"กิเลนผยอง"ฟอร์มอัดเต็มคาราเบล
โดยเฉพาะฟอร์มการเล่นของทีม “เมืองทอง ยูไนเต็ด” ในช่วง 3 เกมที่ผ่านมาในทุกรายการต้องบอกว่าโครตโหด ชนะรวด ยิงไปถึง 17 ประตู และเสียไปเพียง 1 ประตูเท่านั้น
นอกจาก “มาริโอ ยูรอฟสกี้” เฮดโค้ช และนักเตะทุกคนที่โชว์สปิริตช่วยกันเค้นฟอร์มเทพออกมาแล้ว คนที่ควรได้รับเครดิตไม่แพ้กันก็คือ “มิโลวาน ราเยวัช” อดีตกุนซือทีมชาติไทย ที่นั่งเก้าอี้ ผู้อำนวยการเทคนิคของสโมสร
นับตั้งแต่กุนซือเลือดเซิร์บเข้ามาเป็นมันสมองข้างกาย “โค้ชมาริโอ” ทีมมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางบวกมากขึ้น
ซึ่ง “ราเยวัช” เองขึ้นชื่อว่าเป็นกุนซือจอมเฮี๊ยบอยู่แล้ว แน่นอนว่านักเตะ “เมืองทอง” จะได้รับการฝึกซ้อมที่เข้มข้นกว่าเดิม เพื่อให้มีความฟิตพร้อมบดขยี้คู่แข่ง
ที่สำคัญ “วิธีการเล่น” ของ “กิเลนผยอง” มีการปรับเปลี่ยนตามคู่แข่งที่เจอ ไม่เน้นการครองบอลพร่ำเพื่อ
เมื่ออกไปเยือนพวกเขาเล่นเกมโต้กลับเร็วไปอย่างทรงพลัง เห็นได้จากเกมที่บุกไปเอาชนะ “ลำพูน วอร์ริเออร์” ไป 5-0 ประตูที่ได้ส่วนใหญ่มาจากการเล่นโต้กลับเร็วทั้งสิ้น
นักเตะเล่นไม่กี่จังหวะ บอลถึงหน้าประตู จังหวะวิ่งหาตำแหน่งและจังหวะวิ่งหาพื้น หรือดึงตัวประกบทำได้อย่างไร้ที่ติ
ส่วนผู้เล่นที่ฟอร์มออกทะเลอย่าง “เอกนิษฐ์ ปัญญา” ก็กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม มีส่วนทั้งยิงและจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้ด้วย
เช่นเดียวกันกับ “เอริค โจฮานน่า” ที่แทบจะไม่ได้ลงสนามเลยก่อนหน้านี้ ก็เริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางและยิงประตูได้ 2 เกมติดต่อกันในบอลลีกและบอลถ้วย
ขณะที่เกมรับที่อ่อนปวกเปียกกลับมาเล่นได้ทรงพลัง แข็งแกร่งราวภูผาหินอีกครั้ง
เรียกว่าตอนนี้จะทำอะไรก็ดีไปหมด
ใครบอกว่า “ราเยวัช” เก่งแค่เกมรับ เห็นต้องกลับไปคิดใหม่ เพราะทั้งเกมรุกและเกมรับของทีม “กิเลนผยอง” ตอนนี้อร่อยเหาะเหลือเกิน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ เมืองทอง ต้องทำและต้องวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ นั่นก็คือการหาผู้เล่นฝีเท้าดีเข้ามาเสริมทัพอีก
ไม่ว่าจะเป็นกองหลัง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เป็นปัญหาไม่น้อย เพราะฟอร์มการเล่นของหลายๆ คนไม่ค่อยนิ่ง แถมยังเจ็บง่าย หากได้ตัวเทพๆ มาช่วยคงน่าจะทำให้เกมรับดูดีขึ้น
เช่นเดียวกับตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า หรือปีกมาคอยแบ่งเบาภาระของ “เฮนรี อาริเยร์” บ้างคงดีไม่น้อย
หากได้นักเตะแจ่มๆ ตามตำแหน่งที่กล่าวมาข้างต้น เชื่อว่าฟอร์มของ “เมืองทอง ยูไนเต็ด” จะเต็มคาราเบล และกลับมามีลุ้นแชมป์เกาะกลุ่มหัวตารางหรือลุ้นแชมป์บอลถ้วย ข้างเอฟเอคัพ และ รีโว่ ลีกคัพ ได้อย่างแน่นอน
นี่แหละเขาบอลว่า ฟ้าหลังฝนดีเสมอ ช่วงนี้ต้องบอกว่าเป็นเวลาแห่งความสุขของสาวก “กิเลนผยอง” อย่างแท้จริง
ส่วนจะรักษามาตรฐานได้นานขนาดไหน น่าติดตามจริงๆ