ไม่ได้ดูถูก เวสต์แฮม แต่ความคาดหวังในนาทีที่ของพลพรรคสีน้ำเงินสูงปรี๊ดหลังทุ่มเงินไปมากกว่า 600 ล้านปอนด์ทั้งในช่วงซัมเมอร์และตลาดเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เกมที่ดูทำท่าจะมาดีกับประตูขึ้นนำก่อน แต่ไม่เท่าไรก็มาโดนตีเสมอ แถมช้ำกว่านั้นเมื่อประตูที่เสียมาจากเด็กเก่าอย่าง เอแมร์ซอน พัลมิเอรี่ อีกด้วย
ถึงกระนั้น แกรม พ็อตเตอร์ นายใหญ่ของทีมมองโลกในแง่ดีว่าพอใจกับผลงานในภาพรวมของนักเตะแม้ว่าจะได้แค่แต้มเดียวเท่านั้น และกลางสัปดาห์นี้จะต้องเจอศึกใหญ่กับ ดอร์ทมุนด์ ที่เยอรมัน ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ติดตามกันว่าผลงานและผลการแข่งขันจะออกมาเป็นยังไง
คนที่ได้รับชื่นชม (อีกครั้ง) ในเกมนี้คงหนีไม่พ้น ชูเอา เฟลิกซ์ ที่ได้กลับมาลงสนามอีกครั้งหลังจากที่ชดใช้โทษแบน 3 เกมในนัดประเดิมสนามกับ ฟูแล่ม กับสถิติเกมนี้ที่เหนือกว่าเพื่อนร่วมทีมด้วยการครองบอล 4.5 เปอร์เซ็นต์ และจับบอล 66 ครั้ง
นี่ยังไม่รวมการจ่ายบอลสำคัญอีก 2 หน สูงสุดในทีมเช่นกันร่วมกับ รีซ เจมส์ หรือจะแย่งบอลได้อีก 3 หน กับการสับไก 3 ครั้งในเกม ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าตัวจะคว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ ประจำเกมนี้ไปครอง
อีกคนที่ดูท่าจะพอมีอนาคตที่สดใสไม่น้อยก็คือแข่งใหม่อย่าง โนนี่ มาดูเอเก้ ที่เล่นเกมรุกทางขวา ที่ดูวูบวบและมีจังหวะเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้หลายครั้ง นอกจากนี้การประสานงานกับ รีซ เจมส์ ก็ทำได้เป็นอย่างดีทีเดียว ถือเป็นคู่หูที่น่าจับตามองกับการประสานงานในอนาคตว่าจะเป็นยังไง
กับการผ่านบอลสำเร็จถึง 92 เปอร์เซ็นต์ และเกือบทำประตูได้ก็ถือเป็นเรื่องราวดีๆในเกมนี้
ในขณะที่การับคู่มิดฟิลด์ระหว่าง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ และ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ต้องบอกว่าเปี่ยมไปด้วยพลัง โดยเฉพาะแข้งทีมชาติอาร์เจนติน่าที่ถูกวางให้เป็นตัวกำหนดการเล่นของเกมแทนที่ จอร์จินโญ่ ที่ย้ายออกไปอยู่กับ อาร์เซน่อล
เอ็นโซ่ ผ่านบอลสำเร็จสูงถึงในเกมที่ 86 เกม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการแอสซิสต์ให้ ชูเอา เฟลิกซ์ ทำประตูขึ้นนำก่อน ในขณะที่ ลอฟตัส-ชีค คือคนที่ผ่านบอลสำเร็จมากที่สุดในเกมนี้ที่ 93 เปอรป์เซ็นต์
ดูแล้วหลายอย่างออกมาในทิศทางที่ดี จึงไม่แปลกที่ แกรม พ็อตเตอร์ จะพอใจกับผลงานในเกมนี้
ทว่ามีเรื่องดีก็มีเรื่องที่ให้ตำหนิเช่นกันโดยเฉพาะการเล่นเกมรับที่เปิดช่องโหว่ทางริมเส้นอย่างเห็นได้ชัดซึ่งแบ็กทั้งสองฝั่งอย่าง รีซ เจมส์ และ มาร์ก กูกูรเรย่า ต้องรับศึกหนักบ่อยครั้ง
ซึ่งที่เกิดขึ้นคือตัวรุกริมเส้นทั้งสองฝั่งทั้ง มิไคโล มูดริค และ โนนี่ มาดูเอเก้ ไม่ค่อยจะลงมาช่วยเกมรับกันเท่าไรนัก ไม่รู้ว่าเป็นคำสั่งของโค้ชหรือยังไง แต่มันก็สมควรโดนตำหนิ
ไม่รู้ว่านั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งคู่โดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามพร้อมกันรึเปล่า ซึ่งสุดท้ายมันก็ไม่ได้เปลี่ยนเกมหรือผลการแข่งขันได้
นั่นเป็นการบ้านที่ แกรม พ็อตเตอร์ จะต้องคิดให้หนักว่าจะแก้ไขยังไงดี เพราะอย่างที่บอกว่าไปเกมต่อไปคือการไปเยือน "เสือเหลือง" และหากมองฟอร์มการเล่นของทีมตอนนี้เจอใครก็ยากทั้งนั้น
หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปแม้ข่าวจะบอกว่ายังได้รับความไว้วางใจจาก ท็อดด์ โบห์ลี่ แต่ถ้าแฟนบอลไม่เอาด้วยก็อยู่ยากเหมือนกัน
