แต่เมื่อเขาย้ายออกไป “ปราสาทสายฟ้า” ก็พยายามควานหาตัวแทนในตำแหน่งนี้มาตลอด คนที่ตบเท้าเข้ามาอย่างเพื่อนร่วมชาติอย่าง ยู จุนซู มิดฟิลด์จาก อุลซาน ฮุนได ทีมดังในเคลีก ก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้ รวมไปถึง จอง แจ ยอง อดีตกองกลางกัปตันทีม โปฮัง สตีลเลอร์ส อีกราย

 หรือแม้แต่ เควิน อินเกรโซ กองกลางทีมชาติฟิลิปปินส์ ก็ยังไม่แจ่มพอ รวมทั้ง อัคบาร์ อิสมาตุลลาเยฟ ที่เคยคว้าแชมป์ลีกสูงสุดอุซเบกิสถานกับ ปัคตากอร์ 2 สมัย และ ฟุตบอลถ้วย 1 สมัย ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ เมตาลุค เบคาเบด ตั้งแต่ปี 2018 ก็ลูกผีลูกคน

แบรนดอน โอนีล มิดฟิลด์ออสซี่ที่ย้ายจาก โปฮัง สตีลเลอร์ส มาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฐานะแข้งโควตาเอเชีย ในช่วงเลกสองของฤดูกาล 2020 ก่อนจะแยกทางกับทีมหลังจบซีซั่นดังกล่าวกลับไปค้าแข้งในศึกเอลีก ออสเตรเลีย กับเพิร์ธ กลอรี ด้วยผลงานการลงสนามไปแค่ 10 นัด 

 แถมยังเคยเอา ปิยพล ผานิชกุล ขึ้นมาเล่นร่วมกับ รัตนากร ใหม่คามิ หรือการกลับมาสู่ ช้าง อารีนา ของ ธีราทร บุญมาทัน ก็ยังจับแข้งรายนี้ขึ้นมาเล่นกองกลางกับ จักรพันธ์ แก้วพรม ในท้ายฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งผนึกกำลังกันช่วยทีมคว้า ทริปเปิ้ล แชมป์มาครองได้สำเร็จ

ซีซั่นนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดการคว้าตัวละครลับที่หลายคนตั้งคำถามว่าจะเอาชื่อมาทิ้งอีกหรือไม่ นั่นคือ โกรัน เคาซิช ที่เคยมีชื่อติดทีมชาติชุดเยาวชนของเซอร์เบีย มาตั้งแต่ รุ่นอายุ 18 ปี, 19 ปี และ 21 ปี 

หมอนี่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจาก อาร์เซน่อล ตูล่า ทีมในลีกสูงสุดประเทศรัสเซีย ซึ่งมีสภาพอากาศคนละขั้วกับเมืองไทย โดยสถิติที่น่าสนใจของแข้งชาวเซอร์เบียกับสโมสรดังกล่าว ลงสนาม 23 นัด ยิง 2 ประตู แอสซิสต์ 2 ครั้ง 9 ใบเหลือง 1 ใบแดง 

ซึ่งมีค่าเฉลี่ยการลงสนามตัวจริงคิดเป็น 77 เปอร์เซ็นต์ เวลาลงสนามเฉลี่ย 70 นาที มีส่วนร่วมในการทำประตู 13 เปอร์เซ็นต์ ถือว่ามีสถิติที่ยอดเยี่ยมไม่น้อย อีกอย่างประสบการณ์ของเขาในปี 2016 กับ โอซาซูน่า ทีมดังจากลาลีกาสเปน ที่ได้ดึงตัวเขาไปเล่นในแดนกระทิงดุลงเล่นไปถึง 28 แมตช์

ลีกลูกหนังแดนกระทิงดุทำให้เขาได้ดวลแข้งกับยอดเตะของโลก ทั้ง ลิโอเนล เมสซี ที่เขาเคยไล่อัดตลอด 90 นาที, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า, ฮาเมส โรดริเกซ, แกเร็ธ เบล ซึ่งเป็น 4 เกมรุกสุดโหดของ เรอัล มาดริด ในช่วงหนึ่ง แม้กระทั่ง อองตวน กรีซมันน์ ที่ดังเป็นพลุแตกในปีนั้นกับ แอตเลติโก มาดริด

และในปี 2018 ได้กลับมาเล่นที่บ้านเกิดให้กับทีมเรด สตาร์ เบลเกรด ทีมที่เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอล จนมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเซอร์เบียได้สำเร็จ อีกทั้งเหตุการณ์หนึ่งในความทรงจำ ในการปะทะกับ เนย์มาร์ แนวรุกทีมชาติบราซิลของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จนหวิดฟาดปากกันในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 

อย่างไรก็ตามการมาเล่นในเมืองไทย ก็ไม่ใช่งานง่ายเลย แม้ในช่วงปรีซีซั่นเขาเองจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ “ปราสาทสายฟ้า” ทว่าในศึกไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์คัพ 2022 กลับเกือบต้องเป็นฝันร้ายของเขา

เหตุการณ์เกิดขึ้นใน น.48 โกรัน เคาซิซ ไปเสียบหนักใส่ เจสซี่ เคอร์แรน ผู้เล่นบีจี ปทุม ผู้ตัดสินไปดู VAR ก่อนเดินมาให้ใบแดงกองกลางเลือดเซิร์บ ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เหลือผู้เล่นในสนาม 10 คน ก่อนจะแพ้ในที่สุด 2-3

แต่เมื่อไทยลีก 2022/2023 เปิดฉากขึ้น เขายังได้รับความไว้วางใจจาก มาซาดะ อิชิอิ ให้ลงไปคุมแดนกลางอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจับคู่กับ ธีราทร บุญมาทัน และไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้เขาเองจะเป็นดาวซัลโว อันดับที่ 3 จากผลงาน 8 นัดที่เขาลงเล่นไม่เคยถูกเปลี่ยนออก ทำสถิติวิ่งบนฟลอหญ้า 720 นาที กดไป 6 ประตู 1 แอสซิสต์ ตามหลังรุ่นน้องเพื่อร่วมทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่าง ศุภชัย ใจเด็ด เพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้มีดีแค่การเป็นตัวรับ แต่ยังสามารถทำสกอร์ได้ดีทั้งเท้าและลูกโหม่งเสียด้วย

หากจะเปรียบ โกรัน เคาซิซ เป็นแข้ง “ลิมิเต็ดเอดิชั่น” คงจะไม่ผิดนัก เพราะนักเตะอย่างเขาหายากมากๆ กว่าที่จะมาลงตัวและเป็นส่วนหนึ่งในจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้