:::     :::

เข้าทางปืน

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ โรงเตี๊ยมลูกหนัง โดย ทอมมี่ ท่ามะกา
4,026
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาร์เซน่อล ไม่ปล่อยโอกาสทองในการขึ้นจ่าฝูงหลุดมือ แม้ต้องลุ้นเหนื่อยจนถึงช่วงท้ายก่อนได้ ไค ฮาแวร์ตซ์ เป็นฮีโร่ทำประตูชัยเบียดชนะ เบนท์ฟอร์ด หวุดหวิด

ก่อนก้าวเท้าลงสนาม มิเกล อาร์เตต้า และลูกทีมได้รับข่าวดีเมื่อคู่บิ๊กแมตช์ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ลงเอยด้วยการเสมอ 1-1

ดังนั้น อาร์เซน่อล ขอเพียง "ชนะ" ก็จะขึ้นจ่าฝูงทันทีเพราะคะแนนเกาะกลุ่มกันอยู่แล้ว 

มิเกล อาร์เตต้า มีขุมกำลังที่สมบูรณ์มากขึ้นหลังพ้นช่วงเบรกทีมชาติ มาร์ติน โอเดการ์ด และ กาเบรียล เชซุส ฟิตกลับมาลงตัวจริงอีกครั้ง ขณะที่ เบน ไวท์ หายเจ็บเช่นกัน แต่มีชื่อสำรอง

ปีกสองข้างยังเป็น กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กับ บูคาโย่ ซาก้า ส่วน เลอันโดร ทรอสซาร์ ขยับไปเล่นตรงกลางในตำแหน่งหมายเลข 8 เดแคลน ไรซ์ จึงถอยไปปักหลักเกมรับซึ่งหลายนัดก่อนหน้านี้เป็น จอร์จินโญ่ รับผิดชอบ 

ตำแหน่งผู้รักษาประตูสลับให้ อารอน แรมส์เดล กลับมาเฝ้าเสาเกมลีกครั้งแรกในรอบ 12 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่นัดชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 ในต้นเดือนกันยายน เนื่องจาก ดาบิด ราย่า ติดสัญญายืมตัวไม่สามารถเจอต้นสังกัดจริงได้

11 ตัวจริงชุดนี้ใช้ได้เลย เป็นชุดที่แฟนปืนใหญ่อยากเห็นในสภาพทีมปัจจุบันที่ไม่นับตัวเจ็บยาวอย่าง ยูร์เรียน ทิมเบอร์ และ โธมัส ปาร์เตย์  

ส่วน เบรนท์ฟอร์ด แม้อยู่กลางตาราง แต่เป็นทีมที่เล่นในบ้านได้แข็งแกร่ง และแพ้เพียงนัดเดียวจากเกมลีก 10 นัดหลังสุดในรังตัวเอง

โธมัส แฟร้งค์ ยังคงวางระบบ 5-3-2 ในการสู้กับ อาร์เซน่อล ผู้เล่นเกมรุกมีไม่เยอะ แต่ในเวลาเพรสซิ่งแดนบนกลับทำได้อย่างยอดเยี่ยม


เดแคลน ไรซ์ ช่วยทีมรอดพ้นการเสียประตู

การไล่บีบไล่กดดันตั้งแต่แดนหน้าของแข้งเดอะ บีส์ สร้างปัญหาให้ทีมปืนใหญ่ไม่น้อย และเกือบได้ประตูออกนำตั้งแต่ 14 นาทีแรกจากความผิดพลาดของ อารอน แรมส์เดล 

จังหวะที่ไม่น่ามีอะไร แต่ แรมส์เดล กลับยึกยักลังเลในการเปิดบอล โยอัน วิสซ่า จึงเข้าถึงตัวและแย่งได้ก่อนป้ายต่อให้ ไบรอัน เอ็มเบวโม่ ซัดเน้นๆ ที่ใครเห็นก็ต้องบอกว่า "เรียบร้อย" 

ทว่า อาร์เซน่อล ยังรอดตัวเพราะ เดแคลน ไรซ์ อ่านสถานการณ์ได้ทันวิ่งมารอเคลียร์บนเส้นทำให้สกัดได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด

เป็นจุดเปลี่ยนของเกมเลยก็ว่าได้ หาก อาร์เซน่อล เสียประตูนี้จะไม่ใช่แค่ตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อน แต่ความมั่นใจของ แรมส์เดล จะพังทลายหายไปอย่างมากด้วย 

ต้องชม เดแคลน ไรซ์ เป็นพิเศษกับจังหวะนี้ เซฟทั้งทีมและเซฟ แรมส์เดล ด้วย

หลังพลาดจังหวะแรกไปแล้ว แรมส์เดล เหมือนเรียกสติกลับมาได้ไม่เต็มที่ การขว้างบอลง่ายๆ ก็เสียจังหวะเหวี่ยงบอลลงพื้นเด้งไม่ไกลตัว ยังดีที่ไม่ถูกลงโทษอีกครั้ง

อาร์เซน่อล หาช่องเจาะไม่ง่ายเพราะเกมรับ เบรนท์ฟอร์ด ยืนตำแหน่งดีมาก ลูกกลางอากาศจัดการได้เกือบหมด แถมเก็บบอลสองได้บ่อย กล้าเล่นกล้าต่อบอล 

ปืนใหญ่ต้องรอจนถึงท้ายครึ่งแรกถึงมีโอกาสยิงตรงกรอบ และส่งบอลเข้าประตูได้ด้วย ทว่าก็ถูกจับล้ำหน้าในจังหวะตามโหม่งซ้ำของ เลอันโดร ทรอสซาร์ หลังจาก กาเบรียล เชซุส โหม่งทีแรกติดเซฟ


ทรอสซาร์ โหม่งดาบสองได้แล้วแต่โดนจับล้ำหน้า

ก่อนเกม อาร์เตต้า พูดถึง เบรนท์ฟอร์ด เป็นทีมที่เล่นลูกโด่งได้ดี และเข้าใจวิธีการเล่นของผู้จัดการทีมดี แต่ อาร์เซน่อล ก็เน้นเปิดโด่งเข้าเขตโทษบ่อยครั้ง แม้เปอร์เซ็นต์ชนะเป็นรอง

จริงๆ แล้วการเปิดบอลเข้าเขตโทษของ อาร์เซน่อล ทำได้ค่อนข้างแม่นในเกมนี้ เพียงแต่เป็นแนวรับ เบรนท์ฟอร์ด ที่เชี่ยวชาญในการเล่นแบบนี้อยู่แล้วจึงโหม่งเคลียร์ได้บ่อยครั้ง หากเป็นทีมอื่น อาร์เซน่อล อาจได้โอกาสลุ้นทำประตูมากกว่านี้

ยิ่งเวลาผ่านไป ความกดดันยิ่งตกอยู่กับฝั่งทีมเยือนมากขึ้น ขณะที่ เบรนท์ฟอร์ด ยังคงเล่นได้ตามแผนที่วางเอาไว้ แถมครึ่งหลังมีสัดส่วนการครองบอลและโอกาสลุ้นยิงประตูมากกว่าครึ่งแรกอีกด้วย

อาร์เตต้า เปลี่ยนเกมครั้งแรกเป็นการเปลี่ยนตามตำแหน่งถอด กาเบรียล เชซุส ออกแล้วส่ง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ เล่นหน้าเป้า แต่หัวหอกชาวอังกฤษก็ไมได้สร้างความกดดันให้เจ้าถิ่นได้เท่าที่ควร

กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ถูกถอดออกไปอีกรายพร้อมกับมี ไค ฮาแวร์ตซ์ ลงเล่นแทน

อาร์เซน่อล มีเป้าในการโยนบอลเข้าเขตโทษมากขึ้นกับการมี ฮาแวร์ตซ์ ที่สูงกว่าแนวรุกทุกคน คอยเติมเข้าเขตโทษ และในที่สุดความพยายามก็มาสำเร็จเอาในช่วงท้ายเกมที่กำลังเข้าสู่ช่วงทดเจ็บอยู่แล้ว

ซาก้า เปิดบอลจากฝั่งขวาเลยไปเสาไกลได้น้ำหนักดีมาก บอลข้ามหัวกองหลัง ขณะที่ มาร์ค เฟล็คเค่น ก็ไม่ได้พุ่งออกมาคว้าบอล  ฮาแวร์ตซ์ จึงได้โอกาสสลัดหนีตัวประกบเข้าไปโหม่งจ่อๆ แฉลบขา เฟล็คเค่น เข้าประตู 


มุมแคบ แต่ ฮาแวร์ตซ์ ทำได้

ฮาแวร์ตซ์ สอดไปโขกได้ยอดเยี่ยมมาก ขณะที่ ซาก้า ก็เปิดบอลได้สุดยอดเช่นกัน เป็นประตูที่สมบูรณ์แบบ และมาถึงในช่วงเวลาที่บีบหัวใจ 

ฮาแวร์ตซ์ เปิดเผยหลังเกมว่ามีการซ้อมจังหวะเปิดบอลเข้าเขตโทษแบบนี้บ่อยมาก ทำงานกันอย่างหนัก และในที่สุดก็ได้ผลตอบแทน

แม้ เบรนท์ฟอร์ด จะโหมอีกรอบในช่วงทดเจ็บ แต่ อาร์เตต้า ก็ส่ง จอร์จินโญ่ และ เบน ไวท์ ลงมาช่วยเกมรับทำให้เอาตัวรอดด้วยชัยชนะที่ยากที่สุดอีกหนึ่งในฤดูกาลนี้

ก่อนหน้านี้ ฮาแวร์ตซ์ ไม่เคยยิงประตูในจังหวะโอเพ่นเพลย์ได้เลย ประตูแรกและประตูเดียวที่ยิงได้มาจากจุดโทษ แต่ลูกโหม่งประตูชัยนี้ช่วยทีมแซงขึ้นจ่าฝูงได้เลย 

เป็นชัยชนะที่สำคัญมากสำหรับ อาร์เซน่อล เพราะการลงเล่นนัดแรกหลังพ้นช่วงเบรกทีมชาติกลับมามักมีอะไรติดขัด ไม่ไหลลื่น และหลายคนก็ล้าจากการเดินทาง 

อาร์เตต้า ได้ฉลองการคุมทีมครบ 200 นัดด้วยชัยชนะที่ทำให้ได้ขึ้นจ่าฝูง ขณะที่คนยิงประตูชัยก็เป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ ซึ่งแบกรับเสียงวิจารณ์โดยตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม

หากวันพุธนี้คว้าตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อีกก็คงจะเป็นสัปดาห์ที่สวยงามอย่างยิ่งสำหรับ อาร์เซน่อล 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})