ทีมปืนใหญ่เคยรั้งตำแหน่งจ่าฝูงในวันคริสต์มาส แต่ตอนนี้หล่นมาอยู่ที่ 4 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูง 5 คะแนน และตกรอบเอฟเอ คัพ ซึ่งเป็นรายการที่เคยคว้าแชมป์ได้มากสุดถึง 14 สมัย

ปัญหาของ อาร์เซน่อล ในเวลานี้คือ "เกมรุก" ที่ยิงประตูได้น้อยนิดทั้งที่สร้างโอกาสได้เพียบในแต่ละนัด

ตลอด 3 นัดหลังที่ผ่านมา ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า มีโอกาสยิงรวม 61 ครั้ง แต่เป็นประตูได้เพียงประตูเดียวในเกมที่พ่ายต่อ ฟูแล่ม 1-2

การจบสกอร์ให้เฉียบขาดคือสิ่งที่ต้องเร่งปรับปรุงให้เร่งด่วน และเป็นสิ่งที่ อาร์เตต้า ยอมรับว่า "เราไม่สามารถฉกฉวยประโยชน์ได้"

"ไม่ใช่เพียงแค่เกมนี้ แต่รวมถึงหลายเกมช่วงหลังที่ผ่านมาด้วย นั่นคือเหตุผลทำไมเราไม่ชนะ"

"ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราสมควรชนะ แต่ผลการแข่งขันก็ต่างออกไป"

ฤดูกาลนี้ อาร์เตต้า มีกองหน้าธรรมชาติในทีม 2 คนคือ กาเบรียล เชซุส และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ แต่ทั้งสองเพิ่งยิงรวมกันในลีกไปเพียง 8 ประตูเท่านั้น 

ถือว่าน้อยนิดมากเมื่อเทียบกับกองหน้าของทีมลุ้นแชมป์ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่กดให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้ว 14 ประตูแม้มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน

ขณะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็ยิงได้ 14 ประตูเช่นกันก่อนเว้นวรรคไปช่วยทีมาติอียิปต์ในศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 

โอเดการ์ด ซัดชนคานในนาทีที่ 10

ในนัดล่าสุดที่พ่าย ลิเวอร์พูล จนตกรอบเอฟเอ คัพ อาร์เตต้า เลือกใช้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ลงเล่น 'false 9' แทนที่ เชซุส ที่บาดเจ็บ ขณะที่ เอ็นเคเทียห์ เป็นเพียงสำรอง

แม้เหลือกองหน้าคนเดียวในทีม แต่ เอ็นเคเทียห์ ก็ยังนั่งข้างสนามเหมือนเดิม ไม่ต่างจากวันที่รอโอกาสเปลี่ยนตัวลงแทน เชซุส 

จริงอยู่ที่ อาร์เตต้า พูดอยู่เสมอว่าหัวหอกชาวอังกฤษเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม แต่การไม่ให้โอกาสลงตัวจริงก็เหมือนยอมรับกลายๆ ว่าลูกทีมรายนี้ยังไม่สามารถทำผลงานได้ตามที่คาดหวัง 

การดึงกองหน้าคนใหม่มาร่วมทีมในตลาดหน้าหนาวที่เปิดทำการเดือนนี้ น่าจะแก้ไขสถานการณ์ในตรงนี้ได้เพราะการสร้างสรรค์โอกาสในทีมดีอยู่แล้ว 

ในฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล สามารถแย่งบอลในพื้นที่สุดท้ายของคู่แข่งและจบด้วยการยิงได้เฉลี่ย 1.3 ครั้งต่อนัดซึ่งมีเพียง ไบรท์ตัน ทีมเดียวที่ทำได้มากกว่า 

การไล่เพรสซิ่ง ไล่บีบจนแย่งบอลและได้ลุ้นยิงคือสิ่งที่ อาร์เซน่อล ทำได้ดีเหมือนเช่นนัดล่าสุดที่ตลอดครึ่งแรกแย่งบอลในพื้นที่สุดของ ลิเวอร์พูล ได้ถึง 5 ครั้ง 

ทีมหงส์แดงไม่เคยเสียบอลในพื้นที่สุดท้ายของตัวเองในครึ่งแรกมากขนาดนี้เลยในทุกรายการที่ลงเล่น

แต่เป็น อาร์เซน่อล เองที่ไม่สามารถจบด้วยการยิงประตูได้ และมี 3 จังหวะสำคัญที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้

ถ้าบอลขึ้นหน้าอีกนิด ฮาแวร์ตซ์ น่าจะได้ยิงถนัดกว่านี้

เริ่มจากนาทีที่ 10 ที่ บูคาโย่ ซาก้า บีบแย่งบอลได้จาก โจ โกเมซ ก่อนจ่ายต่อให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้เปิดเข้ากลาง รีสส์ เนลสัน วิ่งมายิงแต่ว่ามี อิบราฮิม่า โกนาเต้ พุ่งบล็อกได้หวุดหวิด และจังหวะซ้ำของ มาร์ติน โอเดการ์ด ก็ชนคานอย่างจัง

จังหวะนี้ โอเดการ์ด มีอีกทางเลือกคือจ่าย จอร์จินโญ่ ที่มุมเปิดกว้างมากกว่า แต่พอยิงเองจึงพยายามงัดให้สูงเพื่อให้หนีตัวบล็อกที่ขวางหน้าถึง 5 คนรวม อาลีสซง ผู้รักษาประตู

เช่นเดียวกับนาที 29 เดแคลน ไรซ์ ฉกบอลตัดหน้า อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ก่อนเป็น มาร์ติน โอเดการ์ด ป้ายต่อให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ก่อนที่ดาวเตะชาวเยอรมันจะแตะเข้าในอีกรอบแล้วยิงด้วยซ้ายตรงตัว อาลีสซง

ฮาแวร์ตซ์ แต่งบอลมากจังหวะและช้าไปทำให้มีผู้เล่น ลิเวอร์พูล ลงมาขวางหลายคน และจังหวะยิงก็ไม่ได้แรงมากพอ เช่นเดียวกับทิศทางไม่ดี

และอีกครั้งในนาที 43 ที่ จาเรลล์ ควานซาห์ ออกบอลไม่ดี รีสส์ เนลสัน จึงปาดแย่งได้ บอลมาถึง มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ไหลให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ทว่าย้อนหลังไปนิดทำให้ ฮาแวร์ตซ์ ต้องเสียเวลาพาบอลเข้าไปอีกนิด และสุดท้ายยิงไม่ดีอีกตามเคย

ถ้า โอเดการ์ด ไหลขึ้นหน้าให้อีกนิด ฮาแวร์ตซ์ น่าจะวิ่งเข้าหาบอลในระยะที่ยิงได้พอดี ไม่ต้องเสียเวลาแต่งอะไรอีก

นี่คือตัวอย่างจังหวะสำคัญในเกมรุก อาร์เซน่อล ที่การจ่ายบอลในวินาทีชี้เป็นชี้ตายยังไม่ดีมากนัก และทิ้งโอกาสที่เป็นโอกาสแบบน่าจะได้ประตู (xG) ไปหลายครั้ง 

อาร์เตต้า ต้องปรับแก้ปัญหาในเกมรุกให้ได้

ในภาพรวม การไล่บีบแดนบนจนสามารถแย่งบอลและได้ลุ้นยิงประตู อาร์เซน่อล ทำได้ดีแล้ว เพียงแต่จังหวะสุดท้ายทั้้งการจ่ายบอลและการจบสกอร์ต้องดีกว่านี้

เชซุส และ เอ็นเคเทียห์ รวมถึงคนอื่นที่ได้ลุ้นยิงต้องเด็ดขาดกว่ากับโอกาสที่มี หรือไม่ก็ดึงกองหน้าคนใหม่มาเพิ่มอย่างที่แฟนบอลและอดีตนักเตะของทีมหลายคนอยากเห็น 

ขณะที่การจ่ายบอลของตัวสร้างสรรค์เกมก็ต้องมีความแม่นยำยิ่งขึ้น และเลือกทางเลือกที่ดีสุด ไม่ออกลูกกั๊ก หรือขาด-เกินจนเกินไป 

จริงอยู่ว่าผลงานช่วงนี้ไม่ดีชนะเพียงนัดเดียวจาก 7 นัดหลังในทุกรายการ แต่เส้นทางในสองภารกิจสำคัญทั้งพรีเมียร์ลีกและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยังอีกยาวไกล 

ปรับแก้ให้ถูกจุด อาร์เซน่อล จะกลับมาติดเครื่องได้อีกครั้งอย่างแน่นอน