ทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ก่อนที่จะถึงโอลิมปิก มีรายการให้แข้งวัยรุ่นของไทยได้ผจญภัยอีกหลายรายการไม่ว่าจะเป็น ซีเกมส์, เอเชียนเกมส์ และ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
อย่างไรก็ตามในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา มีรายการที่น่าสนใจอย่าง โดฮา คัพ 2023 ซึ่งทีมชาติไทย สามารถผ่านเข้าไปชิงอันดับ 3 แม้สุดท้ายจะจบที่ 4 ก็ตาม ด้วยผลงานเก็บ 4 คะแนนใน 2 แมตช์แรก จากการ เสมอ ซาอุดิอาระเบีย 2-2 และ ชนะ กาตาร์ 1-0 ก่อนเข้าไปแพ้ คูเวต 0-1 ซึ่งทั้งสามเกมนี้ต้องยอมรับหัวใจและฝีเท้าของเหล่านักเตะไทยเป็นอย่างมาก
เช่นโจนาธาร เข็มดี ปราการหลังจาก ราชบุรี เอฟซี ที่ทำไปทั้งหมด 2 ลูกจาก 2 นัดแรก หรือคู่ขาของเขาอย่าง ทรงชัย ทองฉ่ำ แห่ง ชลบุรี เอฟซี ที่ทำสถิติวิ่งไปรวมเกือบ 20 กิโลเมตร ส่วน ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กองหน้า การท่าเรือ เอฟซี ก็ทำวิ่งอัตราความเร็ว (Max Velocity) อยู่ที่ 32.76 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
แต่มีแข้งรายหนึ่งที่ฟอร์มเด่นชัดมากๆ และแสดงออกถึงความผู้นำในการสร้างโอกาสในเกมรุก นั่นคือ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว จอมทัพเท้าซ้ายจาก ชลบุรี เอฟซี ที่รายการนี้ถูกตั้งให้เป็นรองกัปตันทีม ต่อจาก อิรฟาน ดอเลาะ มิดฟิลด์ตัวปั้นเกมของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
อันที่จริง “เจ้าหนึ่ง” ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตั้งแต่กลับมาจาก อูนิโอน อดาร์เบ ทีมใน ลีกา 4 ของประเทศสเปน เพื่อมาลุยกับทีมชาติไทย ยู 23 ในรายการดูไบ คัพ และชิงแชมป์เอเชีย สมัยที่มี “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ทำหน้าที่กุมบังเหียนเมื่อปีที่ผ่านมา
และจากการได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในไทยลีก 2022/23 กับ “ฉลามชล” นั้นช่วยให้เขาพัฒนาขึ้นอย่างมาก ทั้งเทคนิคการพาบอลลากจี้ใส่คู่แข่ง, ครอสบอลในพื้นที่ว่างให้เพื่อน แถมยังเพิ่มเติมมาในลูกเซ็ตพีทด้วยเท้าซ้ายที่เฉียบคมขึ้นมากทีเดียว
นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ช่วยให้ มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทยชุดใหญ่ ดึงเข้าร่วมทีมลุยคิงส์ คัพ ครั้งที่ 48 พร้อมกับทำประตูได้ทันทีในเกมแรก และมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าอันดับ 3 มาครองในคราวนั้น ก่อนจะได้ติดในชุดแชมป์อาเซียน คัพ 2022 แม้ว่าจะมีส่วนร่วมในการลงเล่นไม่มากก็ตาม
แต่ด้วยฟอร์มของเขากับต้นสังกัด ทำให้ อิสสระ ศรีทะโร เทรนเนอร์ของ “ช้างศึก” ยู 23 ได้มีการปรึกษากับทีมสตาฟฟ์ชุดใหญ่ เพื่อขอตัวเด็กน้อยจากยโสธร ที่เคยเอาชนะโรคธาลัสซีเมียมาร่วมทีมในการลุย โดฮา คัพ เพราะต้องการให้เขามาเป็นจอมทัพให้กับทีม
อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น ว่าเขาไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง ในเกมแรก แอสซิสต์ให้ โจนาธาร เข็มดี โขกประตูตีเสมอ ซาอุดิอาระเบีย 2-2 ในช่วงวินาทีสุดท้ายของเกม พร้อมกับเป็นผู้ครอสบอลจากซ้ายทำให้ทีมชาติไทยได้จุดโทษ ก่อนจะเอาชนะ กาตาร์ 1-0 ถือว่าเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอย่างมากสำหรับแนวรุกรายนี้
ทุกอย่างบ่งบอกถึงการพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดของ ชาญณรงค์ เป็นการเติบโตในเส้นทางลูกหนังที่หลายฝ่ายลงความเห็นว่า เขาเป็นเพชรที่เจิดจรัสอย่างแท้จริง ซึ่งครั้งหนึ่ง “โค้ชเฮง”วิทยา เลาหกุล ประธานเทคนิคของ ชลบุรี เอฟซี ยังเคยกล่าวถึงโอกาสกลับไปเล่นในต่างประเทศของเขาไว้
“โค้ชเฮง” ยืนยันว่ามีความตั้งใจและต้องการผลักดันให้ “เจ้าหนึ่ง” ออกไปค้าแข้งต่างแดนอีกครั้งให้เร็วที่สุด ขึ้นอยู่กับว่าจะได้รับข้อเสนอเข้ามาเมื่อไหร่เท่านั้น แต่ส่วนตัวของประธานเทคนิค ชลบุรี เอฟซี ได้มองที่ลีกญี่ปุ่นเอาไว้เป็นเป้าหมายแรก เพราะเคยมีทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยแสดงความสนใจมาก่อนอยู่แล้ว และยังคงมีทีมที่ติดตามผลงานมาโดยตลอด
หากฟอร์มของเขายังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าโอกาสในการกลับไปเล่นยังต่างแดนยังจะมีอยู่อย่างแน่นอน เพราะบอร์ดบริหาร “ฉลามชล” มีความลือชาในเรื่องของการเปิดกว้าง หากว่ามีข้อเสนอจากต่างประเทศเข้ามาสู่ขอนักเตะของพวกเขาไปสร้างชื่อ เหมือนกับรุ่นพี่หลายคนที่เคยไปเล่นมาแล้ว
