:::     :::

ร่างปีศาจที่ยังอยู่ และเส้นทางกลับสู่โรงละครของ Greenwood

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
3,628
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การเรียกฟอร์มเก่งของเมสัน กรีนวู้ด ที่กำลังเป็นไปได้ด้วยดีมากๆที่เกตาเฟ่นั้น เริ่มทำให้แฟนแมนยูไนเต็ดมองเห็นความหวังในการได้เพชรแห่งพรสวรรค์เม็ดนี้กลับมาสู่โอลด์แทรฟฟอร์ดเรื่อยๆ เมื่อ Process ทั้งหมดเดินหน้าไปอย่างถูกต้อง อนาคตที่โอลด์แทรฟฟอร์ดก็ค่อยๆชัดเจนมากขึ้นทีละนิด

น่าจะเรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุดแล้วสำหรับ "ประตู" สุดสวยที่ เมสัน กรีนวู้ด ยิงให้กับสโมสรเกตาเฟ่ ในการตีเสมอและสุดท้ายพาทีมเอาชนะอัลเมเรียได้ด้วยสกอร์ 2-1 จากลูกยิง 'ใบมีดโกนแห่งเทพ' อัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเฉือนตัดอากาศเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม นอกจากมันจะทำให้คนที่ตามเชียร์อยู่ได้ดีมีความสุขแล้วนั้น มันทำให้เราเริ่มที่จะเห็นแล้วว่า

"กรีนวู้ดคนเดิมยังคงอยู่"

ร่างปีศาจที่เราคุ้นเคยค่อยๆกลับมาทีละนิดแล้ว

เพราะสิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องน่ากังวล ไม่ใช่ประเด็นว่าเขาจะได้กลับมาเล่นให้แมนยูอีกครั้งหรือไม่ แต่เราอยากจะรู้ว่าประสิทธิภาพเก่าๆที่เมสันเคยทำได้ มันยังอยู่ดีหรือเปล่า เพราะการห่างหายจากฟุตบอลไปเป็นแรมปี สภาพร่างกายนอกจากจะต้องดรอปลงแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าความมั่นใจเดิมๆ สัมผัสเดิมๆยังอยู่หรือไม่

ประตูนี้น่าจะเป็นคำตอบเลยว่ามันยังอยู่ครบ เหมือนอย่างคำกล่าวที่ว่า Form is temporary, class is permanent คงจะเป็นเรื่องจริงที่สามารถพิสูจน์เห็นได้อีกครั้งว่า คลาสบอลของกรีนวู้ดมันก็อยู่ตรงนั้น ไม่เคยหายไปไหนเลย ขอแค่เรียกพละกำลังร่างกายกลับมาได้ เรียกความมั่นใจและความสุขในการเล่นฟุตบอลกลับมาได้ ฝีเท้าของเขาก็จะสามารถคืนชีพกลับมาได้เสมอ

สถิติการลงเล่นในฤดูกาลนี้กับเกตาเฟ่ กรีนวู้ดใช้เวลาปรับตัวนิดเดียวแค่ช่วงเกมนัดแรกๆ หลังจากนั้นแทบจะทุกนัด กรีนวู้ดมีส่วนร่วมในการทำประตูกับเกตาเฟ่มาตลอดแทบทุกเกม จาก 11 เกมการลงเล่น กรีนวู้ดยิงไป 4 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ในทุกๆรายการ สร้าง goal contribution ไป 7 ลูกจาก 11 นัดเฉลี่ยแล้วเขามีส่วนร่วมในการทำประตู 0.63 ประตูต่อ 1 เกม ก็ถือว่ายอดเยี่ยมเลย

และเราเชื่อว่าจะดีกว่านี้อีก 

สังเกตการเล่นของกรีนวู้ดกับเกตาเฟ่ น้องจะเป็นตัวเล่นที่ทำหน้าที่หลายอย่าง ไม่ใช่แค่รอบอลตัดเข้าใน แต่ยังเป็นตัวเล่นบอลที่สร้างสรรค์เกมรุกโจมตีคู่แข่งด้วย พาบอลไปกับตัว และโจมตีด้วยการตัดเข้าในมายิงได้ในทุกระยะ 

ซึ่งจากประตูล่าสุดจะเห็นเลยว่ามันเป็นการยิงจากระยะทางที่ค่อนข้างไกล แต่ก็ยังสำเร็จโทษคู่แข่งได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปจนถึงพื้นที่สุดท้าย เพราะงั้นบทบาทการเล่นในฐานะเป็นตัว Forward ก็ยังคงเป็นจุดเด่นของกรีนวู้ดที่ใช้การสร้างสรรค์เกมรุกได้อย่างหลากหลาย แม้กระทั่งการหุบเข้าไปโหม่งก็ยังมีให้เห็นเหมือนกัน

คุณสมบัติเดิมๆอยู่ครบ สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาคือวุฒิภาวะในการเล่น ทั้งในฐานะนักฟุตบอล และในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว เขาจะมีพื้นฐานความคิดในการเล่นฟุตบอลที่ดีกว่าเดิมแน่นอน

แคปหนวดแอบไปกดไลก์กรีนวู้ด

เรื่องความสามารถในฐานะนักฟุตบอล เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร เราควรให้โอกาสกรีนวู้ดได้พัฒนาและฝึกฝีเท้าแบบ "เต็มๆ" กับเกตาเฟ่ไปก่อนทั้งฤดูกาล เพราะตอนนี้เขาขึ้นมาเป็นสตาร์ของเกตาเฟ่ไปแล้ว และได้รับโอกาสแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย

การที่จะรีบไปดึงกรีนวู้ดกลับมาช่วยแมนยูไนเต็ดในช่วงหน้าหนาวนี้ อาจจะทำให้กระบวนการเรียกฝีเท้า เรียกฟอร์มกลับมาของกรีนวู้ดนั้นหยุดชะงัก ในยามที่น้องได้เล่นอย่างอิสระ ไม่ต้องมีสื่อไปตามจับจ้องเหมือนอยู่อังกฤษ ตอนนี้อยู่กับเกตาเฟ่ไปก่อนยาวๆจะเป็นผลดีกับสภาพจิตใจ และการเรียกฝีเท้ากลับคืนมาของเขา

แต่สิ่งที่เป็นคำถามของหลายๆคนก็คือ "เขาจะได้กลับมาอยู่แมนยูไนเต็ดหรือไม่?"

ยังเป็นประเด็นที่แฟนบอลอีกหลายๆส่วนยังไม่เข้าใจเหตุผลที่ว่า ทำไมแมนยูไนเต็ดถึงจำเป็นต้องส่งเขาออกไปยืมตัว มันไม่ใช่ว่าแมนยูจะไม่ใช้หรือจะเฉดหัวส่งแล้ว เพราะขณะนี้ เมสันก็ยังเป็นนักเตะของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอยู่อย่าง "เต็มตัว" เขาเพียงแค่ถูกส่งออกไปยืมตัวกับเกตาเฟ่เท่านั้น

เพราะอะไรสโมสรถึงยังไม่ยกเลิกสัญญาหรือเลือกที่จะปล่อยเขาขาดออกไปเลยล่ะ เก็บไว้ทำไม? ถ้าไม่ใช่ด้วยเหตุผลเดียวก็คือ สโมสรพยายามจะหาทางลงให้น้องอย่างดีที่สุดด้วยการใช้ระยะเวลาในการคลี่คลายสถานการณ์เบื้องต้น ซึ่งเป็นผลดีกับทุกฝ่าย

เมสัน กรีนวู้ด ได้ใช้เวลาแบบ "สบายๆ" ในการเรียกฝีเท้า เรียกความฟิต เรียกจังหวะการเล่นเดิมๆกลับมาที่เกตาเฟ่ สโมสรซึ่งมีสเกลขนาดไม่ใหญ่โต ไม่ถูกจับจ้อง และผลงานการแข่งขันไม่มีความกดดันใดๆทั้งสิ้น

คิดเอาง่ายๆว่า กับสโมสรอย่างแมนยูที่ต้องชนะทุกนัด เสมอขึ้นมานิดนึง แพ้ขึ้นมาหน่อยโซเชียลก็แทบแตกแล้ว ระดับความคาดหวังมันต่างกันมาก การอยู่กับสโมสรอย่างเกตาเฟ่จึงเป็นโอกาสที่ดีมากๆในการใช้งานให้กรีนวู้ดได้เรียกฟอร์มแบบไม่ต้องมีอะไรมากดดัน ทั้งเรื่องของเวลา สปอตไลท์ที่จับจ้อง และเรื่องของผลการแข่งขัน

ดีต่อสุขภาพจิตของนักเตะ ดีต่อพัฒนาการ ดีกับทั้งแมนยูและเกตาเฟ่

เพราะจริงๆแล้วการปล่อยยืมตัวครั้งนี้มันก็เป็นทางลงร่วมกันแบบ วิน-วิน ทั้งคู่ เกตาเฟ่ถูกแมนยูใช้ในการเรียกฝีเท้าให้นักเตะของสโมสร ขณะที่ทางเค้าเองก็ได้นักเตะฝีเท้าดีไปช่วยงาน ซึ่งประสิทธิภาพก็ออกมาแล้วว่าเขาช่วยเกตาเฟ่ได้จริงๆ 

และเมื่อถึงเวลาสิ้นสุดฤดูกาลนี้ เราเชื่อว่าทุกอย่างมันจะกลับมาอย่างที่ควรจะเป็น

ปัญหาเรื่องของภาพลักษณ์เมสัน กรีนวู้ด จะค่อยๆเบาบางลงผ่านกาลเวลา รวมถึงความคลางแคลงใจ และข้อสงสัยเรื่องของฝีเท้า ถ้ากรีนวู้ดโชว์ฟอร์มได้ดีต่อเนื่องแบบนี้กับเกตาเฟ่ มันจะสามารถช่วยกลบ "ข้อสงสัย" ไปได้หนึ่งเรื่องเต็มๆ นั่นก็คือคำถามที่มีต่อฝีเท้าของเขาว่าจะดีพอหรือไม่ในการกลับมาสโมสร

เชื่อว่าแฟนแมนยูเกินกว่าครึ่งรู้ดีและไม่สงสัยในเรื่องนี้ พรสวรรค์ของน้องคือของจริงที่โคตรน่าเสียดายถ้าจะปล่อยให้หลุดมือไป ทำเพชรแบบนี้หล่นก็ถือว่าโง่มากๆแล้ว เพราะงั้นเราเชื่อว่า สโมสรจะหาทางทำเต็มที่แน่นอนเพื่อนำเพชรเม็ดนี้กลับมาให้ได้ 

เมื่อถึงเวลาสิ้นสุดการยืมตัว ถึงเวลานั้นสภาพร่างกายของกรีนวู้ดคงจะกลับมาสมบูรณ์เต็มที่แล้วอย่างแน่นอน กระบวนการดึงกลับมาเข้าทีมอีกครั้งน่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก ทั้งในการตอบคำถาม และการพิจารณาจากทีมสตาฟฟ์โค้ช ซึ่งเอริค เทน ฮาก เองก็ยืนยันตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาพร้อมเปิดแขนรับกรีนวู้ดเข้ามาอยู่เสมอ เพียงแค่ว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของเขาในการตัดสินใจเรื่องนี้เท่านั้นเอง ตัวเฮดโค้ชโอเคกับกรีนวู้ดอยู่แล้ว

ในยามที่ครอบครัวของกรีนวู้ดอยู่กันอย่างมีความสุขที่สเปนในตอนนี้ และการจะกลับมายังถิ่นฐานบ้านเกิดอีกครั้งในฐานะ "ครอบครัว" ที่มีความสุขและเติมเต็มขึ้นกว่าเดิม เราเชื่อภาพของปัญหาเดิมๆมันจะหายไปเยอะ และกลายเป็นมุมมองในเชิงบวกที่เราเห็นแล้วว่า คนๆหนึ่งที่เคยทำผิดไปแล้ว สามารถแก้ปัญหาและสร้างครอบครัวที่อบอุ่นได้ ในการยอมรับทางสังคมมันจะต้องดีขึ้นในเรื่องนี้

การกลับมาแมนยูไนเต็ด จึงไม่ใช่เรื่องที่ว่า สโมสรจะสนับสนุนการกระทำผิดหรืออย่างไร ไม่งั้นแปลว่า เกตาเฟ่สนับสนุนคนทำผิดงั้นหรือ? มันก็ไม่ใช่ 

สิ่งที่เหลืออยู่หลังจากที่ Process ของภารกิจเรียกฝีเท้าที่สเปนเสร็จสิ้น หลังจากนี้จึงเป็นเรื่องการตัดสินใจของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดล้วนๆว่า จะเอายังไงต่อกับเรื่องนี้ จะกล้าพอที่จะ "มองข้าม" เสียงนกเสียงกาที่ไม่ยอมให้อภัยเด็กคนนี้หรือไม่

เสียงวิจารณ์ที่ยังไม่ยอมรับจากภายนอกมันก็เป็นสิทธิ์และมุมมองของคนเหล่านั้น แต่อย่าให้มันมากระทบกับโอกาสและอนาคตของคนๆหนึ่งที่พยายามแก้ไขตัวเองอย่างดี และทุกอย่างก็เป็นไปในทิศทางบวกมากขึ้นเรื่อยๆ 

การดึงกรีนวู้ดกลับมาสู่สโมสร ในยามที่ฝีเท้ากลับมาเต็มเปี่ยม ครอบครัวมีความสุข และแฟนบอลส่วนใหญ่ก็ยอมรับได้ มันควรจะต้องมีพลังมากกว่าแค่คำพูดคำวิจารณ์ของภายนอกแน่นอน สิ่งที่แมนยูไนเต็ดควรคำนึงถึง ควรจะเป็นนักเตะของตนเอง และ แฟนบอลของตนเองมากที่สุดยิ่งกว่าอะไรบนโลกนี้

เราเข้าใจดีว่าภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญ แต่ถามคำเดียวว่า เกตาเฟ่เอากรีนวู้ดไปใช้งาน พวกเขาเสียภาพลักษณ์อะไรหรือไม่ กลายเป็นสโมสรสนับสนุนคนผิดเลยหรือเปล่า? 

ไม่เลยสักนิด

เพราะฉะนั้นแล้ว แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไม่จำเป็นต้องคิดอะไรเยอะ ถึงเวลาซีซั่นหน้าก็ดึงตัวกรีนวู้ดกลับมาเข้าทีมได้เลยโดยตรง ต่อให้มันจะมีเสียงวิจารณ์อะไรเล็กๆน้อยๆเข้ามา ถ้าไม่สนใจ และแน่วแน่พอที่จะทำ เชื่อเหอะว่า ปากหอยปากปูเหล่านั้นมันไม่มีทางที่จะมาตามวิจารณ์อะไรได้ตลอดเวลาหรอก สักวันนึงมันก็เงียบหายไปเอง ถ้าสโมสรหนักแน่นในเรื่องนี้

และเราเชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะจนบัดนี้ เมสัน กรีนวู้ด ก็อยู่ในสถานะที่สโมสรพยายามอย่างดีในการจะรักษาเอาไว้ให้ได้ เพราะงั้นเราเชื่อว่า "การคัมแบ็คสู่โอลด์แทรฟฟอร์ด" จะต้องเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน

Process ทุกอย่างของโปรเจ็คการกลับสู่มาตุภูมิของเมสัน กรีนวู้ด กำลังดำเนินไปได้อย่างดีตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น เมื่อสภาพร่างกายและฝีเท้าในฐานะนักฟุตบอลกลับมา

ที่เหลือก็แค่เตรียมตั๋วเครื่องบินให้พร้อม แล้วบินกลับสู่เกาะอังกฤษได้เลยในซีซั่นหน้า และเราเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ระหว่างนี้ก็เรียกฟอร์มไปเรื่อยๆนะไอ้น้องชาย

#BELIEVE

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด