:::     :::

ดาวจรัสแสงผู้ไร้โอกาสกับ "กิเลนผยอง"

วันพุธที่ 20 กันยายน 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
271
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การก้าวไปติดทีมชาติไทยไม่ว่าระดับไหนกุนซือจะดูแววนักเตะคนนั้นจากผลงานทั้งในระดับโรงเรียนและสโมสร

หากคนไหนฟอร์มบรรเจิดจะมีโอกาสก้าวไปติดธงไตรรงค์หรือมีโลโก้ “ช้างศึก” อยู่บนอกข้างซ้ายสูงมาก

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นกับ “แบงค์” ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท จอมทัพฟอร์มแรงของทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 


ตอนนี้ “ปุรเชษฐ์” กลายเป็นที่พูดถึงของแฟนบอลไทย จากผลงานอันยอดเยี่ยมในทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร ที่ทำศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่หางโจว แดนมังกรจีน 

นับตั้งแต่ “โค้ชหระ” เข้ามาคุมทีมเมื่อปลายปีที่แล้วดาวเตะจาก “เมืองทอง ยูไนเต็ด”​ ถือเป็นหนึ่งในขุนพลคู่ใจที่ต้องมีชื่อลุยศึกเหนือใต้ทั้งในระดับอาเซียนและเอเชีย และกลายเป็นคนที่ทำผลงานดีด้วย

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ “เจ้าแบงค์” ไม่ค่อยได้ลงสนามให้ทีม “กิเลนผยอง” อยู่แล้ว ทำให้สโมสรปล่อยตัวง่ายและคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีกว่าให้ลงซ้อมกับทีมไปเฉยๆ 


ขณะที่ “โค้ชหระ​“​ เองก็รู้มือดาวเตะถุงเท้าครึ่งแข้งเป็นอย่างดี เพราะเฝ้าติดตามและใช้งานมาตลอดสมัยคุมทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี 

เมื่อโค้ชรู้ว่าเด็กมีของและได้โอกาสได้ลงเล่นสนามบ่อยๆ จึงเกิดความมั่นใจและทำผลงานได้ดี ยิงประตูได้ต่อเนื่อง ชนิดที่หลายคนยกให้เป็นหนึ่งใน “เดอะ แบก” ของทีมเลยทีเดียว 

ทว่าในระดับสโมสรฤดูกาลนี้ ปุรเชษฐ์ กลับไม่ได้โอกาสจาก มาริโอ ยูรอฟสกี้ อดีตกุนซือของทีม “กิเลนผยอง” ใช้งานส่งลงสนามเลยแม้แต่วินาทีเดียว ทั้งที่ตัวรุกของทีมนัดกันฟอร์มตกและตัวเลือกมีใช้งานค่อนข้างน้อย 


แม้ทีมจะต้องการนักเตะที่เล่นในตำแหน่งหมายเลข 8 และหมายเลข 10 ได้ แต่ “โค้ชโอ้” กลับเลือกที่จะปั้น “คคนะ คำยก” แทนที่จะใช้นักเตะเลือดเนื้อเชื้อไข “กิเลนผยอง” แท้ๆ อย่าง ปุรเชษฐ์ ซึ่งอยู่กับทีมมาตั้งแต่อายุ 12 ขวบ 

ดาวเตะที่มักสวมถุงเท้าครึ่งแข้งและถนัดเท้าซ้ายเหมือน เปาโล ดีบาล่า ดาวเตะจาก โรม่า ในกัลโช่ ซีเรีย อา อิตาลี และทีมชาติอาร์เจนติน่า สามารถเล่นตำแหน่งดังกล่าวได้เช่นกัน 

หรือในวันที่นักเตะริมเส้นฝั่งขวาตันๆ การเลี้ยงตัดเข้าในและยิงด้วยซ้าย ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าของ ปุรเชษฐ์ แต่กลับไร้ความหมาย ไม่ได้ถูกใช้งานเลยแม้แต่น้อย 

เรียกว่าคนไม่ใช่มักไม่เคยอยู่ในสายตา


ขนาดน้องชายแท้ๆ ที่เพิ่งมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่าง ปิยณัฐ ทอดสนิท ยังถูกส่งลงสนามก่อนพี่ชายในเกมไฮลักซ์รีโว่ไทยลีกล่าสุดที่บุกไปแพ้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 5-2 ที่สนามบีจี สเตเดียม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 

ตอนนี้ในรั้ว เมืองทอง ยูไนเต็ด มีการเปลี่ยนแปลงกุนซือใหญ่ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ได้อำลาทีม พร้อมปิดระบบ “มาริโอ เวย์” นั่นทำให้โอกาสของ ​ปุรเชษฐ์ มาถึงอีกครั้ง 

หลังจบเอเชียนเกมส์ หากเขายังรักษาผลงานดีและยังยิงประตูได้ต่อเนื่องเชื่อว่าทีมงานสตาฟฟ์โค้ชไม่ปล่อยเขาไว้บนม้านั่งสำรองเฉยๆ พร้อมส่งลงสนามแน่ๆ 


แต่จะบทบาทตัวจริงหรือตัวสำรอง ในตำแหน่งปีกหรือกองหน้าตัวต่ำ เป็นอีกเรื่อง ตัวเขาเองต้องฉกฉวยโอกาสให้ได้ 

หากได้โอกาสแล้วยังแจ้งเกิดไม่ได้ คงจะโทษใครไม่ได้ นอกจากตัวเอง เมื่อนั้นการย้ายทีม น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด 

ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อ “อนาคต” ของเขาเอง เพราะหากทนอยู่เป็นตัวสำรองแบบนี้เห็นทีอนาคตคงดับวูบแน่ๆ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด