ด้วยวัยเพียง 19 ปี จูด เบลลิงแฮม ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คือนักเตะที่สมบูรณ์แบบในฐานะมิดฟิลด์ไดนามิกที่สามารถแย่งบอลและขับเคลื่อนไปข้างหน้า, ครองบอล, ต้านทานการเพรสซิ่ง, หาช่องว่างในแนวป้องกันของคู่แข่ง รวมถึงการแอสซิสต์และทำประตู 

มันจึงมีคำถามตามมาว่า เบลลิงแฮม กลายเป็นมิดฟิลด์ดีที่สุดในโลกแล้วหรือยัง?

'เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีพรสวรรค์มากสุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา' ฟิล โฟเด้น แนวรุกทีมชาติอังกฤษกล่าวถึงหนุ่มจูด 'ผมมองไม่เห็นจุดอ่อนในเกมของเขา ผมคิดว่าเขามีทุกอย่าง ผมมั่นใจว่าเขาจะเป็นมิดฟิลด์ดีที่สุดในโลก'

โฟเด้น เป็นเพียงหนึ่งในการชี้นำให้แฟนๆเห็นว่า เบลลิงแฮม เจ๋งแค่ไหน แต่แฟนทีมเสือเหลืองรู้มานานแล้วว่าเด็กคนนี้มีความพิเศษมากจริงๆ และเชื่อว่า เบลลิงแฮม กำลังจะเป็นมิดฟิลด์ดีที่สุดในโลก 

มีนักเตะอายุเพียง 19 ปีกี่คนในโลกนี้ที่ลงเล่นให้หนึ่งในสโมสรระดับท็อปของยุโรปแตะหลัก 100 เกม และยังได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงสนามด้วย? มีแข้งวัยรุ่นกี่คนที่ไม่พลาดการลงเล่นแม้แต่นาทีเดียวในเกมลีกในประเทศ, ชนะความท้าทายมากสุดและทำประตูมากที่สุด? และมีกี่คนที่ลงเล่นทีมชาติ 20 เกม ยิงประตูและทำแอสซิสต์ในฟุตบอลโลก?

มันไม่น่าแปลกใจกับสิ่งที่ เอดิน แทร์ซิช เทรนเนอร์ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กล่าวถึงนักเตะหมายเลข 22 ของเขาว่า 'อายุ 19 ปีที่แก่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา'

ขณะที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษกล่าวถึง เบลลิงแฮม ว่า 'ผมไม่คิดว่าเราจะคาดเดาได้ว่าเขาจะเติบโตเร็วแค่ไหน ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาที่ก้าวไปสู่อีกระดับหนึ่ง'

ความสำเร็จของ เบลลิงแฮม นั้นยอดเยี่ยมในทุกช่วงอายุ จากข้อเท็จจริงที่ว่าเขาได้ทำสิ่งต่างๆมากมายมาตั้งแต่อายุยังน้อย แสดงให้เห็นว่าเขามีพรสวรรค์และมีทุกอย่างสำหรับการก้าวขึ้นมาเป็นมิดฟิลด์ดีที่สุดในโลก

'ผมไม่เคยเห็นมิดฟิลด์ดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มแบบนี้มาหลายปีแล้ว' รอย คีน อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติไอร์แลนด์ และ แมนฯยูไนเต็ด กล่าวถึงหนุ่มจูด 'โดยปกติแล้วคุณจะเห็นได้จากผู้เล่นระดับโลกที่อายุ 26 หรือ 27 ปี ทุกอย่างที่เขาทำในเกม สิ่งที่เกิดขึ้นในสมองของเขา การตัดสินใจ, การจบสกอร์, การผ่านบอลสุดท้าย เด็กคนนี้มีครบทุกอย่าง'

เบลลิงแฮม แสดงให้เห็นถึงความพยายามและความมุ่งมั่น และเข้าไปอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของเกมระหว่าง อังกฤษ กับ เซเนกัล เขาแย่งบอลจากคู่แข่งก่อนผ่านให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ทำประตูแรกอย่างสมบูรณ์ จากนั้นมิดฟิลด์วัย 19 ปียังแย่งบอลจากแดนตัวเอง ก่อนพาบอลผ่านคู่แข่งหลายคนและผ่านถึง โฟเด้น แอสซิสต์ให้ เคน ทำประตูที่สองของเกม

มิดฟิลด์วัย 19 ปี ยังเข้าสกัดผู้เล่นเซเนกัลอย่างต่อเนื่อง ก่อนจบเกมด้วยการเพรสสูง 45 ครั้ง ดวลชนะคู่แข่ง 9 ครั้ง บล็อค 5 ครั้ง แท็คเกิ้ลสำเร็จ 4 ครั้ง และเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 4 ครั้ง รวมถึงการแอสซิสต์ให้ เฮนเดอร์สัน ทำประตู

'เขาดูเหมือนว่าเขาสามารถทำได้ทุกอย่าง' แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็กขวาทีมชาติอังกฤษกล่าว 'เขาเป็นมิดฟิลด์โฮลดิ้งหรือไม่? เขาเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกหรือเปล่า? เขาเป็นทุกอย่างในร่างเดียว มันคือความสุขุม ความเป็นผู้ใหญ่ และความไม่เกรงกลัว ที่ผมไม่สามารถคาดเดาได้ ผมได้ดูนักเตะทีมชาติอังกฤษเล่นมาหลายปี น้ำหนักของเสื้อนั้นมหาศาล เขาไม่รู้สึกถึงมันเลย เขาดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ที่นั่น' 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีส่วนช่วย เบลลิงแฮม พัฒนาความสามารถในการต้านทานแรงกดดันทุกรูปแบบอย่างชัดเจน หลังย้ายมาจาก เบอร์มิงแฮม ในช่วงซัมเมอร์ปี 2020 ขณะวัยเพียง 17 ปี 

หนุ่มจูดลงเล่นตัวจริง 19 จาก 31 เกมบนเวทีบุนเดสลีกาซีซั่น 2020-2021 ลงเล่น 8 จาก 10 เกมบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก และทั้ง 6 นัดในรายการ เดเอฟเบ โพคาล ก่อน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะถล่ม แอร์เบ ไลป์ซิก 4-1 ในนัดชิงชนะเลิศ

เบลลิงแฮม ทำประตูในเกมรอบแรก เดเอฟเบ โพคาล ที่ทีมเสือเหลืองถล่ม ดุ๊ยส์บวร์ก 5-0 กลายเป็นผู้เล่นเด็กสุดที่ทำประตูในรายการดังกล่าวด้วยวัย 17 ปีกับ 77 วัน เขายังเป็นนักเตะอายุน้อยสุดของสโมสรที่ทำประตูบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก และเป็นแข้งอายุน้อยสุดที่ลงเล่นบุนเดสลีกาครบ 75 นัดและเป็นนักเตะทีมเสือเหลืองอายุน้อยสุดที่ลงเล่นทุกรายการครบ 100 เกม

'เขาตัดสินใจไปเยอรมนี เขาสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในแง่ของการใช้ชีวิต และครอบครัวของเขา' ไมค์ ด็อดด์ส อดีตโค้ชของเขาตอนที่ยังอยู่ในอะคาเดมี่ของ เบอร์มิงแฮม กล่าว 'แต่เขาต้องการตัดสินใจเรื่องฟุตบอล สิ่งดีที่สุดสำหรับอาชีพของเขาที่เขาคิดว่าเป็นก้าวต่อไปสำหรับเขา และเห็นได้ชัดว่าเขาตัดสินใจถูกต้อง เพราะดูเหมือนว่าเขายังคงยอดเย่ยมในแง่ของพัฒนาการของเขา'

ศึกบุนเดสลีกากลายเป็นสนามเด็กเล่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับแข้งอายุน้อยพรสวรรค์สูง โดยเฉพาะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่เคยสร้างผู้เล่นดีที่สุดในธุรกิจจนเพิ่มศักยภาพสูงสุด

อาทิ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, อิลคาย กุนโดกาน, ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง, อุสมาน เดมเบเล่, คริสเตียน พูลิซิช, เจดอน ซานโช่ และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ซึ่งต่างกลายเป็นนักเตะพรสวรรค์ระดับโลกที่ ซิกนาล อีดูน่า ปาร์ค

ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สามารถดึงดูด เบลลิงแฮม ตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งกับทีมเสือเหลืองในช่วงซัมเมอร์ปี 2020 

ตอนที่เขาย้ายออกจาก เบอร์มิงแฮม มีเรื่องราวแปลกๆหลังจากนั้น เมื่อ ซวนตง เหริน ซีอีโอของ 'เดอะ บลูส์' ในขณะนั้นยืนกรานว่าจะเลิกใช้เสื้อหมายเลข 22 ของ เบลลิงแฮม แม้ว่าในตอนนั้นเขาจะลงเล่นกับทีมชุดใหญ่เพียงฤดูกาลเดียวก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เบลลิงแฮม รู้สึกไม่สบายใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ ก่อนยอมรับในเวลาต่อมาว่า 'เขาไม่สมควรได้รับมัน' ในขณะที่สโมสรมิดแลนด์สดูเหมือนจะคาดการณ์ถึงผลกระทบที่เขามีต่อสโมสรและประเทศ

'เขาอาจจะเป็นเด็กอายุ 16 ปีดีสุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา' ฮาร์ลี่ ดีน อดีตกัปตันทีม เบอร์มิงแฮม กล่าว 'เขาจะเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ สโมสรใดๆในโลกที่สามารถคว้าตัวเขามาร่วมทีม'

หมายเลข 22 ยังมีความสำคัญต่อ เบลลิงแฮม ซึ่งเขาใช้เสื้อเบอร์ดังกล่าวกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ ทีมชาติอังกฤษ และไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันย้อนกลับไปที่การทบทวนผลงานของเขามีร่วมกับ ด็อดด์ส ในช่วงที่เขายังอยู่ที่อะคาเดมี่ของ เบอร์มิงแฮม

'เขาบอกว่าเขาต้องการเป็นหมายเลข 10' ด็อดด์ส อธิบาย 'ผมพูดว่า 'ผมคิดว่าคุณควรจะเป็นหมายเลข 22' เขาถามว่าผมหมายถึงอะไร ผมตอบว่า 'คุณสามารถเป็น 4, เบอร์ 8 และ เบอร์ 10 คนที่สามารถทำได้ทั้งหมด เราบอกว่าเขาสามารถเล่นในสิ่งที่ไม่สวยงามของเกมได้ ทำลายการเล่น วิ่งไปทั่ว เข้าปะทะ'

'ดังนั้นเขาสามารถเล่นในพื้นที่ลึกฐานะหมายเลข 4, หมายเลข 8 จะเป็นผู้เล่นแบบ 'บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์' ขึ้นและลงด้วยพลังงานและขับเคลื่อนทีม และหมายเลข 10 ของคุณจะเป็นการทำประตูและสร้างสรรค์' ผมบอกเขาว่าเขากำลังทำร้ายตัวเองด้วยการอยากเป็นหมายเลข 10 เพราะผมคิดว่าเขาสามารถทำได้ทั้งหมด'

เบลลิงแฮม พิสูจน์ให้เห็นว่าเขามีของครบทุกอย่างโดยเฉพาะมิดฟิลด์แบบ 'บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์' โดยถูกทำฟาวล์มากสุดของลีก (45 ครั้ง) ผ่านบอลประสบความสำเร็จ 84 เปอร์เซ็นต์ และอยู่อันดับ 4 สำหรับการวิ่งอย่างเข้มข้นต่อเกม (80 ครั้ง) 

มิดฟิลด์วัย 19 ปียังมีโอกาสยิงประตูมากสุดของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (30 ครั้ง) และผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมสับไกทำประตู 17 ครั้ง โดย เบลลิงแฮม ยิง 3 ประตูกับทำ 2 แอสซิสต์ 

เบลลิงแฮม ยังมีพละกำลังและความแข็งแกร่งเพื่อเติมเต็มบทบาทที่ท้าทายความสามารถ เขายังเป็นนักเตะคนเดียวของ เบเฟาเบ ที่ลงเล่นทุกนาทีบนเวทีบุนเดสลีกา และรั้งอันดับ 6 สำหรับการทำระยะทางวิ่งต่อเกม (10.9 กิโลเมตร) แต่ไม่ใช่แค่คุณสมบัติทางกายภาพที่โดดเด่นเท่านั้น แต่เขายังมีจิตใจที่แข็งแกร่งอีกด้วย

'สภาพจิตใจ เขาแข็งแกร่งมาก' อ็อตโต้ อัดโด้ อดีตแข้ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งทำงานฐานะผู้ช่วยของ แทร์ซิช กล่าวถึงมิดฟิลด์วัย 19 ปี 'เขาเตรียมพร้อมสำหรับการวิจารณ์แง่ลบ มีวุฒิภาวะอย่างแท้จริงในการจัดการกับสถานการณ์ เขามีความมั่นใจอย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งช่วยให้เขาแสดงผลงานในระดับสูงสุดและไม่หยี่ระต่อความผิดพลาด'

เบลลิงแฮม ยังแสดงให้เห็นคุณสมบัติของความเป็นผู้นำที่ชัดเจนอีกด้วย เมื่อ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เผชิญหน้ากับ โคโลญจน์ ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่ง มาร์โค รอยส์ กัปตันทีมตัวจริงบาดเจ็บ ขณะที่รองกัปตัน มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ มีอาการป่วย หมายความว่า เบลลิงแฮม ซึ่ง แทร์ซิช เลือกเป็นกัปตันทีมคนที่สามในช่วงปรีซีซั่นจึงได้สวมปลอกแขนผู้นำเป็นครั้งแรกกลายเป็นกัปตันทีมอายุน้อยสุดของบุนเดสลีกานับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลในปี 1995

'มันเป็นฝันที่เป็นจริง' เบลลิงแฮม กล่าว 'ตอนที่ผมเซ็นสัญญากับสโมสรนี้ครั้งแรก มันเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าจะเป็นไปได้ จนกระทั่งผมได้พบกับผู้เล่นและตระหนักว่าพวกเขาสามารถให้ความเชื่อกับผมว่าวันหนึ่งจะเป็นกัปตันทีม'

ขณะที่ ด็อดด์ส ยืนยันว่าสิ่งที่ทำให้ เบลลิงแฮม แตกต่างใน เบอร์มิงแฮม คือความปรารถนาที่แท้จริงที่จะเป็นนักเตะดีที่สุดในทุกสิ่งที่เขากันไปหา และแรงจูงใจที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้านั้นยังคงอยู่กับเขาใน เยอรมนี อย่างชัดเจน' 

'เขาต้องการความรับผิดชอบนี้ ดังนั้นเราจึงยินดีที่จะให้เขา' แทร์ซิช กล่าว 'เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีความคงเส้นคงวามากสุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเก่งแค่ไหน เรากำลังพยายามหาว่าขีดจำกัดของเขาจะอยู่ที่ใด'