โดยเฉพาะตำแหน่ง “กองหน้า” เพราะแต่ละสโมสรต่างพร้อมใจใช้บริการนักเตะต่างชาติเป็นแกนหลัก ทั้งกองหน้าตัวเป้า หรือ ตัวริมเส้น
ทำให้หลายคนแอบหวั่นว่าในอนาคตวงการฟุตบอลไทย อาจขาดแคลนคนมาผลิตสกอร์ให้กับทัพ “ช้างศึก” ในการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในวันที่ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกระดับขึ้นหิ้งกำลังนับถอยหลังสู่การอำลาสนาม
ลำพังแค่ ศุภชัย ใจเด็ด กับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา คู่ดูโอ้จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คงไม่พอ ยิ่งในวันที่ “เจ้าแบงค์” ถูกตัดต่อพันธุกรรมกลายไป “ปีกขวา” เรียบร้อยแล้ว ยิ่งทำให้ตัวเลือกในแดนหน้าลดน้อยลงไปอีก
แต่อยุธยาไม่สิ้นคนดีอย่างไร ประเทศไทยก็ไม่เคยสิ้น “กองหน้า” ฝีเท้าดี เช่นนั้น ในวันนี้แฟนบอลไทยคงอุ่นใจขึ้นเมื่อ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย หัวหอกวัย 20 ปี กำลังฉายแสงโชว์วิญญาณเพชฌฆาต กระหน่ำประตูเป็นว่าเล่นให้กับ การท่าเรือ เอฟซี อยู่ในขณะนี้
ในอดีตแม้ว่าจะยิงประตูให้โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีในฟุตบอลขาสั้นเป็นว่าเล่น แต่การที่ยังไม่มีโอกาสไปอยู่ในต้นสังกัดระดับแนวหน้าของเมืองไทยและโชว์ฝีเท้าในลีกสูงสุด คงยากที่จะสามารถยกระดับฝีเท้าได้
ถึงตรงนี้ต้องชื่นชม “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ยื่นโอกาสพร้อมกระชาก “ธีรศักดิ์” มาจาก พราม แบงค็อก ยูไนเต็ด ในไทยลีก 3
ทว่าคนที่เห็นแววและให้โอกาสลงสนามคือ สก็อต คูเปอร์ อดีตกุนซือ “สิงห์เจ้าท่า” ที่เลือกเก็บ ธีรศักดิ์ ไม่ปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัว
แม้ “สิงห์เจ้าท่า” จะมีกองหน้าดีกรีดาวโวไทยลีก อย่าง แฮมิลตัน โซอาเรส ยืนขวางทางอยู่ แต่ในยามฉุกเฉินที่ แฮมิลตัน เจ็บหรือติดโทษแบนทีมจะได้มีตัวแทน
ซึ่งการตัดสินใจของ คูเปอร์ ถือว่าถูกต้อง เพราะ ธีรศักดิ์ สถาปนาตัวเอง จากซีโร่นักเตะที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของแฟนบอล ได้กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ยิงประตูช่วยทีมได้หลายๆ นัด
โดยเฉพาะในศึกรีโว่ไทยลีก เกมล่าสุดที่พลิกนรกกลับมาแซงเอาชนะ ลีโอ เชียงราย ไป 3-2 หลังจากตามหลังถึง 2 ประตู และ ธีรศักดิ์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองจัดการเหมาคนเดียว 2 ประตูอีกด้วย
ทำให้ตอนนี้เขายิงไปแล้ว 11 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ ในการลงสนาม 25 นัด ทุกรายการ ขึ้นแท่นเป็นรองดาวซัลโวของทีมเรียบร้อยแล้ว
เรียกว่านอกจาก แฮมิลตัน สามารถพูดได้เต็มปากว่า ธีรศักดิ์ นี่แหละที่ช่วยแบกทีม
เมื่อเจาะลงไปดูสถิติยิงประตูของ ธีรศักดิ์ ในการเล่นให้กับ การท่าเรือ ยิ่งน่าสนใจ เพราะประตูที่ทำได้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการลงเป็นตัวสำรองมากกว่าตัวจริง
โดยสถิติยิงประตูเมื่อลงสนามเป็นตัวจริง 4 ประตู ตัวสำรอง 7 ประตู ช่วงนาทีที่ทำประตูได้เยอะสุด อยู่ระหว่าง 75-85 จำนวน 6 ประตู นี่เป็นการการันตียอดดาวยิงซูเปอร์ซับอย่างแท้จริง
เคล็ดลับที่ทำให้ฟอร์มของ ธีรศักดิ์ พุ่งประฉูดอยู่ตอนนี้ คือการพยายามทำงานหนักมาตลอด มีซ้อมแยก และ ซ้อมเองบ้าง นอกจากโปรแกรมซ้อมปกติของทีม
ที่สำคัญคือมาดามแป้ง (นวลพรรณ ล่ำซำ) คอยให้โอกาส และ โค้ชโชค (โชคทวี พรหมรัตน์) โค้ชอั๋น (สุรพงษ์ คงเทพ) เพิ่มเติมส่วนที่ขาดให้ด้วย
ส่วนในทีมชาติไทย เขาแสดงให้เห็นว่าแจ่มแค่ไหน ในศึกโดฮาคัพ ที่กาตาร์
เส้นทางลูกหนังของ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ยังอีกไกลและมีเวลาสั่งสมประสบการณ์และพัฒนาฝีเท้าอีกเยอะ
หากไม่มีอาการเจ็บรบกวน เขาจะกลายเป็นดาวยิงที่สุดอันตราย สมฉายา “นิวธีรศิลป์” แน่นอน
แต่ตัวเขาเองคงไม่อยากเหมือนใคร และอยากให้คนจดจำในชื่อของ “ธีรศักดิ์” มากกว่า
ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่เขาจะสร้างรอยเท้าของตัวเองขึ้นมาเองให้แฟนบอลจดจำ
