นอกจากนั้นในปีเดียวกัน “นกใหญ่พิฆาต” ยังได้คว้าตัว ริคาร์โด้ ซานโตส หอกดาวยิงชาวบราซิลวัย 31 ปี (เวลานั้น) มาเล่นในไทยลีก หนแรก และนั่นเป็นการเปิดประตูบานใหญ่ เนื่องจากหมุดหมายที่เขาไปต่อ คือ ตราด เอฟซี กระทั่งปี 2021/22 เส้นทางต่อมาถือเป็นสร้างความฮือฮาไม่น้อยเมื่อ อุทัยธานี เอฟซี ดึงเขาไปสร้างความสำเร็จในไทยลีก 3 ชนิดที่สร้างความประหลาดใจว่าดาวยิงระดับนี้จะยอมลงไปเล่นในลีกล่างสุดในระบบบอลอาชีพของเมืองไทย และจนถึงเวลานี้เป็นเวลา 3 ฤดูกาลแล้วที่เขาโลดแล่นอยู่กับทีม จนกำลังจะกลายเป็นตำนาน แต่เหตุปัจจัยอะไรที่ทำให้เขาทำผลงานระดับร่างทองได้ขนาดนี้ เราลองมาวิเคราะห์กัน

ประสบการณ์ข้นคลั่กในเส้นทางค้าแข้ง

หลังจากเขาเริ่มต้นเล่นในลีกบ้านเกิด เขาผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะมาก เริ่มต้นการค้าแข้งอาชีพกับสโมสร เบาวิสต้า เอสซี ทีมในลีกบราซิล ก่อนที่จะย้ายข้ามฟากไปเล่นที่ยุโรปในลีกสูงสุดของประเทศสวีเดนกับ คัลมาร์ เอฟเอฟ 

และอีกหลายสโมสรทั้ง แอตวิดาเบิร์ก , ยอนโคปิงส์ โซดร้า , เยอร์การ์เดนส์ ไอเอฟ รวมไปถึงสโมสร ซอนดาห์ล ทีมในลีกของประเทศนอร์เวย์ ก่อนข้ามมาเวทีลูกหนังในระดับเอเชียกับ ปักกิ่ง เหรินเหอ ทีมดังในศึกไชนิส ซุปเปอร์ลีกของจีน ต่อด้วย เซเรโซ่ โอซาก้า ยอดทีมจากเจลีก แถมลงไปเล่นลีกรองกับ ฟาเจียโน่ โอกายาม่า มาแล้ว

ด้วยประสบการณ์ในต่างแดน ผนวกกับการอยู่ทีมระดับกลางของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น ชัยนาท ฮอร์นบิล ในปี 2019 และ ตราด เอฟซี ซีซั่น 2020 ไม่แปลกใจเลยว่าการกลับมาสายเอเชีย เส้นทางหลวงหมายเลข 32 กับ อุทัยธานี เอฟซี ในไทยลีก 3 เขาจึงไม่มีปัญหาใดๆ ในการต้องปรับตัว

เข้าใจวัฒนธรรม ปรับตัวได้เยี่ยม

การอยู่ในเมืองไทยมาตั้งแต่ปี 2019 ทำให้เขาปรับตัวให้เข้ากับประเทศนี้ได้ง่ายมากๆ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ชอบใช้ชีวิตอย่างสงบกับครอบครัว ทำให้การอยู่ที่ จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นจังหวัดเกษตรกรรมแบบเรียบง่าย ตกค่ำก็ปิดไฟนอนกันเงียบสนิท เป็นจริตที่เขาเองต้องการอยู่แล้ว

ยิ่งการไปอยู่กับ ตราด เอฟซี ซึ่งทีมเป็นจังหวัดชายฝั่งทะเลทางภาคตะวันออก ยิ่งทำให้เขาได้ใช้เวลากับครอบครัวมากกว่าเดิม สมาธิทุกอย่างจึงอยู่กับฟุตบอล ไม่ได้วอกแวก แม้ว่าเขาจะช่วยทีมได้ไม่มากนักก็ตาม ทว่าก็ยังเป็นที่รักของแฟนบอล

กระทั่งไปจังหวัดเล็กๆที่อยู่ทางตอนล่างของภาคเหนือ ที่มีพื้นที่เพียง 6,730.246 ตารางกิโลเมตร อย่าง อุทัยธานี ก็ไม่ได้ทำให้เขาต้องวิ่งโร่หาแสงสี เขากลับชอบความสงบและการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ของผู้คน จนสามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมได้อย่างไร้ปัญหาในทุกที่ที่เขาไป ก่อนผลิตฟอร์มออกมาอย่างยอดเยี่ยม

เป็นผู้นำให้กับทุกคนทั้งในและนอกสนาม

เมื่อเขาปรับตัวเข้ากับประเทศไทยได้แบบไร้ที่ติ ก็ส่งผลต่อฟอร์มการเล่นในการซ้อมและช่วงลงสนาม เพราะเขามีความเป็นผู้นำอยู่เสมอ รวมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเตะทุกคนได้เห็น แม้ว่าวันนี้เขาเองจะอายุ 36 แล้วก็ตาม แต่ร่างกายยังคงแข็งแกร่งสมบูรณ์

ที่สำคัญเขายังเป็นคนคอยรวบรวมสปิริตทีมให้คงไว้ซึ่ง “ทีมเวิร์ค” โดยเฉพาะเวลาที่เขายิงได้มักจะเห็นเพื่อนๆ ทุกคนไปร่วมดีใจกับดาวเตะเลือกแซมบ้าอยู่เสมอ เนื่องจากอดีตกองหน้าของ เซเรโซ่ โอซาก้า มักจะนำเงินที่เป็นโบนัสส่วนตัวจากการทำสกอร์ได้ที่เขียนเอาไว้ในสัญญา มาเลี้ยงเนื้อย่างตามแบบฉบับบราซิลกับทุกๆคนในทีม ไม่เพียงแค่นักเตะเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคน ให้ได้มาเติมเต็มอิ่มหนำกับความสุขร่วมกัน และยังเป็นการสร้างสปิริตที่สำคัญมาตั้งแต่ยังอยู่ในไทยลีก 3 กระทั่งทุกวันนี้อยู่ในกลางตารางของลีกสูงสุด

ทัศนคติเลือดนักสู้ ทุ่มเทแบบสุดกำลัง

แม้กำลังจะเข้าปีที่ 4 ที่เขาอยู่กับทีม นับถึงตอนนี้เขาน่าจะกลายเป็น “ตำนานอุทัย” ไปแล้ว โดยพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 3 โซนเหนือ และรอบชิงแชมป์ประเทศ ก่อนก้าวมาลีกสูงสุด ซึ่งรางวัลส่วนตัวก็เยอะทีเดียว เพราะได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมกับดาวซัลโวในลีกรากหญ้า

ฝากผลงานในฤดูกาล 2021/22 ด้วยการยิงไป 30 ประตู จากการลงสนาม 29 นัด และได้รางวัลดังกล่าวเป็นสมัยที่สอง ในการเล่นไทยลีก 2 ในการเล่น 35 นัด กดไปเบาะๆ 30 เม็ด (รวมผลงานในลีกและช่วงของการเพลย์ออฟ) 

กระทั่งนำสถิติทุกอย่างมารวมกันแล้วตลอดเวลาที่เขาค้าแข้งกับ “ช้างป่าห้วยขาแข้ง” จนถึงตอนนี้กดไปแล้ว 77 ลูก ให้กับยอดทีมจากเขาสะแกกรัง ซึ่งไม่เคยมีนักเตะคนไหนของ อุทัยธานี เอฟซี ทำได้มาก่อน และมั่นใจว่านี่จะเป็นผู้เล่นที่จะถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ให้เป็นตำนานของสโมสรตลอดไปอย่างแน่นอน

ถือเป็นอีกหนึ่งแข้งนอกคุณภาพ ที่เข้ามาเล่นในลีกบ้านเรา พร้อมกับนำทัศนคติและประสบการณ์มาถ่ายทอดให้กับนักเตะรุ่นใหม่ๆได้เป็นอย่างดี ในวัย 36 ปี ของ นิยามของเขาคงต้องเลือกใช้คำว่า “ขิงแก่ในร่างทอง" ก็คงไม่ผิดนัก