กองหน้าร่างเล็กที่อาศัยความเร็วกลบจุดอ่อนตนเองสอยตาข่าย 9 ประตูในลีกสูงสุดฝรั่งเศส และผลงานที่ทำให้ทุกคนหันมาจับตาคงหนีไม่พ้นเกมชนะ เปแอสเช ตอนต้นปีกับจังหวะหนี เซร์คิโอ รามอส และล็อกหลบ มาร์กินโญส อย่างใจเย็นแล้วสอยตาข่ายผ่าน จานลุยจิ ดอนนารุมม่า

เด็กหนุ่มวัย 22 ปีจากเบลเยียมข้ามดินแดนมายังฝรั่งเศส โดยมีความฝันในการพัฒนาฝีเท้ารวมถึงการสร้างผลงานที่ดีร่วมกับล็องส์ ซึ่งสิ่งที่ดำเนินไปจนถึงตอนนี้ถือว่าเป็นไปตามที่สโมสรและนักเตะต้องการ

กระนั้นความคาดหวังและเป้าหมายของ โอเปนด้า ยังคงทอดไกลกว่านั้น ซึ่งเขาหวังว่าจะก้าวไปไปถึงเมื่อซีซั่นนี้จบลง

หลังจากผ่านไปไม่กี่เดือนและรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณคิดอย่างไรกับการย้ายมาเล่นที่ ล็องส์?

"มันสนุกมากเลย นับเป็นความพึงใจอย่างมากที่ลงเล่นให้สโมสรแห่งนี้ ผมคิดว่าพวกเราทำเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างงดงาม พวกเราหมายมั่นให้สิ่งต่างๆ ดำเนินแบบนี้ต่อไปจนถึงช่วงจบฤดูกาล ทุ่มเทหมดหน้าตักและแสดงให้เห็นว่า อาร์เซ ล็องส์ คือใคร"

ในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา ตอนที่ ล็องส์ แสดงความสนใจตัวคุณ คุณมองสโมสรแห่งนี้เป็นทางเลือกในทันทีเลยหรือไม่ หรือว่าคุณใช้เวลาไตร่ตรอง คุณรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น?

"ผมได้ติดต่อกับล็องส์ ตัวแทนของผมบอกเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขา ผมรู้จักสโมสรแต่ไม่ได้รู้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ หลังจากได้คุยกับผู้อำนวยการและโค้ชผ่านทางโทรศัพท์ มันกลายมาเป็นทางเลือกแรกของผม ผมรู้สึกว่าตนเองจะประสบความสำเร็จและทำผลงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่ล็องส์ รู้สึกเหมือนว่าจะได้อยู่ที่บ้านตนเอง รวมไปถึงพวกเขาจะดูแลเอาใจใส่และทำให้มั่นใจว่าผมจะมีการพัฒนาต่อไปได้ ผมได้คุยกับ เธียร์รี่ อองรี ในเรื่องนี้ เขาบอกผมว่าล็องส์เป็นทีมที่สวนกลับแย่มากๆ สำหรับผม นักเตะที่ชอบเข้าไปยังพื้นที่ มันเป็นทีมที่น่าจะเข้ากับผมได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผมยังได้คุยกับ เอแด็น และ ธอร์กาน (อาซาร์) เกี่ยวกับเรื่องนี้ ธอร์กาน บอกผมว่านี่เป็นทีมที่เขาชอบ และเขาจะมีความสุขหากผมไปที่นั่น แม้แต่ เอแด็น ยังบอกผมว่านี่เป็นทีมที่ดีมากๆ แต่เขาไม่อยากพูดเยอะไปเพราะเขาเคยเล่นให้ลีลล์ (ทั้งสองทีมเป็นอริทางตอนเหนือ) ท้ายที่สุด มันเป็นการเลือกด้วยอารมณ์ความรู้สึกในการมายังที่แห่งนี้"

คุณเคยลงเล่นในลีกเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์มาก่อน คุณรู้สึกหรือไม่ว่าลีกฝรั่งเศสต้องการแรงปะทะที่มากกว่า?

"ผมเคยเล่นในลีกเบลเยียม ลีกที่ผมเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมายแม้ว่าผมไม่ได้ลงสนามมากเท่าไหร่ มันเป็นลีกที่ไม่มีคำว่าง่ายเลย ปรัชญาการทำงานในสโมสรคลับ บรูชเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบ พวกเรามีกลุ่มนักเตะที่ดีและโค้ชด้านสภาพร่างกายยังทำให้นักเตะอยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับแต่ละเกม สิ่งนั้นทำให้ คลับ บรูช ทำผลงานออกมาในทุกๆ ปี การเปลี่ยนผ่านไปยังเนเธอร์แลนด์เป็นสิ่งที่แตกต่างออกไปอย่างมาก พวกเรารู้ว่าลีกดัตช์เป็นลีกสำหรับบรรดากองหน้า คนอื่นๆ พูดกันว่ากองหลังในลีกนั้นไม่ดีเท่าในลีกเบลเยียม แต่ประเด็นหลักคือการปรับตัวของเหล่ากองหน้า ผมคิดว่าตนเองจัดการเรื่องการเปลี่ยนแปลงระหว่างสองลีกได้ดีมาก ผมสามารถทำประตูให้ อาร์เนม ได้มากมาย จากนั้น ในตอนที่ผมมาถึงฝรั่งเศส ทุกๆ อย่างแตกต่างออกไปอีกครั้ง ที่นี่มีเรื่องสภาพร่างกายที่มากขึ้น พวกเราถูกร้องขอให้เล่นอย่างฉลาดขึ้น มีสมาธิมากขึ้น เพราะนี่คือ ลีก เอิง หนึ่งใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป ตอนเริ่มต้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย แต่สโมสรจัดการช่วงพรีซีซั่นได้ดีดังนั้นผมจึงพร้อมสำหรับลงเล่นนัดแรก ผมคิดว่ามันแสดงให้เห็นถึงการจัดการทุกๆ อย่างได้ดีตั้งแต่การเริ่มต้นของผมกับที่นี่"

คุณจัดการรักษาจังหวะของตนเองอย่างไร กับฤดูกาลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแบบนี้ ด้วยการมีฟุตบอลโลกช่วงปลายปีและการพักช่วงกลางฤดูกาล?

"ผมเคยมีประสบการณ์แบบนั้นมาก่อน ในตอนเล่นทีมเยาวชน บ่อยครั้งที่พวกเรามีช่วงหยุดพักแบบนั้นกับการเล่นให้ทีมชาติ ซึ่งผมลงเล่นมาตั้งแต่ตนเองอายุ 15 ปี มีการพักช่วงอย่างแท้จริงให้กับฟุตบอลโลกในปีนี้ แต่การกลับมาที่สโมสรไม่ได้เป็นเรื่องยากสำหรับผม ผมมีความปรารถนาในการกลับมาตอนที่การแข่งขันจบลง กลับมาร่วมทีมล็องส์ให้เร็วเพื่อทำงานโดยทันที และทำให้ตนเองอยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการเริ่มต้นปีใหม่"

มีประตูหนึ่งที่คุณทำได้ซึ่งสร้างความประทับใจให้คนอื่นๆ อย่างมาก ประตูในเกมดวล เปแอสเช คุณบอกพวกเราได้หรือไม่ว่ารู้สึกอย่างไรกับช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้?

"มันเป็นการฟื้นตัวที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีม พวกเรารู้ว่า เซโก (โฟฟาน่า) เป็นคนที่อันตรายมากตอนที่เขาได้บอล เขารู้คุณภาพของผมเป็นอย่างดี และเขาส่งบอลที่สมบูรณ์แบบมาทางผม ผมสามารถใช้ตัวของผมบังไม่ให้ เซร์คิโอ รามอส มาขวางหน้า หลังจากนั้น สิ่งที่อยู่ในใจผมตอนที่พุ่งหาประตูคือผมไม่ควรยิงด้วยเท้าซ้าย ผมต้องยิงด้วยขวาหากอยากให้ตนเองทำสกอร์ได้ ผมรู้ว่าหากตนเองยิงด้วยขวาตนเองน่าจะทำสิ่งที่ดีออกมาได้ มันเป็นสัญชาตญาณ ผมรู้สึกว่า มาร์กินโญส กำลังปรี่เข้ามาและผมเคลื่อนที่และทำในแบบที่ผมเคยทำมาแล้วในเกมดวลลอริยองต์ตอนที่ผมยิงด้วยซ้าย แต่เกมนี้ผมยิงด้วยขวา การเคลื่อนที่ดำเนินไปรวดเร็วมากและจบลงด้วยการทำประตู ทุกๆ คนต่างมีความสุข"

มีหลายครั้งในฤดูกาลที่คุณเป็นตัวสำรอง รู้สึกอย่างไรบ้างตอนที่เกมเริ่มต้นโดยไม่มีคุณอยู่ในสนาม?

"ผมจดจ่อกับการทำงานอยู่เสมอ เพราะผมสามารถถูกส่งลงไปตอนไหนก็ได้ ไม่ว่าเป็นในนาทีที่ 15 หรือนาทีที่ 60 การเริ่มต้นในม้านั่งสำรองไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก อย่างที่ผมได้พูดไป การมีสมาธิและความมุ่งมั่นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าผมลงสนามโดยปราศจากการจดจ่อกับเกม ผมจะทำผลงานออกมาไม่ดี แต่ถ้าผมลงไปพร้อมความเฉียบคม ผมสามารถเปลี่ยนเกมได้อย่างแน่นอน ผมทำแฮตทริกในเกมดวลตูลูส แฮตทริกแรกของผม ผมได้ยินมาว่ามีนักเตะไม่มากนักที่ทำได้ในฐานะตัวสำรอง ดังนั้นมันจึงแสดงให้เห็นว่าผมมีสมาธิกับการลงสนามไม่ว่าจะเป็นตอนไหนและพยายามลงไปเปลี่ยนเกมเมื่อพวกเราต้องการ"