แล้วทำไมถึงต้องเป็นเจ้าหนูวัย 19 ที่ไม่สามารถช่วย เซาธ์แฮมป์ตัน ให้รอดตกชั้นได้คนนี้ด้วยล่ะ? โรมิโอ ลาเวีย เป็นนักเตะชาวเบลเยียม โตมาจากอะคาเดมี่ของ อันเดอร์เลชท์ ตั้งแต่ 8 ขวบ และฟอร์มการเล่นไปเข้าตาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อย่างเต็ม ๆ ตอนที่เขาลงเตะในรายการที่ชื่อว่า KDB Cup ซึ่งถ้วยระดับเยาวชนถ้วยนี้จัดโดย เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งในตอนนั้น เดอ บรอยน์ เป็นคนชวน เป๊ป ไปร่วมชมเกมด้วย จึงได้พบกับ ลาเวีย ครั้งแรกที่นั่น เป๊ป ค่อนข้างประทับใจฝีเท้าของเด็กคนนี้เป็นพิเศษ จึงได้ดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2020 และพัฒนาฝีเท้าในทีมเยาวชนได้ค่อนข้างไวกว่าเด็กรุ่นเดียวกับ ข้ามขั้นไปเล่นในชุดยู-18 และชุดยู-23 ทั้งที่อายุน้อยมาก ๆ อีกทั้งยังเคยได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 2 กับ EDS หรือ Manchester City EDS & Academy ซึ่งเตะในพรีเมียร์ลีก 2 และตัวเขายังได้นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลอีกด้วย ลาเวีย ลงสนามให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดใหญ่ไปทั้งหมด 2 นัด ซึ่งเป็นในบอลถ้วยเอฟเอ คัพ กับลีกคัพ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยในการย้ายไปครั้งนี้มีเงื่อนไขในสัญญาที่ว่า ซิตี้ สามารถดึงตัวเขากลับสู่สโมสรได้แต่ต้องจ่ายในราคา 40 ล้านปอนด์ โดยเงื่อนไขนี้จะมีผลบังคับใช้ตอนปี 2024 นั่นแสดงให้เห็นว่า ซิตี้ เองก็เห็นแววของ ลาเวีย พอสมควรเลยว่าจะเป็นนักเตะที่เก่งแน่นอนในอนาคต ที่ เซนต์ แมรี่ส์ เขาเข้ามายึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้ในเวลาไม่นาน เขาลงสนามในพรีเมียร์ลีกไปถึง 29 นัด ยิงได้ 1 ประตู มีตัวเลขในการจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 856 ครั้ง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์คือ 86%, แท็คเกิ้ลชนะคู่แข่งถึง 35 ครั้ง และตัดบอลช่วยทีมอีก 33 ครั้ง อีกทั้งยังเลี้ยงบอลชนะตัวประกบไปมากถึง 28 ครั้ง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์คือ 58% นับว่าสูงติดท็อปไฟว์ของทีมเลยด้วย สไตล์การเล่นของ ลาเวีย เป็นพวกประเภทกองกลางตัวรับจ๋า ทะลุขึ้นหน้าได้ พลิกบอลเก่ง แต่ขาดแค่ประสบการณ์ที่ยังไม่มากนักเพราะเพิ่งได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้วเป็นปีแรก แล้วทำไม ลิเวอร์พูล ถึงอยากได้ ลาเวีย มาอีก ทั้งที่เพิ่งได้ แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โซบอสไล มาแล้ว คำตอบคือ ลาเวีย เป็นนักเตะที่เล่นเกมรับเป็นหลัก ส่วนอีกสองคนคือหนักไปทางเกมรุกเสียมากกว่าครับ พูดง่าย ๆ ว่า ลาเวีย เป็นกองกลางประเภทหมายเลข 6 ที่คอยปัดกวาดหน้าแผงกองหลังได้ดีกว่าทั้งสองคน ถ้าจำกันได้ ในฤดูกาลที่ผ่านมาช่วงท้าย ๆ ฤดูกาล คล็อปป์ มีการปรับระบบมาเล่น 3-2-2-3 และทำผลงานได้ค่อนข้างดีเลย นั่นจึงอาจเป็นเหตุผลที่ คล็อปป์ อยากได้กองกลางตัวรับแบบ ลาเวีย มาอยู่ในทีม แม้ว่าจะมี ฟาบินโญ่ กับ สเตฟาน บายเซติซ อยู่ แต่ก็อาจไม่พอสำหรับการยืนระยะในลีกและมีถ้วยหลายรายการให้ลงเล่น ดังนั้น หากมี ลาเวีย มาเสริม เขาสามารถช่วยงานตรงนี้ได้ เขาสามารถเล่นกลางตัวรับฝั่งซ้ายได้ ซึ่งจะเป็นการกดดัน ฟาบินโญ่ ไม่ให้ฟอร์มหลุด และแย่งตำแหน่งกับ ติอาโก้ รวมถึง บายเซติซ ทำให้ทีมมีการแข่งขันกันที่เข้มข้นมากขึ้น ลาเวียเป็นมิดฟิลด์ตัวโฮลดิ้งที่เก่งเรื่องการเก็บบอลและจ่ายต่อไปข้างหน้า รวมถึงบังพลิกบอลหนีตัวประกบ แก้เพรสได้ค่อนข้างดี ฮีตแมพในรูปประกอบแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถกระจายตัวเองได้ทั่วสนาม แม้ว่าเขาจะถนัดเท้าขวา แต่ ลาเวีย ก็เล่นในพื้นที่แคบได้ดีทั้งด้านขวาและด้านซ้าย ลาเวีย เปิดเผยว่าหนึ่งในแรงบันดาลใจการเล่นฟุตบอลของเขาคือ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ดังนั้นสไตล์ของเขาจึงมีบทบาทคล้ายกันพอสมควร เขาถนัดกับการเล่นจากแนวหลัง จุดแข็งของ ลาเวีย คือความสามารถในการเอาชนะการเพรสซิ่ง เขามีความสามารถในการพลิกบอลและเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม สามารถเร่งความเร็วหนีคู่แข่งในระยะประชิดได้ดี ซึ่งการเลี้ยงบอลเพื่อทำลายโซนนิ่งแบบนี้ ทำให้เขาเอาชนะเพรสซิ่งได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องผ่านบอลเลยด้วยซ้ำ และหากได้ตัวมาร่วมทีมเขาจะช่วย ลิเวอร์พูล เรื่องโควตาโฮมโกรว์น ได้เยอะมาก ๆ ซึ่งตอนนี้ทีมก็ขาดแคลนอยู่ด้วย ฝีเท้าดี อายุน้อย ค่าตัวไม่แพงมาก และน่าจะปั้นได้ยาว ๆ ทั้งหมดนี้ทำให้ โรมิโอ ลาเวีย จึงเป็นดีลที่น่าสนใจของ ลิเวอร์พูล และเป็นหมายเลข 6 ที่มีคุณสมบัติทุกอย่างครบถ้วนตามแบบที่ทีมตามหาอยู่ในเวลานี้เลยทีเดียว
