:::     :::

"กษิดิศ กาฬสินธุ์" ดาวรุ่งเมืองจัน ดาวเด่นฉลามชล

วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
754
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นี่คือหนึ่งในแข้งจาก จ.จันทบุรี บ้านเดียวกับ "เจ้ามิค" ยศกร บูรพา ที่เขาหอบความฝันเข้ามาทำการคัดเลือกติดเป็นขุนพล ฉลามชลจูเนียร์ ตั้งแต่อายุ 11 ปี พร้อมกับใช้ฟุตบอลเป็นเครื่องนำพาชีวิตในวัยเด็ก รวมทั้งเป็นกัปตันทีมรร.ท่าข้ามพิทยาคม อีกด้วย

เรากำลังกล่าวถึง กษิดิศ กาฬสินธุ์ กองกลางตัวรับที่ในวัย 19 ปี เขาสามารถยึดตัวหลักของ “ฉลามชล” ในยุคที่มี มาโกโตะ เทกุระโมริ กุมบังเหียน โดยเป็นการออกสตาร์ทตัวจริงในแดนกลางร่วมกับพี่ๆ ที่เขาเติบโตตามขึ้นมา ทั้ง กฤษดา กาแมน และ สหรัฐ สนธิสวัสดิ์

อย่างไรก็ตามการก้าวขึ้นมามีวันนี้ได้ “เจ้าปั๊ป” ก็ต้องใช้เวลาอยู่นานพอสมควร ใน 3 ปีมานี้ เขาเล่นมาแล้วทั้งหมด 3 ดิวิชั่นของเมืองไทย กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง เราไปดูการเส้นทางลูกหนังของเด็กหนุ่มคนนี้กัน


ก้าวสู่เส้นทางอาชีพในวัยเพียง 16 ปี

นับแต่เข้ามาอยู่กับ ชลบุรี เอฟซี อคาเดมี ในวัย 11 ขวบ เขาใช้เวลาทั้งหมดทุ่มเทให้กับฟุตบอลที่หลงรัก และได้โอกาสจาก “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานเทคนิคของสโมสร เริ่มต้นจากการส่งชื่อไปให้กับทีม บ้านบึง เอฟซี เพื่อลุยศึกไทยลีก3 ฤดูกาล 2020/21 ด้วยวัยเพียง 16 ปี

นั่นคือเวทีที่เขาได้สำแดงศักยภาพให้ได้เห็นว่า “อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น” จากสไตล์การเล่นที่แข็งแกร่ง ไม่เกรงกลัวการเข้าปะทะกับรุ่นใหญ่ มีเหลี่ยมบอลและชั้นเชิงในการเอาตัวรอด จนได้รับเสียงชื่นชมจากบอร์ดบริหารอย่างมากในช่วงเวลาดังกล่าว

และในช่วงที่ชื่อเสียงเขากำลังเพิ่มพูนขึ้นมา “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ กุนซือ ชลบุรี เอฟซี ในตอนนั้น เคยแอบไปซุ่มดูฟอร์มของไอ้หนูคนนี้ ทั้งตอนเล่นให้ บ้านบึง เอฟซี รวมทั้งโรงเรียนท่าข้ามพิทยาคม ก่อนตัดสินใจส่งชื่อลุยทีมชุดใหญ่ในเลกสองของซีซั่นนั้นทันที


เติบโตแบบก้าวกระโดดกับ “อุทัยธานี เอฟซี”

ฤดูกาล 2021/22 เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ “เจ้าปั๊ป” อย่างแท้จริง เมื่อ อุทัยธานี เอฟซี ภายใต้การคุมทัพของ "น้าเทิด" เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่ตัดสินใจขอยืมตัวเขาจาก ชลบุรี เอฟซี มาพร้อมกับ ณัฐพงษ์ ไชยดี, พงศกร ตรีสาตร์ และ วรวุฒิ สุขุนา เพื่อลุยไทยลีก3 แม้ในช่วงแรกของเขาด้วยวัย 17 ปี ซึ่งอาจจะยังบ่มเพาะได้ไม่เข้าที่นัก เขาถูกโค้ชส่งให้ไปอยู่บ้านเดียวกับ ดัสกร ทองเหลา และ มงคล ทศไกร เพื่อให้เรียนรู้จากรุ่นพี่ในทุกๆ ด้าน ในการที่จะเป็น “นักเตะอาชีพ” พร้อมกับยึดตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟฝั่งขวา ในระบบ 3 กองหลังในเวลานั้นทันที

แม้จะเผชิญความยากลำบากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทว่าเขากับทีมก็สามารถผ่านพ้นมาได้ จนเขากลายเป็นส่วนสำคัญในการพาสโมสรคว้าแชมป์ไทยลีก 3 โซนเหนือ ต่อเนื่องมาถึงการเป็นแชมป์ทั่วประเทศ แบบต้องจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร


ผิดหวังจาก T2 แต่ไม่ท้อ กลับมาสู้ต่อที่เมืองชล

เมื่อประสบความสำเร็จกับ อุทัยธานี เอฟซี หลายคนคงจะคิดว่า “เจ้าปั๊ป” น่าจะได้อยู่ช่วยต่ออีกซีซั่น ทว่า “โค้ชเตี้ย” กุนซือของ ชลบุรี เอฟซี เห็นพัฒนาการเติบโตของดาวเตะเกมรับสายเลือดเมืองจันรายนี้ จึงเรียกตัวกลับไปเป็นทางเลือกในทีม

ตลอดในเลกแรกของฤดูกาล 2022/23 เขาลงสนามให้กับ  "ฉลามชล" ในเลกแรกไปทั้งสิ้น 5 นัด (ตัวจริง 1 นัด สำรอง 4 นัด) ก่อนจะย้ายแบบยืมตัวอีกครั้งในฐานะสมาชิกใหม่ของ สมุทรปราการ ซิตี้ ซึ่งช่วงแรกๆ เขามีโอกาสเล่น เพราะ “โค้ชโบ้” จักรพันธ์ ปั่นปี ลูกหม้อของ ชลบุรี ยังอยู่คุมทีม 

แต่เมื่อแยกทางโอกาสของเขากลับน้อยลงกว่าเดิม จนถูกส่งตัวกลับมาอยู่กับ “ฉลามชล” ตั้งแต่ก่อนจบซีซั่น ซึ่งในช่วงที่เขาใช้เวลาฝึกซ้อมเพื่อปรับปรุงข้อบกพร่องและฮีลใจตลอดหลายเดือน จนกระทั่งมีข่าวว่า มาโกโตะ เทกุระโมริ กำลังจะมากุมบังเหียน ทำให้เขาเริ่มตื่นตัวขึ้นมาทันที ว่าเวลาของเขาอาจจะมาถึงแล้ว


โอกาสจาก “ขงเบ้งญี่ปุ่น” ที่ไว้วางใจฝีเท้า

การเข้ามาของ “เทกุซัง” ด้วยสัญญาระยะยาว 2 ปี พร้อมกับประกาศว่า จะดูฟอร์มทุกคนตลอดการปรีซีซั่น เสมือนเป็นการประกาศเอาไว้เลยว่า “อายุไม่เกี่ยว ใครเจ๋งมีโอกาสไปต่อ” ทำให้เป็นการเปิดปุ่มสตาร์ทฟอร์มที่หลับไหลของ “เจ้าปั๊ป”ออกมาทันที

ด้วยสไตล์การเล่นแบบมดงาน ในบทบาทกองกลางตัวทำลายเกมคู่แข่งก่อนจะถึงหน้าบ้าน จัดการจ๊อบที่ได้รับมอบหมายได้อย่างหมดจด ทำให้เขากลายเป็นตัวหลักของ มาโกโตะ เทกุระโมริ ในแดนกลางร่วมกับสองรุ่นพี่ที่เติบโตมาจากอคาเดมีอย่าง กฤษดา กาแมน และ สหรัฐ สนธิสวัสดิ์

เขาติดทีมชาติไทย ยู 23 ชุดชิงแชมป์อาเซียน รอบคัดเลือก ด้วยการแบกอายุถึง 5 ปี และตอนนี้ก็ยังอยู่ในข่ายทางเลือกของชุดชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศกาตาร์ ในช่วงกลางปี 2024 เพื่อชิงตั๋วไปโอลิมปิก นับเป็นฤดูกาลที่ฟอร์มของเขาก้าวกระโดดอย่างมากเลยทีเดียว


เห็นการเติบโตของ “เจ้าปั๊ป” นอกจากเรื่องฝีเท้าแล้ว ยังเด่นชัดในเรื่องคาแรคเตอร์ ที่มีความกระหายชัยชนะ และดุดันในเกม เขาถือเป็นอีกหนึ่งเจเนอเรชั่นใหม่ของ “ฉลามชล” ที่ก้าวขึ้นประดับวงการลูกหนังเมืองไทยได้อย่างน่าชื่นชมอย่างแท้จริง


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด