แม้ โมร็อกโก จะพ่ายแพ้ ฝรั่งเศส ในรอบตัดเชือกฟุตบอลโลก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา และจะยังเหลือนัดชิงอันดับ 3 กับ โครเอเชีย ซึ่งยังไม่มีใครรู้ว่าหวยจะออกหน้าไหน แต่แน่นอนว่ามันคือเซอร์ไพรส์ที่ยิ่งใหญ่บทหนึ่งในโลกลูกหนัง

ไม่มีใครเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ไม่เคยมีชาติจากแอฟริกาทีมไหนที่ผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศมาก่อน และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มองว่า โมร็อกโก จะผ่านรอบแบ่งกลุ่มที่มีทีมอย่าง โครเอเชีย และ เบลเยียม

นี่คือกลุ่มผู้เล่นที่เต็มไปด้วยความสามารถ นำโดยโค้ชที่เคยคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกในแอฟริกา แต่ก็มีเพียงแค่ อาชราฟ ฮาคิมี่ และ ฮาคิม ซิเย็ค เท่านั้นที่ได้รับการพิจารณาให้เป็นดาวเด่นของทีมก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น

แม้ว่า โมร็อกโก จะกล้าคว่ำ สเปน ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย หลุยส์ เอ็นรีเก้ ก็ยังนึกชื่อของ อูนาฮี ไม่ออก โดยสิ่งที่เขารู้ในตอนนั้นก็คือผู้เล่นหมายเลข 8 นั้นเล่นได้อย่างน่าประทับใจมาก

คุณมั่นใจได้เลยว่าตอนนี้ทุกคนต่างรู้แล้วว่า อูนาฮี คือใคร เขาเป็นหนึ่งในสตาร์ที่แจ้งเกิดในฟุตบอลโลกครั้งนี้อย่างแท้จริง

ดาวเตะวัย 22 ปี เล่นอยู่กับทีมบ๊วยของลีก เอิง อย่าง อองเช่ร์ ซึ่งเก็บได้เพียง 8 คะแนน จาก 15 นัดในฤดูกาลนี้ แต่เขาไม่น่าจะได้อยู่ที่นั่นอีกต่อไป หลังจากฟอร์มของเขาในกาตาร์

ในขณะที่เขาก็ยอมรับกับตัวเองว่าเขาเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ได้ค่อนข้างช้า เขามีความประหม่า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเมื่อมองว่าเขาเพิ่งจะประเดิมทีมชาติชุดใหญ่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้เอง

อย่างไรก็ตาม เมื่อ โมร็อกโก เผชิญหน้ากับ แคนาดา ในนัดสุดท้ายของกลุ่ม เอฟ อูนาฮี เป็นตัวตัดสิน และมีบทบาทสำคัญบนชัยชนะ 2-1 ซึ่งทำให้ทีมของเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม

เขาก้าวไปอีกระดับแล้ว หลังจากที่เตะตา หลุยส์ เอ็นรีเก้ ในเกมกับ สเปน มิดฟิลด์รายนี้ก็ได้รับคำชมจาก โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ โรม่า สำหรับฟอร์มอันน่าเหลือเชื่อในเกมชนะ โปรตุเกส 1-0 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

มันเป็นคำชมระดับสูง แต่เขาก็สมควรได้รับมันอย่างเต็มที่ โดยที่ อูนาฮี ได้แสดงคุณสมบัติทั้งหมดของเขาในเกมกับทัพ ฝอยทอง

เขาอาจจะร่างกายผอมบาง แต่กลับมีความแข็งแกร่ง ในขณะที่เขาเล่นบอลง่ายๆ ด้วยทักษะการเลี้ยงบอลที่น่าประทับใจ

"เขาเป็นส่วนสำคัญของทีม" นาเยฟ อาเกิร์ด กองหลังทีมชาติโมร็อกโก ของ เวสต์แฮม กล่าว

"เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีเทคนิคดีที่สุดของเรา และเรามีความสุขมากกับฟอร์มของเขา"

ในวันจันทร์ที่ผ่านมา เขาปรากฎตัวบนหน้าแรกของเพจ มุนโด้ เดปอร์ติโบ ซึ่งรายงานว่า บาร์เซโลน่า สนใจที่จะเซ็นสัญญากับ อูนาฮี ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เขาก็น่าจะได้รับข้อเสนอแบบท่วมท้นในเดือนมกราคมอย่างแน่นอน

เช่นเดียวกับ โซฟิยาน อัมราบัต กองกลางเพื่อนร่วมชาติ โมฮัมเหม็ด ซินูห์ เอเยนต์ของเขาได้เปิดเผยว่าเขาได้รับการติดต่อจากหลายสโมสรที่สนใจมากมาย โดยมี ลิเวอร์พูล ที่ถูกกล่าวว่ากำลังพิจารณาคว้าตัวดาวเตะ ฟิออเรนติน่า ด้วย

มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจว่าทำไม เจอร์เก้น คล็อปป์ ถึงเป็นแฟนตัวยงของเขา อัมราบัต เป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในกาตาร์ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม โมร็อกโก จึงเสียไปเพียง 3 ประตูเท่านั้น โดยที่ 2 ลูกล่าสุดมาจากเกมแพ้แชมป์เก่าอย่าง ฝรั่งเศส เมื่อคืนวันพุธ

อันที่จริง ไม่มีผู้เล่นคนใดที่แย่งบอกคืนได้มากกว่า อัมราบัต (41) และไม่ใช่แค่การแย่งบอลเท่านั้น แต่เขายังครองบอลได้ดีอีกด้วย ครั้งแล้วครั้งเล่าในเกมกับ โปรตุเกส ที่เขาสามารถหยุดการโจมตีของคู่แข่งในพื้นที่แดนสามของตัวเอง และเปลี่ยนจังหวะให้ทีมตะลุยไปข้างหน้า ก่อนจะปล่อยให้เพื่อนร่วมทีมเล่นเกมบุกได้อย่างอิสระ

ฟอร์มของเขาในเกมกับ สเปน คือสิ่งที่ชัดเจนมาก เพราะ อัมราบัต ต้องแหกขี้ตาอยู่จนถึงตี 3 ของวันแข่งกับนักกายภาพของทีมเพื่อพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะให้ตัวเองฟิตทันลงสนาม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องฉีดยาระงับปวดเอาไว้ด้วย

อย่างไรก็ตาม เขากลับข่มรัศมีของเหล่ามิดฟิลด์ สเปน ที่มี เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, กาบี และ เปดรี้

https://twitter.com/OptaJose/status/1601973102455422976

"ผมอารมณ์ดีมาก" เขายอมรับหลังจากนั้น

"มีคำถามว่าผมจะเล่นเกมนี้ (สเปน) ได้หรือไม่ แต่ผมไม่สามารถละทิ้งพวกเขา และประเทศของผมได้"

การผสมผสานระหว่างทักษะ และจิตวิญญาณทำให้ โมร็อกโก เป็นตัวอันตรายในฟุตบอลโลกที่กาตาร์

แม้ความหวังจะไปให้ถึงนัดชิงชนะเลิศนั้นจบลงไปแล้ว แต่เชื่อเถอะว่ายังไง โมร็อกโก ก็จะถูกจดจำบนหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกไปอีกนานแสนนาน

สำหรับทั้ง อูนาฮี และ อัมราบัต ชีวิตของพวกเขาหลังจบฟุตบอลโลกครั้งนี้จะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน