:::     :::

"ธชตวัน ศรีปาน" โค้ชไทยผู้สร้างปรัชญาให้ "แข้งเทพ"

วันศุกร์ที่ 06 ตุลาคม 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
489
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หากจะนึกถึงชื่อกุนซือที่มีฝีไม้ลายมือในการคุมทีมร้ายกาจ มีแท็คติกแยบยล เน้นเกมรุกแต่ไม่ลืมเกมรับ เต็มไปด้วยบารมี แน่นนอนว่าชื่อของ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน คงเป็นหนึ่งในนั้น

นับจากแขวนสตั๊ดแล้วเดินทางสายงานผู้ฝึกสอน “โค้ชแบน” เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยออกสื่อ บทสัมภาษณ์ไม่หวือหวา มักจะให้เครดิตการทำงานร่วมกันของทีม และมอบความดีความชอบให้นักเตะยามที่ผลงานดี 

ส่วนนัดไหนทีมเล่นไม่ดี อดีตนักเตะฉายา “สุภาพบุรุษลูกหนัง” มักจะยอมรับโดยตรงว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเกิดจากจุดไหน เลยทำให้ไม่ได้ถูกจับตามองหรือพูดถึงสักเท่าไหร่ 


แต่ผลงานในฤดูกาล 2023/24 กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด หากไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ เพราะฟอร์มของทีม “แข้งเทพ” ดีเหลือเกิน ทั้งในฟุตบอลไทยลีกที่ยึดพื้นที่กลุ่มผู้นำบนตารางคะแนน 

ส่วนฟุตบอลถ้วยสโมสรเอเชีย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ล่าสุดเปิดบ้านเอาชนะ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส บิ๊กทีมจาก เกาหลีใต้ ไป 3-2 พร้อมเก็บ 6 แต้มเต็ม จาก 2 นัด นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มเอฟ 

หากนัดต่อไปเอาชนะ คิตฉี จากฮ่องกงได้ ก็น่าจะการันตีผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร และจะถือเป็นครั้งที่ 2 ของ “โค้ชแบน” หลังจากพา เมืองทอง ยูไนเต็ด ผ่านด่านอรหันต์มาแล้ว เมื่อปี 2017 


แน่นอนว่า “ปรัชญา” การคุมทีมของ “โค้ชแบน” ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากกว่าการให้ความสำคัญกับคำว่า “ทีม” และ “สปิริต” มาก่อนตัวตนของนักเตะหรือความซูเปอร์สตาร์ของใครคนใดคนหนึ่ง 

จากเกมที่ชนะ ชุนบุคฯ ต้องยอมรับว่านักเตะ “แข้งเทพ” เล่นกันแบบถวายหัว เกมรับช่วยกันเล่น ช่วยกันไล่บอล ต่างคนต่างสั่งการ กระตุ้นกันอยู่เสมอ ทำให้เกมรับแทบจะไม่มีข้อผิดพลาด ขณะที่เกมรุกในจังหวะบุกหรือโต้กลับเร็วทำดี รวดเร็ว และทรงประสิทธิภาพ 

เห็นได้ชัดว่า “แข้งเทพ” ยุคนี้ต่างคนต่างรู้หน้าที่ตัวเอง และเล่นด้วย “วินัย” ที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังไม่มีการเล่นตุกติกหรือเล่นนอกเกมใส่คู่แข่งเลย เรียกว่ากลายเป็นทีมที่เต็มไปด้วยความแฟร์และมีความเป็นสุภาพบุรุษสูงลิบ 

นอกจากนี้นักเตะบางคนที่เคยถูกปรามาสว่าเป็นจอมขี้เกียจ ไม่ค่อยชอบเล่นเกมรับ หรือไม่ค่อยไล่บอลช่วยเพื่อน ต่างสลัดภาพเดิมๆ ทิ้งอย่างหมดจด 


ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ ปกเกล้า อนันต์ ที่กลายเป็นนักเตะปิดทองหลังพระไปแล้ว เพราะมีส่วนสำคัญทั้งเกมรุกและเกมรับของทีม

ขณะที่นักเตะที่หลายคนแทบลืมชื่ออย่าง รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก ได้กลับมาสู่ร่างเทพ ฟอร์มเจิดจรัสอีกครั้ง อันตรายทั้งการเลี้ยงบอลกินตัวตามแบบฉบับของปีก แถมมีลูกยังที่หวังผลได้ เกมล่าสุดทำไป 1 ประตูสสุดสวยช่วยทีมคว้าชัยจาก ชุนบุคฯ​ ได้อีกด้วย 


ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้ “โค้ชแบน” ที่พยายามเคี่ยวเข็นและกำชับนักเตะในทีมว่าหากไม่เล่นเพื่อทีม ไม่มีความทุ่มเทเกินร้อย และไม่มีความกระหายในชัยชนะ ก็จะไม่มีโอกาสได้ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริง

อย่างไรก็ตามสัญญาของ “โค้ชแบน” กับทีม “แข้งเทพ” จะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ ตอนนี้สโมสรยังไม่มีการขยายสัญญาออกไป ทำให้แฟนบอลไทยหลายคนหวังจะเห็น “โค้ชแบน” เข้ามาคุมทีมชาติไทย ชุดใหญ่ 


มาลุ้นว่าอนาคต “โค้ชแบน” จะได้คุมทีมชาติไทย หรือเปล่า? หากจะดูคุณสมบัติ บอกเลยว่าไม่มีกุนซือคนไทยคนไหนเหมาะกับการรับไม้ต่อจาก มาโน่ โพลกิง มากกว่าชายที่ชื่อ ธชตวัน ศรีปาน อีกแล้ว 

หากจะอำลา “แข้งเทพ” จริง ก็หวังว่า “โค้ชแบน” จะทิ้งทวนสวยๆ ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีกให้ได้ คงจะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด