:::     :::

เบ้าหลอมชีวิตกับ "วิคเตอร์ โอซิมเฮน"

วันพฤหัสบดีที่ 09 มีนาคม 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,582
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ถือเป็นกองหน้าที่ฟอร์มแรงมากสุดคนหนึ่งในยุโรป

สำหรับ “วิคเตอร์ โอซิมเฮน” ดาวยิงของทีมนาโปลี ที่กำลังนำเป็นดาวซัลโวของศึกกัลโช่ เซเรีย อา ที่จำนวน 19 ประตู พร้อมกับพาต้นสังกัดนำเป็นจ่าฝูงของลีก ด้วยการทิ้งห่างอันดับสองถึง 15 คะแนน


ช่วงนี้ เราลองย้อนเวลาไปดูเส้นทางลูกหนังของเขากันหน่อย ลองดูกันว่า เขาต้องผ่านแบบทดสอบที่แสนสาหัสแบบใดมาบ้าง กว่าจะก้าวมาเป็นดาวยิงระดับโลก ที่ตกเป็นที่หมายปองของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป

วิคเตอร์ โอซิมเฮน เกิด และเติบโตที่ “ลากอส” เมืองใหญ่ของประเทศไนจีเรีย ครอบครัวของเขาเป็นกลุ่มคนขนาดใหญ่ ซึ่งเพียงไม่นาน เขาก็ต้องพบกับแบบทดสอบครั้งสำคัญ เมื่อคุณแม่เสียชีวิตอย่างกระทันหัน


โอซิมเฮน เล่าย้อนความทรงจำว่า “คุณแม่ของผมเสียชีวิต ในช่วงเดือนตุลาคม ตอนนั้น ผมยังอายุน้อยมาก กระทั่ง 3 เดือนต่อมา คุณพ่อของผมก็ตกงาน ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของครอบครัวเลย”


“พี่ชายของผมทำอาชีพเป็นคนขายหนังสือพิมพ์กีฬา ส่วนพี่สาวของผมขายส้มอยู่ตามท้องถนน ขณะที่หน้าที่ของผม คือการบรรจุน้ำใส่ขวด พร้อมกับเอาไปขายในลากอส ท่ามกลางสภาพการจราจรที่แสนวุ่นวาย”


“เราต้องการอยู่รอด ดังนั้น เราต้องรวมกลุ่มกันเอาไว้ ตอนเย็น พวกเรามารวมตัวกัน พร้อมกับเอาเงินหามาได้มากองรวมกันบนโต๊ะ เรามอบเงินทั้งหมดให้กับพี่สาวคนโต เธอจะเอาไปแลกเป็นอาหาร และจัดการกับทุกอย่าง”


“ส่วนหนึ่งของชีวิตผมคือการต่อสู้ ทั้งหมดเพื่อเป็นการเอาตัวรอด นั่นคือสิ่งที่สร้างผมให้ก้าวมายืนอยู่ตรงจุดนี้ แต่ละเหตุการณ์ในวัยเด็ก ช่วยหล่อหลอมบุคลิกของผม”

ตั้งแต่วัยเด็ก โอซิมเฮน ต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก และความทุกข์ยากมาตลอดโดยเขาจำเป็นต้องหาเงินให้มากที่สุด เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต และเป็นค่าการศึกษา


“สถานที่ที่ผมเติบโตมา อยู่อีกฟากของแหล่งทิ้งขยะขนาดใหญ่ ผมกับเพื่อนออกไปที่นั่น ในช่วงวันศุกร์ หรือไม่ก็วันอาทิตย์” เขากล่าวต่อ “เราไปคุ้ยกองขยะ เพื่อค้นหารองเท้า เราอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน มันตลกดีเหมือนกัน เรามองว่ามันเป็นเหมือนกับเกม”


“บางครั้ง ผมก็เจอรองเท้าแบรนด์ดังอย่างไนกี้ ผมเจอข้างขวาก่อน ดังนั้น ผมก็ต้องรีบ เพื่อค้นหารองเท้าข้างซ้ายให้เจอ ในที่สุด คุณก็จะเจอรองเท้าข้างซ้าย แต่มันกลับกลายเป็นแบรนด์รีบ็อค พี่สาวของผมคอยซ่อมของทุกอย่างให้ ทั้งหมดนั้น คือเรื่องของความอยู่รอด” 


เพียงไม่นาน เขาก็ค้นหาโชคชะตาของตัวเองเจอ เพียงแต่โชคชะตาที่ว่า ไม่ใช่รองเท้าไนกี้ ที่แอบซุกอยู่ตามกองขยะ แต่เป็นสิ่งที่เรียกกันว่า “ฟุตบอล” พร้อมกับมีอะคาเดมี่ในบ้านบ้านเกิดอย่าง “อัลติเมท สไตรเกอร์ส อะคาเดมี่” เป็นที่เพาะบ่มฝีเท้า 


จากนั้น เขาสร้างความยิ่งใหญ่ ด้วยการพาทีมชาติไนจีเรีย รุ่นยู-17 ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ในปี 2015 พร้อมกับคว้ารางวัลดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ที่ 10 ประตู

ช่วงปี 2017 โวล์ฟบวร์ก ทีมดังจากบุนเดสลีกา ทำการซื้อตัวโอซิมเฮน ไปร่วมทีม โดยเป็นการออกไปเล่นฟุตบอลอาชีพนอกบ้านเกิดเป็นครั้งแรกในชีวิต เป็นการปาดหน้าทีมดังอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้, สเปอร์ส และอาร์เซน่อล เขาออกมายอมรับว่า เขาเลือกข้อเสนอที่ดีที่สุด ทั้งหมดนั้น ไม่ใช่เกิดจากความโลภ แต่เป็นสิ่งที่เขาอยากตอบแทนบางอย่างให้กับครอบครัว


“ตอนที่ผมย้ายไปเล่นกับโวล์ฟบวร์ก ผมไม่ได้ใช้เงินโบนัส เพื่อซื้อของให้กับตัวเอง” เขาบอกถึงการย้ายมาเล่นในยุโรปเป็นครั้งแรก “เงินก้อนแรกที่ผมได้มา ผมนำมันไปซื้อบ้านให้คุณพ่อทันที ซึ่งบ้านหลังนั้นอยู่ในลากอส”


“ผมให้เงินพี่่น้องไปด้วย จนทุกวันนี้ ทุกคนต่างโอเคดีกับอาชีพของตัวเอง ทำให้ผมมีความสุขมาก เมื่อรู้ว่าพวกเขามีกินมีใช้อย่างเพียงพอ ครอบครัวคอยช่วยเหลือผมเสมอ ดังนั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่ผมอยากยกระดับชีวิตของพวกเขา” 


หลังจากนั้น เขาก็ย้ายไปร่วมทีมลีลล์ ในฝรั่งเศส ต่อด้วยนาโปลี ในอิตาลี ซึ่งที่เมืองเนเปิ้ลส์ เขาสถาปนาตัวเอง กลายเป็นกองหน้าที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดคนหนึ่งของยุโรป ด้วยการนำเป็นดาวซัลโวของศึกกัลโช่ เซเรีย อา ที่จำนวน 19 ประตู 


พร้อมกับพาต้นสังกัดยึดจ่าฝูงของตารางคะแนน และมีโอกาสคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอิตาลี เป็นครั้งแรกในรอบ 33 ปีอีกด้วย 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด