทำให้เกมในคืนนี้ของกลุ่ม 1 สนุกน่าลุ้นจนนาทีสุดท้าย เพราะไม่ว่าการแข่งขันจะออกมาเช่นไรมันจะส่งผลโดยตรงต่อทั้ง 4 ทีมอย่างแน่นอน

อย่างที่เรียนไปว่าสถานการณ์ของ ตราไก่ หากชนะไม่ต้องไปรอลุ้นผลที่กรุงเวียนนาให้เสียเวลา แต่หากไม่เป็นตามนั้น เลส์ เบลอส์ ต้องลุ้นให้ลูกทีม ราล์ฟ นิงนิก ไม่ชนะ โครเอเชีย

กรณีที่ ฝรั่งเศส เจอกับการปราชัย และทาง ออสเตรีย ได้ผลเสมอ ก็ยังคงเข้าทางฝ่ายแรกเพราะสถิติ เฮด ทู เฮด เป็นฝั่ง ตราไก่ เหนือกว่า (เสมอ 1-1 (ย) และชนะ 2-0 (ห))

นั่นคือสถานการณ์และโอกาสที่มีสิทธิ์จะเกิดขึ้นหลังจากผ่านพ้นคืนนี้ไป แต่สำหรับ ฝรั่งเศส ยังมีเรื่องให้วิเคราะห์นอกจากผลการแข่งขันหลังจากนี้

อย่างที่ทราบกันดีว่า 'เดเด้' เจอปัญหานักเตะเจ็บเป็นโหลก่อนช่วงทีมชาติรอบนี้

บรรดาแกนหลัก อาทิ ปอล ป็อกบา, เอ็นโกโล ก็องเต้, คาริม เบนเซม่า, กิงส์เล่ย์ โกมัน, ลูกัส แอร์กน็องเดซ และ อูโก้ โยริส ต่างมีปัญหาสภาพร่างกาย

ไหนจะพวกที่ทำผลงานได้ดีทั้ง เตโอ แอร์กน็องเดซ กับ เพรสแนล คิมเพมเบ้ ที่เจอโรคเดี้ยงเช่นกัน รวมถึง ลูก้าส์ ดีญ, อิบราอีม่า โกนาเต้, อาเดรียง ราบิโอต์ และ บูบาการ์ กามาร่า ทำให้รอบนี้สาวกตราไก่ได้เห็นนักเตะหน้าใหม่หลายรายและยังมีหน้าเก่าที่หายไปนานถูกเรียกเข้ามาอีกครั้ง

มองในแง่ดีคือการได้โอกาสทดลองทีมก่อนฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปลายปีนี้ แต่ปัญหาที่ว่ายังไม่หมดแค่นั้นเพราะหลังจบเกมล่าสุด ฌูลส์ กุนเด้ กับ ไมค์ เมนญ็อง ขอถอนตัวเพราะอาการ 'บาดเจ็บ'

นั่นจึงเป็นเรื่องที่ เดส์ช็องส์ ต้องแก้ไขและหาทีมที่ดีที่สุดเพื่อรักษาสถานะใน เนชั่นส์ ลีก เอ ให้ได้ ที่สำคัญคือการวัดศักยภาพเชิงลึกของทีมว่าจะมีดีมากน้อยแค่ไหนในยามคับขันเช่นนี้

แต่ในนัดล่าสุดมีนักเตะที่ได้รับคำชมอย่างมากจากผลงานในสนาม ซึ่งหนีไม่พ้นสองแข้งหน้าใหม่ที่ได้ประเดิมเกมแรกให้ เลส์ เบลอส์ ทั้ง เบอนัวต์ บาเดียชิล กับ ยุสซูฟ โฟฟาน่า

ดาวเตะจากโมนาโกได้โอกาสสำคัญซึ่งดูเหมือนว่าทั้งคู่จะทำได้ดีอย่างมาก โดยเฉพาะ โฟฟาน่า ที่จับคู่เข้าขา โอเรเลียง ชูอาเมนี่ ได้ยอดเยี่ยม เพราะทั้งสองเคยประสานงานกันในถิ่น สต๊าด หลุยส์ II มาก่อน

นอกเหนือไปจากนั้น ราฟาแอล วาราน กลับมาเป็นคนเดิมเหมือนสมัยที่เล่นให้ เรอัล มาดริด ทั้งความแข็งแกร่ง ความเฉียบคมแน่นอน และเกมป้องกันอันแข็งแกร่งได้แสดงออกมาให้เห็นในนัดล่าสุด

ถือเป็นสิ่งที่ดีในช่วงเวลาน่าปวดหัวของ เดส์ช็องส์ ถึงแกนหลักจะหายไปหลายคน แต่การได้ดูหน้าใหม่ลงสนามทำผลงานนับได้ว่าจะเป็นการเปิดทางเลือกให้กับเทรนเนอร์วัย 53 ปีก่อนศึกใหญ่มาถึง

กระนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุด ณ ตอนนี้คือการบุกชนะ เดนมาร์ก เพื่อรักษาโควตาการเล่นใน เนชั่นส์ ลีก เอ ต่อไป

ไม่มีพื้นที่ให้กับความผิดพลาด เพราะหากจบอันดับสุดท้ายของกลุ่มพวกเขาต้องหล่นลงไปในระดับ บี ซึ่งชะตากรรมคงไม่ต่างจากทีมชาติอังกฤษที่โดนถล่มเละเทะทั้งจากสื่อและแฟนบอล

ยิ่งตอนนี้ 'เดเด้' กำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิด หากทีมพลาดท่าขึ้นมาคงหนีไม่พ้นการโดนชำแหละและโยงไปถึงเส้นทางในฟุตบอลโลกอย่างแน่นอน

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกอย่างมันเกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ออก ในช่วงเวลาที่ชาติใหญ่หลายทีมทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ ฟากฝั่ง ฝรั่งเศส พยายามดีดตัวหนีออกจากลุ่มเหล่านั้นเพื่ออย่างน้อยลดกระแสและแรงกดดันจากภายนอกก่อนมีการประกาศรายชื่อลุยกาตาร์

สิ่งนั้นได้รับความสนใจไม่น้อย และมันจะยิ่งถูกแสงไฟสาดส่องมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปใกล้เดือนพฤศจิกายน

ถึงตรงนี้ ฝรั่งเศส มีงานด่านแรกให้สะสาง นั่นคือการรักษาสถานะในเนชั่นส์ ลีก เอ เพื่ออย่างน้อยจะทำให้บรรยากาศอันตึงเครียดคลายลงได้บ้าง

แต่หากทำไม่สำเร็จหรือมีผลงานน่าผิดหวัง ไม่อยากคิดเลยว่าสภาพหลังจากนี้จะเป็นเช่นไร