โปรแกรมแกะกล่องของขวัญปีนี้ช้ากว่าทีมอื่นๆ 1 วันเพราะต้องรอคิวตามที่ พรีเมียร์ลีก กำหนด แต่ท้ายที่สุดสาวกปิศาจแดงได้ผลการแข่งขันตามที่ต้องการ

จุดเปลี่ยนสำคัญนัดล่าสุดอยู่ที่จังหวะการทำสองประตูติดต่อกันอย่างรวดเร็ว (นาทีที่ 19 และ 22) นอกจากนั้น วีเออาร์ ยังมีส่วนทำให้ ผีแดง ทิ้งห่างสองลูกหลังจากปฏิเสธประตูของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ช่วงท้ายครึ่งแรก

สถานการณ์ที่ออกมาจึงทำให้ ยูไนเต็ด ลงเล่นครึ่งหลังพร้อมความมั่นใจและหาโอกาสทำประตูที่ 3, 4 หรือ 5 อย่างต่อเนื่องแต่จังหวะจบไม่เด็ดขาดกันเองจึงได้เพิ่มเพียงลูกเดียว

จะว่าไปแล้วนั่นคือสิ่งที่ เอริก เทน ฮาก ดูจะผิดหวังเล็กน้อยและต้องการให้ลูกทีมของตนเองมีความเด็ดขาดมากกว่าเดิมหรือจบสกอร์ในจังหวะที่สมควรจะได้ให้ดีกว่านี้ ซึ่งมีหลายครั้งในช่วง 45 นาทีหลังที่พลาดไป

อย่างที่แฟนบอลได้เห็นจากการถ่ายทอดสด ปิศาจแดงสร้างโอกาสจบสกอร์หลายครั้งมากโดยเฉพาะในครึ่งหลัง แต่จนแล้วจนรอดได้เพิ่มในช่วงท้ายเกมแค่เม็ดเดียว 

โอเคมันคือ 3 คะแนนที่ทีมต้องการ แต่หากมองในมุมกุนซือใหญ่นั้นเขาคงอยากเห็นความเหี้ยมเกรียมไร้ปรานีของลูกทีมเมื่อโอกาสมากองอยู่ตรงหน้า สร้างการเล่นหรือนิสัยดังกล่าวให้ติดตัวพร้อมกับคว้าโอกาสเมื่อมันมาถึง

ยิ่งการลงสนามในพรีเมียร์ลีกไม่มีคำว่าง่าย นอกจากนั้นอาจจะเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝันได้ทุกเมื่อเพราะแต่ละทีมไม่มีถอดใจหากตามหลังไม่มากหรือสกอร์ไม่ขาดและมองว่ายังเห็นแสงไฟแห่งความหวังอยู่ตรงนั้นก็พร้อมเดินเกมต่อไปเรื่อยๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ 'อีทีเอช' อยากให้ลูกทีมจัดการฝั่งคู่แข่งตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อมีโอกาส

มันคืองานที่ เทน ฮาก และนักเตะต้องพัฒนากันต่อไป ตอนนี้การสร้างโอกาสมีมากขึ้นต่อเนื่องแต่สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่ความเด็ดขาดว่าแข้ง ปิศาจแดง จะสามารถยกระดับให้สูงกว่าเดิมได้หรือไม่

นอกเหนือจากผลการแข่งขันที่ทำให้แฟนบอลมีความสุขและความเด็ดขาดที่ เทน ฮาก อยากให้ลูกทีมพัฒนา สิ่งที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้นผลงานนักเตะบางรายในเกมล่าสุดที่โดดเด่นอย่างมาก

ไม่พูดถึงไม่ได้คือ กาเซมีโร่ มิดฟิลด์แซมบ้าที่แสดง 'คลาส' ออกมาให้เห็นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการคุมจังหวะ, เชื่อมเกม, ถ่ายบอล, ทำลายตัดจังหวะคู่แข่ง หรือการสร้างโอกาส เรียกได้ว่านัดที่ผ่านมาเป็นหัวใจสำคัญของแดนกลางอย่างชัดเจน

โดยเฉพาะจังหวะได้ประตูที่สองในนาที 22 จุดเริ่มต้นมาจากการไล่ตัดบอลในแดนตนเองของ 'กาเซ' ก่อนที่เพื่อนร่วมทีมจะลำเลียงและจบสกอร์โดย อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หรือจะจังหวะทำแอสซิสต์ให้ เฟร็ด สอยตาข่ายท้ายครึ่งหลังก็มาจากการอ่านเกมตัดบอลก่อนแทงทะลุให้มิดฟิลด์เพื่อนร่วมชาติปิดกล่อง

จึงไม่แปลกที่เสียงแซ่ซ้องจะดังไปทั่วโอลด์ แทรฟฟอร์ด ลามไปถึงโซเชียล มีดีย ที่ออกมายกย่องผลงานดาวเตะวัย 30 กันยกใหญ่ เพราะเกมที่ผ่านมาทำได้โดดเด่นเป็นอย่างมาก

ขอยกสถิติของ กาเซมีโร่ จาก บีบีซี ที่เผยออกมาหลังจบเกมล่าสุดซึ่งอ่านได้ว่า

แอสซิสต์: 1 ครั้ง

สร้างโอกาส: 3 ครั้ง

สัมผัสบอล: 104 ครั้ง

ผ่านบอล: 87 ครั้ง

ความแม่นยำในการผ่านบอล: 85 เปอร์เซ็นต์

ชนะการดวล 7 จาก 11 ครั้ง

ปะทะหรือหยุดยั้งฝ่ายตรงข้าม: 5 ครั้ง

ตัดบอล: 2 ครั้ง

สกัดบอล: 3 ครั้ง

นั่นคือตัวเลขจากผลงานนัดล่าสุดที่มาพร้อมคำชมมากมายจากทั้งแฟนบอลและนักข่าวรวมไปถึงนักวิเคราะห์ของอังกฤษที่ยกย่องกันใหญ่ หรือแม้แต่ เทน ฮาก ที่ไม่ลืมกล่าวถึงลูกทีมคนเก่งรายนี้ เพราะ กาเซมีโร่ แสดงให้เห็นประสบการณ์และความสำคัญที่มีต่อทีมปิศาจแดง 

การทำหน้าที่ปิดทองหลังพระมาโดยตลอด แต่เกมที่ผ่านมาโดดเด่นจนแสงไฟสาดส่องไปหา (อีกครั้ง) ยิ่งตอกย้ำว่า กาเซมีโร่ กลายมาเป็นฟันเฟืองหลักของทีมอย่างเต็มตัว

อีกคนที่ต้องกล่าวชมคือ ลุค ชอว์ เพราะก่อนแข่งแฟนบอลกังวลว่าการลงเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทางซ้ายอาจจะกลายเป็นจุดอ่อนและโดน 'เจ้าป่า' เจาะเล่นงาน

ไม่ใช่เรื่องแปลกหาก ฟอเรสต์ จะจ้องเล่นงานจุดนั้นโดยอาศัยลูกหนักและความเร็วในเกมรุกเล่นงานชอว์ แต่เกมล่าสุดแบ็กซ้ายที่กลายร่างเป็นเซ็นเตอร์กลับทำผลงานได้อย่างดี

เรียกได้ว่าหลายคนคงลืมไปแล้วนี่คือแบ็กซ้ายทีม แต่การเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของแข้งวัย 27 ปี ซึ่งเกมที่ผ่านมา เทน ฮาก เผยเองนักเตะเดินเป็นบอกว่าเล่นตำแหน่งนี้ได้ไม่มีปัญหา และในช่วงที่กองหลังตัวกลางนัดกันป่วยและสภาพร่างกายไม่พร้อมลงสนามเทรนเนอร์ชาวเนเธอร์แลนด์จึงต้องทดลองใช้งาน ชอว์ คู่กับ วาราน

ถือว่าทำได้ดีทีเดียวเพราะ ชอว์ แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์และความนิ่งในการยืนตำแหน่งแถมยังสอดประสานร่วมกับ วาราน ได้ดี จนผู้บรรยายกับนักวิเคราะห์ชาวอังกฤษพูดตอนถ่ายทอดสดว่า 'แบบนี้ (ลีซานโดร) มาร์ตีเนซ คงเจอคู่แข่งเสียแล้ว'

ยังมีอีกหลายคนที่ทำได้ดี อาทิ อารอน วาน-บิสซาก้า ได้โอกาสลงเล่นช่วงที่ ดีโอโก้ ดาโลต์ ไม่พร้อมรบ หรือ ไทเรลล์ มาลาเซีย ทำออกมาดูดีพอใช้ได้ ซึ่งเกมดังกล่าวแต่ละคนดูมุ่งมั่นในการสร้างประโยชน์ให้ทีมและมันคือสัญญาณที่ดีเมื่อนักเตะมีความกระหายและอยากกลายมาเป็นทางเลือกลำดับแรก

นั่นเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ เทน ฮาก ดูพึงพอใจอย่างมาก บรรดานักเตะที่ไม่ค่อยมีโอกาสหรือมีปัญหาสภาพร่างกายจนหายหน้าไป แต่พอได้รับมอบหมายหน้าที่พวกเขาเหล่านั้นพร้อมคว้ามาครองแบบไม่รีรอ

ยิ่งในช่วงที่จะมีเกมลงสนามต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า บวกกับนักเตะหลายคนยังไม่พร้อมทั้งปัจจัยทางร่างกายหรือกรณีของ มาร์ตีเนซ ที่เพิ่งจะกลับไปยังสโมสรเร็วๆ นี้ เทน ฮากจึงอยากมีนักเตะใช้งานมากที่สุดเพื่อเดินหน้าคว้าชัยอย่างที่ต้องการ

ตอนนี้ภารกิจนัดรองสุดท้ายของปี 2022 ผ่านพ้นไปด้วยดี มันคือการสั่งลาโอลด์ แทรฟฟอร์ดในปีนี้พร้อมรอยยิ้มและความสุขของแฟนบอล กระนั้นงานของทีมยังคงดำเนินต่อไปและจะมีศึกส่งท้ายปีด้วยการออกไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน (วันเสาร์นี้เวลา 19.30 น.)

แน่นอนว่าเจอ วูล์ฟส์ เมื่อไหร่ไม่มีคำว่าง่าย แม้ก่อนหน้านั้น หมาป่ามิดแลนด์ส จะทำผลงานย่ำแย่จนหล่นไปท้ายตาราง แต่หลังจาก จูเลน โลเปเตกี เข้ามาคุมทีมทำให้พวกเขาคว้าชัยได้ทั้งสองเกม (ใน คาราบาว คัพ ชนะ จิงลิงแฮม 2-0) โดยเฉพาะนัดล่าสุดที่บุกไปตบ เอฟเวอร์ตัน ถึง กูดิสัน พาร์ค ด้วยการทำประตูชัยนาทีสุดท้ายพร้อมเก็บ 3 คะแนนแรกในรอบ 5 นัดของทีมอีกด้วย

การออกไปเยือน โมลินิวซ์ จึงต้องสู้กับ วูล์ฟส์ ที่กำลังมั่นใจเพิ่มขึ้นรวมไปถึงสู้กับตนเองที่ต้องสานต่อผลงานที่ดีให้จนได้ และอย่างที่กล่าวไปการดวลกับทีมนี้ไม่มีคำว่าง่าย แม้การออกไปเยือนทีนั่นสองครั้งหลังสุด ปิศาจแดง จะเป็นฝ่ายเฮ แต่กว่าจะเอาชนะก็ต้องลุ้นแบบตัวเกร็ง

มันคืองานส่งท้ายปี 2022 ที่แฟนบอลอยากเห็นทีมคว้าชัยชนะอย่างที่ต้องการ เพราะนอกจากจะเป็นการไล่จี้ (หรือมีโอกาสแซง) ท็อป 4 ทุกคนอยากได้ของขวัญอีกชิ้นก่อนเข้าสู่ปีใหม่

วันเสาร์นี้จึงเป็นช่วงที่สาวกปิศาจแดงต้องมานั่งลุ้นและให้กำลังใจทีมรัก โดยหวังว่าเมื่อสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้ายที่ โมลินิวซ์ แฟนบอลยูไนเต็ดจะได้รับข่าวดีและฉลองวันส่งท้ายปีพร้อมกับความสุข