:::     :::

เสียหาย

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
1,000
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในที่สุด เชลซี ก็แพ้เป็นเกมแรกภายใต้การคุมทีมของ แกรม พ็อตเตอร์ และไม่ใช่กับใครที่ไหน ไบรท์ตัน ทีมเก่าของนายใหญ่แห่งรั้วสแตมฟอร์ด บริดจ์นั่นเอง

         ถือเป็นผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังทีเดียวเมื่อมอถึงผลงานในช่วงที่ผ่านมาตลอดเดือนหฤโหดนี้ที่ชนะมา 6 เกมและเสมอ 2 เกม

         นึกว่าจะได้ปิดฉากเดือนตุลาคมแบบไร้พ่ายซะอีก


ออกสตาร์ทไม่ดี

         เชลซี เริ่มต้นรูปแบบเดียวกันกับเกมที่บุกชนะ ซัลซ์บวร์ก 2-1 ในบอลยุโรปด้วยการให้ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า เฝ้าเสา กองหลังมี เทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก้ ซิลวา และ มาร์ก กูกูเรย่า คุมเกม ในขณะที่วิง-แบ็กทั้งสองฝั่งเป็น คริสเตียน พูลิซิช และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 

         ตรงกลางทีมถอด จอร์จินโญ่ ออกแล้วเอา รูเบน ลอฟตัส-ชีค ลงมา พร้อมดัน คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ขึ้นไปเล่นเกมรุกกับ เมสัน เมาท์ ที่ลงสนามแทน ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง โดยให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ยืนหน้าเป้าคนเดียว

         เริ่มต้นเกมนี้เป็นทาง ไบรท์ตัน ที่เปิดฉากอย่างมีชีวิตชีวาและน่าได้ประตูขึ้นนำถึงสองครั้งสองครั้งแต่ ติอาโก้ ซิลวา ก็โหม่งเคลียร์จากเส้นได้อย่างยอดเยี่ยม


         แต่ว่าสุดท้ายเมื่อถึงนาทีที่ 5 ทีมก็มาสังเวยประตูจนได้และก็เป็น ซิลวา ที่พลาดนำมาสู่ประตูของ เลโอโดร ทรอสซาร์ ซึ่งทำให้เกมของทีมยิ่งช็อตไปเลย กระทั่งมาเสียประตูที่สองอย่างร้ายจากลูกเตะมุมที่บอลมาส่งใส่เข่าซ้ายของ รูเบน ลอฟตัส-ชีค เสียใต้คานประตูเข้าไป

         การตามหลัง 0-2 ดูจะทำให้ทีมตื่นตัวขึ้นมาบ้างและน่ายิงประตูคืนได้จากสองจังหวะของ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ทั้งการได้ยิงแบบเน้นๆและลูกโหม่งแต่ว่า โรเบิร์ต ซานเชซ ก็เซฟไว้ได้เยี่ยมทั้งสองจังหวะ รวมถึงลูกยิงของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ด้วย

         แต่เมื่อเจาะไม่เข้าก็กลายเป็นมาเสียผประตูที่สามเมื่อเกมทางขวาโดนเจาะแบบไม่สมควรจะโดนเมื่อ เปร์วิน เอสตูปินญาน หลุดทะลุมาแบบโล่งก่อนตบเข้ากลาง เทรโวห์ ชาโลบาห์ พุ่งมาสกัดบอลเข้าประตูตัวเองไปอีก

         เชลซี ปิดฉากครึ่งแรกด้วยการครองบอลมากกว่าที่ 53 ต่อ 47 เปอร์เซ็นต์ โอกาสทำประตูมากกว่าที่ 9 ต่อ 6 ครั้ง แต่ว่าสกอร์กลับตามหลังไกลสุดกู่ที่ 0-3


การปรับปรุงในครึ่งหลัง

         แกรม พ็อตเตอร์ เริ่มต้นด้วยการถอด เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ออกในข่วงพักครึ่งแล้วเอา เอดูอาร์ เมนดี้ ลงเล่นแทน โดยให้สัมภาษณ์หลังเกมว่ามือกาวชาวสเปนมีอาการเจ็บที่ส้นเท้าจึงต้องทำการเปลี่ยนแปลง

         ต้องบอกว่าเกมในครึ่งหลัง "สิงห์บลูส์" เริ่มต้นด้วยความมุ่งมั่นและก็มาได้ประตูตีไข่แตกอย่างรวดเร็วเพียง 3 นาที คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เปิดบอลจากทางขวามาถึง ไค ฮาแวร์ตซ์ โหม่งเต็มหัวตุงตาข่าย

         เกมอยู่ในการครอบครองของ เชลซี แทบจะข้างเดียวโดยเฉพาะเกมเดินเกมบุกที่มีโอกาสทำประตู 11 ครั้ง โดยเป็นการยิงนอกกรอบ 5 ครั้งและในกรอบ 6 ครั้ง 


         ครึ่งหลังทำให้ ไบรท์ตัน ต้องถอยไปเล่นเกมรับโดยทีมต้องเข้าแท็คเกิ้ลมากขึ้น (18 ต่อ 8) แย่งบอลมากขึ้น (8 ต่อ 5) แต่ เชลซี ยังมีสถิติการดวลลูกกลางอากาศที่เหนือกว่า (10 ต่อ 8)

         อย่างไรก็ตามสุดท้าย ปาสกาล โกรสส์ ตามซ้ำลูกยิงของ ฮูลิโอ เอ็นซิโซ่ ที่ติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้ ปิดท้ายให้เจ้าบ้านเอาชนะไปสบาย 4-1 ยัดเยียดความปราชัยเกมแรกให้กับ แกรม พ็อตเตอร์ ในการคุม เชลซี ด้วย ซึ่งความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ทีมหล่นไปอันดับ 6 มี 21 คะแนนและโดน อาร์เซน่อล ขยับหนีเป็น 10 แต้มด้วย

ผลงานส่วนบุคคล

         ไค ฮาแวร์ตซ์ เป็นนักเตะที่ได้โอกาสทำประตูมากที่สุดของทีมในเกมนี้ 4 ครั้ง (เข้ากรอบ 2 ครั้ง) ส่วนคนที่มีโอกาสมากที่สุดในเกมคือ เลอันโร ทรอสซาร์ ของ ไบรท์ตัน ที่มีโอกาส 6 ครั้งและทำ 1 ประตู

         มาเตโอ โควาซิช คือนักเตะที่สัมผัสบอลมากที่สุดในเกม 78 ครั้ง และจ่ายบอลมากที่สุด 64 ครั้ง ในขณะที่ ติอาโก้ ซิลวา บล็อคลูกยิง 5 ครั้งและสกัดบอลจากเส้น 2 ครั้ง

         ส่วนชัยชนะในเกมนี้ของ ไบรท์ตัน ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 15 เกมที่ทีมเอาชนะ เชลซี ได้สำเร็จในฟุตบอลลีกด้วย



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด