:::     :::

ฟ้าหลังฝนของชัยนาท ฮอร์นบิล

วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
574
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มีเครื่องหมายคำถามตัวโตๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สำหรับสถานการณ์ของทีมอย่างชัยนาท ฮอร์นบิล อดีตสโมสรเจ้าบุญทุ่มที่เคยโลดแล่นอยู่บนลีกสูงสุด แต่ในปัจจุบันกลับต้องมาดิ้นรนหนีการตกชั้นอย่างเต็มตัวในศึกฟุตบอลไทยลีก 2

นับเป็นการออกสตาร์ทได้อย่างย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรเลยก็ว่าได้ สำหรับฤดูกาล 2023-24 ที่กำลังลงเตะกันอยู่ในขณะนี้ เพราะในช่วง 9 นัดแรกที่ลงทำการแข่งขัน พลพรรค "นกใหญ่พิฆาต" สะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยแบ่งออกเป็นผลเสมอ 3 นัด ส่วนอีก 6 นัดที่เหลือนั้น แพ้รวด !!!


ซึ่งกว่าจะมาปลดล็อค 3 คะแนนแรกได้ พวกเขาก็ต้องรอกันจนถึงนัดที่ 10 ในเกมที่เจอกับจันทบุรี เอฟซี ชัยชนะแรกของฤดูกาลจึงมาถึงอย่างเป็นทางการ (ชัยนาทฯ ชนะ 3-2)

นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่อดีตทีมเจ้าบุญทุ่มอย่างชัยนาทฯ ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้ แต่เมื่อดูจากปัจจัยบางอย่างแล้ว ก็ทำให้เข้าใจได้แบบไม่ยาก

เริ่มตั้งแต่การไม่ต่อสัญญากับผู้เล่นหลายราย ทั้ง จาตุรงค์ พิมพ์คูณ กองหน้าดีกรีอดีตเยาวชนทีมชาติไทย ปฐมทัตน์ สุดประเสริฐ นายทวารที่มีสถิติการเซฟเป็นอันดับต้นๆ ของศึกไทยลีก 2 หรือ เกร็ก ฮูล่า เดอะแบกในแดนหน้าสัญชาติฝรั่งเศส 


ถึงตรงนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการปล่อยตัวนักเตะเหล่านี้ออกไป ย่อมส่งผลกระทบกับทีมอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งสาเหตุที่ทีมไม่สามารถรั้งบรรดาแข้งมากฝีมือดังกล่าวเอาไว้ได้นั้น ก็เป็นเพราะงบประมาณในการทำทีมที่ลดน้อยลงทุกปี อันเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซบเซา และนั่นก็ส่งผลให้แทบไม่มีผู้สนับสนุนเข้ามาสู่สโมสรเลย หรือถ้ามีก็คงเป็นเจ้าเล็กๆ ไม่ใช่รายใหญ่และทุนหนาแน่นอน 

เอาเป็นว่ามันย่ำแย่จนถึงขนาดที่ผู้จัดการทีมอย่าง "บิ๊กป็อป" วัชรศักดิ์ สงวนศักดิ์ ยังเคยโพสต์ลงโซเชียลมีเดียของตัวเองว่า “พวกเรากำลังพยายามปรับตัวเพื่อให้ทีมชัยนาทยังคงอยู่ต่อไป พวกเราอาจเคยเป็นทีมใหญ่ในสายตาแฟนบอล แต่ตอนนี้มันไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว อันนี้ต้องพูดความจริง”


จากเหตุผลดังกล่าวที่แม้จะยกตัวอย่างมาเพียงแค่ข้อเดียว แต่มันถือเป็นเรื่องสำคัญและใหญ่มากพอที่จะทำให้ชัยนาท ฮอร์นบิล แปรสภาพจากทีมเจ้าบุญทุ่ม มาเป็นเพียงแค่ทีมที่ประคองตัวเพื่ออยู่ให้รอดในแต่ละฤดูกาล

ซึ่งในปีนี้ แม้พวกเขาจะเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก แต่เมื่อปลดล็อกชัยชนะได้แล้ว ก็ได้แต่หวังว่าทิศทางของทีมต่อจากนี้ จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

ก็เหมือนอย่างที่สุภาษิตไทยบอกเอาไว้นั่นแหละ ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ บางทีอาจเป็นเรื่องของความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น บางทีอาจเป็นเรื่องของบรรยากาศในห้องแต่งตัวที่กำลังจะดีขึ้น 

อย่าลืมว่านี่คือสโมสรที่ลงทุนสร้างคลับเฮาส์เป็นทีมแรกๆ ของเมืองไทย แน่นอนว่ามันเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับเหล่านักเตะ ทั้งยังมีเรื่องของการทำอคาเดมี่ที่นับวันเริ่มจะผลิดอกออกผลขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่กี่วันที่ผ่านมา เด็กๆ จากโรงเรียน อบจ.ชัยนาท ก็พึ่งเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอล 7 คน แชมป์กีฬา 7HD ได้สำเร็จ แม้จะได้เพียงแค่ตำแหน่งรองแชมป์ก็ตาม


พวกเขาอาจเริ่มต้นด้วยความกระท่อนกระแท่น และเจอพายุหนักมาเยอะก็จริง แต่เมื่อมันสงบลงและมีแดดออก ก็เท่ากับว่าพายุเหล่านั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว อาจยังไม่สดใสมากพออย่างที่ต้องการ แต่อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าตอนที่ฟ้าหม่นอยู่มากโข

และแม้จะยังไม่ได้ฝันหวานถึงการลุ้นเลื่อนชั้น แต่พื้นที่ท้ายตารางตรงนั้น บอกตรงๆ ว่าพวกเขาก็ไม่สมควรลงไปอยู่เลย

สำหรับผลการแข่งขันในนัดล่าสุด พวกเขาพึ่งเปิดบ้านพ่ายทีมแกร่งอย่างหนองบัว พิชญ ไปด้วยสกอร์ 1-2 

แม้จะเป็นฝ่ายปราชัย แต่เมื่อดูตารางคะแนนแล้ว ก็ยังไม่ได้น่ากลัวจนเกินไป เพราะแต้มในโซนแดงนั้นยังไม่หนีห่างกันมาก ยังมีโอกาสที่พวกเขาจะติดปีกเร่งฝีเท้ากลับมาได้อยู่  


ถึงตรงนี้ ก็ได้แต่เอาใจช่วยให้ทิศทางต่อจากนี้ของชัยนาท ฮอร์นบิล ดีขึ้นเรื่อยๆ และขอให้ผลงานของพวกเขากระเตื้องขึ้นในนัดต่อๆ ไป

ฟ้าหลังฝนมักสวยงามเสมอ และครั้งนี้ก็ขอให้เป็นแบบนั้นเช่นกัน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด