:::     :::

'ไค ฮาแวร์ตซ์' ดีลแรกของปืนใหญ่

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาร์เซน่อล ปิดดีลแข้งใหม่รายแรกประจำซัมเมอร์นี้ได้เป็นที่เรียบร้อยหลังตกลงคว้า ไค ฮาแวร์ตซ์ แนวรุกทีมชาติเยอรมันมาจาก เชลซี ด้วยค่าตัวรวม 65 ล้านปอนด์

ฮาแวร์ตซ์ ตกเป็นข่าวกับ อาร์เซน่อล ไม่นานเมื่อเทียบกับเป้าหมายหลักอย่าง ดีแคลน ไรซ์ แต่สามารถดึงตัวมาร่วมทีมได้ก่อน 

ทำไม อาร์เซน่อล ต้องดึง ไค ฮาแวร์ตซ์ มาร่วมทีม?

นี่คือคำถามที่ผุดขึ้นในหัวใครหลายคน ต่างจากดีลของ ไรซ์ ที่เห็นพ้องต้องกันว่าจำเป็นสำหรับการเสริมทัพแดนกลาง

เราจะมาวิเคราะห์และหาคำตอบร่วมกัน

ไค ฮาแวร์ตซ์ ย้ายจาก เลเวอร์คูเซ่น มาร่วมทีม เชลซี ในซัมเมอร์ 2020 ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ลงสนามไปแล้ว 139 นัด มีช่วงพีคสุดในฤดูกาลแรกที่เป็นคนยิงประตูชัยให้ทีมเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครอง

ข้อดีที่ อาร์เซน่อล มองเห็นในตัว ฮาแวร์ตซ์ น่าจะมีดังนี้ 

อันดับแรก ฮาแวร์ตซ์ เล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแนวรุกซึ่งเป็นสิ่งที่ มิเกล อาร์เตต้า ต้องการกับระบบการเล่นของทีมในปัจจุบันที่ผู้เล่นเกมรุกสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกันได้ 

ทักษะและสไตล์การเล่นของ ฮาแวร์ตซ์ แตกต่างแนวรุกที่ปืนใหญ่มีตอนนี้ ทำให้เพิ่มทางเลือกและมิติได้มากขึ้น

สองตำแหน่งหลักที่คาดว่า ฮาแวร์ตซ์ จะได้เล่นที่ อาร์เซน่อล คือมิดฟิลด์ตัวรุก และกองหน้าตัวเป้า 

ด้วยความสูง 1.93 เมตร ฮาแวร์ตซ์ จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการเล่นลูกกลางอากาศ ต่างจากหน้าเป้าคนปัจจุบันอย่าง กาเบรียล เชซุส ที่รูปร่างเล็กไปนิด


ฮาแวร์ตซ์ เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์และเทคนิคส่วนตัวที่ค่อนข้างสูง มีสัญชาตญาณในการหาพื้นที่ว่างเพื่อรับบอลแล้วเล่นต่อได้ทันทีด้วยการเปิดให้เพื่อนร่วมทีมและพาบอลลุยไปเอง 

นอกจากนี้ อดีตดาวรุ่งเลเวอร์คูเซ่นมีความรับผิดชอบในการเล่นตามแท็กติกของโค้ช และไม่อิดออดในการวิ่งไล่แย่งบอล 

ที่สำคัญอีกอย่างคือ เข้ากับนโยบายการเสริมทัพของสโมสรที่เน้นนักเตะอายุไม่มากเพราะเพิ่งฉลองวันเกิดครบ 24 ปี เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา 

สิ่งที่หลายคนสงสัยคือ ไค ฮาแวร์ตซ์ ถนัดการเล่นตรงไหนมากสุด?

เจ้าตัวเคยพูดถึงตำแหน่งตัวเองเอาไว้เมื่อปี 2021 ว่า "ผมเป็นผู้เล่นมิดฟิลด์ที่ชอบเข้าไปเล่นในกรอบเขตโทษ ในเวลาที่ได้บอล คุณจำเป็นต้องปรับตำแหน่งการเล่นของตัวเองอยู่เสมอ และนั่นคือสไตล์ของผมในสนาม"

ขณะที่ช่วงเริ่มต้นอาชีพ ฮาแวร์ตซ์ มี เมซุต โอซิล อดีตเพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งของ อาร์เซน่อล เป็นต้นแบบ และมักถูกนำมาเปรียบเทียบกันบ่อยครั้งด้วยการถนัดเท้าซ้ายเหมือนกัน 

ช่วงดีสุดของ ฮาแวร์ตซ์ ที่ เชลซี คือช่วงหกเดือนแรกที่ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือคนชาติเดียวกันเข้ามาคุมทีมต่อจาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด 

ตอนนั้น ฮาแวร์ตซ์ เล่นในบทบาทคล้ายช่วงที่อยู่กับ เลเวอร์คูเซ่น คือการเป็นจอมทัพหมายเลข 10 ทางฝั่งขวาในระบบ 3-4-2-1 โดยยืนปั้นเกมรุกคู่กับ เมสัน เมาท์ และอยู่ข้างหลังหน้าเป้าอย่าง ติโม แวร์เนอร์ 

แต่หลังจาก แวร์เนอร์ ฟอร์มดร็อปลงและไม่ตอบโจทย์ เช่นเดียวกับ โรเมลู ลูกากู ที่ย้ายกลับมาอีกรอบในซัมเมอร์ 2021 ฮาแวร์ตซ์ ก็ถูกขยับไปเล่นกองหน้าตัวเป้า และนับจากนั้นเป็นต้นมาก็เป็นตำแหน่งที่ได้เล่นบ่อยสุด 

การเป็นหน้าเป้าของทีมมาพร้อมความคาดหวังมากสุดในการทำประตู และต้องวัดกันโดยตรงแบบไหล่ชนไหล่กับกองหลังที่ล้วนสูงใหญ่ ต่างจากการเล่นมิดฟิลด์ตัวรุกที่มีพื้นที่ว่างในการเล่นมากกว่า 


โอกาสลุ้นยิงประตูในลีกของ ฮาแวร์ตซ์ ในฤดูกาลล่าสุด

ทูเคิ่ล เคยนิยามการเล่นของ ฮาแวร์ตซ์ ว่าเป็นส่วนผสมระหว่างผู้เล่นหมายเลข "9" และหมายเลข "10"

ขณะที่ เธียร์รี่ อองรี ตำนานกองหน้าของ อาร์เซน่อล ยกย่อง ฮาแวร์ตซ์ เอาไว้ว่า "เขาทำให้ผมนึกถึง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ อยู่บ้างนิดๆ ในบางครั้ง วิธีการที่เขาเก็บบอลข้างหน้า ฟาน เพอร์ซี่ มีเท้าซ้ายที่เจ๋งมากๆ การสัมผัสบอลเนียนตาเสมอ และพยายามทำให้คู่แข่งต้องขยับตามไปด้วย"

"นี่คือนักเตะที่เคยเล่นปีกหรือหมายเลข 10 มาก่อน เขาเล่นในตำแหน่งหมายเลข 9 เพราะในเวลาที่หันหลังให้ประตู (มีกองหลังประกบติด) เขาสามารถเก็บบอลได้ดี และตอนนี้สิ่งที่ ฮาแวร์ตซ์ ต้องพัฒนาคือการทำประตูให้มากขึ้น"

ในส่วนผลงานกับ เชลซี ไค ฮาแวร์ตซ์ ลงสนามไปแล้วทั้งหมด 13 นัด ยิงได้ 32 ประตู และ 15 แอสซิสต์ 

ฤดูกาลล่าสุด ฮาแวร์ตซ์ ยิงได้ 7 ประตูในลีก โดยเป็น 6 ประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ที่มาจากโอกาสลุ้นยิงทั้งหมด 69 ครั้ง และเป็นโอกาสที่ต้องเป็นประตู (xG - Expected Goals) 10.8 ครั้ง

สถิติทำประตูได้จากโอกาสจะแจ้งแบบ xG นี้ถือว่าไม่ดีนักซึ่งตรงนี้เป็นอีกจุดที่แฟนบอลอาร์เซน่อลกังวลอยู่ไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ เชลซี โดยเฉพาะฤดูกาลล่าสุดล้วนส่งผลไม่น้อยต่อผลงานของ ฮาแวร์ตซ์ และนักเตะทุกคน 

การเปลี่ยนแปลงเจ้าของทีมรวมถึงตำแหน่งกุนซืออีกหลายครั้งทำให้แท็กติกและตำแหน่งการเล่นต้องเปลี่ยนตลอด 

ฟอร์มการเล่นและผลการแข่งขันโดยรวมของทีมตกลงต่อเนื่องจนอันดับรูดจบที่ 12 ของตาราง และมีคะแนนเพียงครึ่งเดียวของทีมแชมป์ แมนฯ ซิตี้ (44 ต่อ 89)


อาร์เตต้า มีภาพในหัวอยู่แล้วว่าจะใช้งาน ฮาแวร์ตซ์ อย่างไร

แต่ อาร์เซน่อล ยังคงมั่นใจจนสามารถปิดดีลนี้ได้ และ มิเกล อาร์เตต้า ก็คงมองเอาไว้แล้วว่าจะใช้งาน ไค ฮาแวร์ตซ์ ตรงไหนและอย่างไร

อาร์เซน่อล เล่นในระบบ 4-3-3 ในฤดูกาลล่าสุด โดยที่ในเวลาบุกเต็มตัว กรานิต ชาคา และ มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ตามตำแหน่งเล่นตรงกลางร่วมกับ โธมัส ปาร์เตย์ จะขยับขึ้นสูงไปอยู่ระนาบเดียวกับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และ บูคาโย่ ซาก้า จนกลายเป็นระบบ 4-1-4-1 

กับสถานการณ์ที่ ชาคา กำลังจะย้ายออกจากทีมหลังมีข่าวว่าตกลงกับ เลเวอร์คูเซ่น ได้แล้ว รอเพียง อาร์เซน่อล ได้ตัวใหม่เข้ามาแทนที่ ฮาแวร์ตซ์ น่าจะได้เสียบแทนตำแหน่งของมาเฟียสวิสเพื่อปั้นเกมตรงกลางร่วมกับ โอเดการ์ด และสามารถสลับเล่นกับ กาเบรียล เชซุส ในตำแหน่งหน้าเป้าได้อีกด้วย

การเล่นหน้าเป้าแทน เชซุส ในบางนัดหรือลงไปเพิ่มช่วงท้ายที่ทีมต้องการประตู น่าจะช่วยเพิ่มโอกาสได้มากขึ้นจากจุดเด่นในลูกกลางอากาศเพราะหลายต่อหลายครั้ง อาร์เซน่อล ต้องเจอกับการตั้งรับลึกทำให้เจาะภาคพื้นได้ลำบาก 

ฤดูกาลล่าสุดที่เพิ่งจบลงไป ฮาแวร์ตซ์ หาโอกาสจะแจ้ง (Big chances) ในการลุ้นโหม่งในเขตโทษจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ได้ 11 ครั้ง และมีเพียง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ (12 ครั้ง) ที่มีสถิติมากกว่า 

ฮาแวร์ตซ์ มีโอกาสยึดตำแหน่งตัวจริง หรือเป็นกำลังเสริมคอยสลับสับเปลี่ยนกันลงสนามซึ่งนักฟุตบอลยุคใหม่มีความเข้าใจมากขึ้นว่าโอกาสยึดตัวจริงทุกนัดเกิดขึ้นได้ยากเพราะแต่ละทีมต้องลงเล่นราว 60 นัดต่อฤดูกาล การโรเตชั่นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง


ปืนใหญ่ใช้ตัวจริงชุดเดิมลงเล่นมากสุดที่ 13 ครั้ง

อาร์เซน่อล มีผู้เล่นถึง 4 คนที่ลงเล่นในลีกครบ 38 นัดในฤดูกาลที่แล้วคือ อาร่อน แรมส์เดล, เบน ไวท์, กาเบรียล มากัลเญส และ บูคาโย่ ซาก้า ซึ่งมากกว่าทุกทีมในลีก และยึด 11 ตัวจริงชุดเดิม 13 นัด มากกว่าทุกทีมอีกเช่นกัน 

ในวันที่ทุกคนฟิตพร้อมสมบูรณ์ ชุดตัวจริงของทัพปืนใหญ่คือชุดที่ดีสุดในรอบหลายปี และเล่นได้อย่างท็อปฟอร์ม พร้อมเก็บคะแนนเป็นกอบเป็นกำจนนำโด่งอยู่นานหลายเดือน  

แต่ทันที่มีตัวหลักบาดเจ็บโดยเฉพาะ วิลเลี่ยน ซาลีบา ขณะที่ อาร์เตต้า ก็ไม่ได้ปรับแท็กติกเป็นอย่างอื่น ฟอร์มของ อาร์เซน่อล จึงระส่ำอย่างเห็นได้ชัดก่อนแผ่วปลายจนถูก แมนฯ ซิตี้ แซงคว้าแชมป์ในที่สุด 

ในเวลาที่ "แผน เอ" มีปัญหา อาร์เซน่อลไม่สามารถงัด "แผน บี" หรือ "แผน ซี" ได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะคุณภาพของผู้เล่นตัวสำรองสู้ตัวจริงไม่ได้ และไม่ยืดหยุ่นมากพอ

แมนฯ ซิตี้ มีความต่อเนื่องและลื่นไหลมากกว่าในเวลาที่เปลี่ยนแท็กติกหรือตัวผู้เล่น และด้วยคุณภาพนักเตะที่ดีกว่าอยู่แล้ว เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถึงขนาดปรับให้ จอห์น สโตนส์ ขึ้นมาเล่นกองกลางและทำผลงานได้ดีอีกด้วย

ทัพเรือใบมีผู้เล่น 14 คนที่เล่นในพรีเมียร์ลีกเกินครึ่งของจำนวนนาทีทั้งหมด ขณะที่ อาร์เซน่อล มีเพียง 11 ตัวหลักที่เล่นเกินครึ่ง ส่วนที่เหลือได้เล่นมากสุดก็แค่ราว 30 เปอร์เซ็นต์ของเวลาทั้งหมด


ภาพนี้กำลังจะเป็นทางการ 

ภารกิจสำคัญของ อาร์เซน่อล ในซัมเมอร์นี้ไม่ใช่เพียงการดึงผู้เล่นใหม่มาเพิ่ม แต่ต้องเป็นผู้เล่นที่เข้ามาแล้วสามารถเพิ่มคุณภาพให้มากขึ้น 

การมีนักเตะที่คุณภาพใกล้เคียงกันทำให้การโรเตชั่นตัวจริงแต่ละนัด และการปรับเปลี่ยนระหว่างเกมทำได้ง่ายขึ้น อีกทั้งลดความเสี่ยงที่ตัวหลักอาจบาดเจ็บหรือล้าจนเกินไป

ไค ฮาแวร์ตซ์ จึงเป็นตัวเลือกที่ อาร์เซน่อล มองว่ามีคุณภาพในแบบนั้น และเชื่อว่ามีศักยภาพมากกว่าที่เห็นตลอดช่วงเวลากับ เชลซี 

การย้ายร่วมทีมปืนใหญ่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับ ฮาแวร์ตซ์ เช่นกันเพราะแทบไม่กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ที่ยังได้ปักหลักในลอนดอนต่อไป และได้ย้ายมาอยู่กับทีมที่กำลังเติบโต และมีพัฒนาการที่ดีมากในฤดูกาลล่าสุด

สถานการณ์ของ อาร์เซน่อล "นิ่ง" และ "ชัดเจน" มากกว่าในเรื่องแนวทางการทำทีมหลังหลงทิศหลงทางอยู่พักใหญ่ตอน อาร์แซน เวนเกอร์ วางมือ ต่างจาก เชลซี ที่ยังมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในตอนนี้ซึ่งรวมถึงการเริ่มต้นใหม่กับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

การเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมใหม่ไปร่วมทีมที่มีแกนหลักเป็นแข้งหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน อาจช่วยเค้นเอาศักยภาพของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ออกมาได้ยิ่งกว่าเดิม

หรืออย่างน้อยการที่ อาร์เซน่อล ให้ความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่และกล้าทุ่มเงินขนาด 65 ล้านปอนด์ดึงตัวร่วมทีม ก็น่าจะทำให้ ฮาแวร์ตซ์ เชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นเช่นกัน 

เราอาจได้เห็น ไค ฮาแวร์ตซ์ ในเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นทีก็เป็นได้ 

 



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด