:::     :::

ชั่วคราวหรือตลอดไป?

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 คอลัมน์ ฟุตบอลข้างถนน โดย โกสุ่ย
586
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นีซ เปลี่ยนจากทีมผลงานกระท่อนกระแท่นให้กลายสภาพมาเป็นสโมสรที่ไม่มีใครอยากเจอในตอนนี้

บอร์ดบริหารตัดสินใจสั่งปลด ลูเซียง ฟาฟร์ พ้นตำแหน่งหลังจากตกรอบ เฟร้นช์ คัพ ด้วยน้ำมือ เลอ ปี เดอ ฟุต (สโมสรในเวที นาซิยงนาล 1) และนั่นคือฟางเส้นสุดท้ายระหว่างสโมสรและกุนซือชาวสวิตเซอร์แลนด์

ชัดเจนว่าเป็นการตัดสินที่ถูกต้อง เพราะหลังจากนั้น นีซ ทำผลงานได้ดีขึ้นทันตา และต้องยกความดีความชอบให้ ดีดีเย่ร์ ดีการ์ ซึ่งถูกดันมารับหน้าที่รักษาการกุนซือใหญ่

ณ ตอนนั้นสื่อในริเวียร่าและจากเมืองหลวงกรุงปารีสตั้งคำถามว่าใครจะมารับเผือกร้อนที่ อัลลิอันซ์ ริเวียร่า เพราะไม่เพียงแรงกดดันที่จะกดทับแต่รวมถึงความคาดหวังจากบอร์ดบริหารและแฟนบอล

กระนั้นกุนซือวัย 36 ปีทำผลงานได้เกินความคาดหมาย แค่นัดแรกในเกมประเดิมคุมทีมก็พา นีซซ เปิดบ้านไล่ถล่ม มงต์เปลลิเย่ร์ แบบขาดลอย 6-1

หลายคนมองว่าเป็นเพียงผลงานที่ได้รับผลมาจากการเปลี่ยนแปลงและน่าจะลดลงหรือหายไปในเกมต่อมาซึ่งก็อาจจะเป็นไปเช่นนั้นเพราะทำได้เพียง นีซ บุกเสมอ แร็งส์ แบบไร้สกอร์ 

อย่างไรก็ตาม 4 เกมหลังจากนั้น ดีการ์ จัดการปรับเปลี่ยนให้ นีซ กลายมาเป็นทีมที่ฟอร์มแรงที่สุดในลีกด้วยการคว้าชัยชนะเหนือทีมแกร่งทั้ง ลีลล์, ล็องส์ และ โอลิมปิก มาร์กเซย ปิดท้ายนัดล่าสุดเปิดบ้านถล่ม อฌักซิโอ 3-0





เท่ากับว่า ตั้งแต่ ดีการ์ เข้ามารับหน้าที่รักษาการเทรนเนอร์ทีมชุดใหญ่ นีซเอาชนะในลีกได้ 5 จาก 6 เกม สอยตาข่ายถึง 14 ประตูและเสียไปเพียง 2 ลูกเท่านั้น

เป็นสถิติและผลงานที่ดีมากๆ และกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ทีมมีลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรป ทั้งที่ก่อนหน้านั้นฟอร์มไม่เอาไหนมีปัญหาทั้งการเข้าทำและการป้องกัน

ต่างจากตอนนี้ที่ความมั่นใจในรั้ว อัลลิอันซ์ ริเวียร่า เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้นักเตะจะเป็นชุดเดิมเสียส่วนใหญ่แต่ดูมีความมั่นใจกว่าเมื่อก่อน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงช่วงต้นปีใหม่ได้ผลักดันให้ นีซ กลายสภาพเป็นอย่างปัจจุบัน

กุญแจสำคัญคือการเข้ามาของ ดีการ์ ที่เป็นตัวจุดประกายให้ทีมพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ทันที ซึ่งคำถามต่อมาคงหนีไม่พ้นว่า 'บอร์ดบริหารจะวางใจกุนซือวัย 36 ปีให้รับหน้าที่อย่างเต็มตัวหรือไม่'

ถือเป็นคำถามที่เริ่มดังออกมาจากสื่อและแฟนบอลนีซ เพราะหากพิจารณาจากผลงานที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเสียงแบบนั้นออกมา

ฝั่ง ดีการ์ ใช่ว่าจะไม่รู้ถึงกระแสที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้มีสิ่งสำคัญกว่าคือการเดินหน้าทำผลงานอย่างต่อเนื่อง และนั่นเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของเทรนเนอร์หนุ่มวัย 36 






"ผมหวังว่านักเตะจะซึมซับกับคำยกย่องที่ออกมาในตอนนี้ มันเป็นเรื่องที่ดีเสมอและเป็นสิ่งที่นักเตะสมควรได้รับ หากมันเกิดขึ้นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาสมควรได้รับมัน

"แต่พวกเรากำลังมีสมาธิกับงานที่อยู่ตรงหน้า พวกเราจะไม่หลงใหลหรือเคลิบเคลิ้มไปกับมัน แม้ว่ายังคงอยู่ในช่วงเวลานั้น ซึ่งผมรู้สึกยินดีมาก"

การคิดถึงอนาคตของตนเองสำคัญก็จริง แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญกว่าสำหรับ ดีการ์ คือผลงานของสโมสรที่ต้องเดินหน้าสานต่อฟอร์มอันยอดเยี่ยม ซึ่งเกมนัดถัดไปจะเปิดบ้านรับมือ แร็งส์ ต่อด้วยศึกดาร์บี้ 'เฟร้นช์ริเวียร่า' กับ โมนาโก

มันคืองานที่ ดีการ์ ต้องพาทีมผ่านพ้นไปให้ได้และพิสูจน์ให้เห็นว่าฟอร์มที่ผ่านมาเป็นของจริง หาใช่สิ่งที่เกิดจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงที่รอวันดับหายไป

หลังจากนั้น ดีดีเย่ร์ ดีการ์ จะถูกบอร์ดบริหารพิจารณาแบบไหนหรือถูกมองให้เป็นกุนซือระยะยาวหรือไม่ ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการตัดสินใจอีกครั้ง

สำหรับ ดีการ์ มีเพียงงานที่อยู่ตรงหน้าและการพาทีมเอาชนะอย่างต่อเนื่องเหมือนที่ทำมาก่อนหน้านี้



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด