:::     :::

บทเรียนลูกหนังของ "โมฮาเหม็ด ซาลาห์"

วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม 2567 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
580
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หากเอ่ยถึงนักเตะลิเวอร์พูล ที่สามารถยืนระยะได้อย่างยาวนาน

หนึ่งในคนที่แฟนบอลหงส์แดง คิดถึงกัน นั่นคือ “โมฮาเหม็ด ซาลาห์”การยืนระยะที่เราหมายถึง นอกจากการยิงประตูอย่างถล่มทลาย ชนิดที่เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมทุกฤดูกาลแล้ว 


การยืนระยะที่สำคัญอีกหนึ่งอย่าง นั่นคือเรื่องของการดูแลร่างกาย และสภาพความฟิต หากเรามาลองสังเกตกัน ตลอดฤดูกาลที่ผ่านพ้นไป ซาลาห์ แทบไม่เจอกับอาการบาดเจ็บที่เล่นงานเลย


ซาลาห์ สามารถเอาตัวรอดจากลีกโหดอย่างพรีเมียร์ลีก และการแข่งขันรายการต่างๆ ได้อย่างสบายๆ สถิติที่น่าสนใจบ่งบอกว่า ตั้งแต่ที่ซาลาห์ ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ตั้งแต่ฤดูกาล 2017-18 เขาลงสนามเฉลี่ยต่อฤดูกาล ในทุกรายการที่ราว 50 เกม 


ตัวเลขดังกล่าว ถือเป็นจำนวนที่มากพอสมควร หากไม่เจ็บ หรือว่าไม่แบน ซาลาห์ คือคนที่ถูกเลือกลงสนามเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ คำถามที่หลายคนสงสัย นั่นคือ ซาลาห์ สามารถทำได้อย่างไรกัน ? ด้วยสไตล์การเล่นของที่โดนกองหลังคู่แข่งไล่อัด สุ่มเสี่ยงต่อการบาดเจ็บเป็นอย่างมาก


ช่วงนี้ เราลองไปค้นหาคำตอบกันหน่อย เกี่ยวกับเคล็ดลับการยืนระยะของดาวเตะทีมชาติอียิปต์ ที่อายุของขึ้นเลข 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งในแง่ของการดูแลร่างกายตัวเอง และโปรแกรมเรื่องโภชนาการ 

หากมาดูตัวเลข ในด้านของ “ไขมันร่างกาย” เราจะพบว่าซาลาห์ แทบไม่มีไขมันส่วนเกินเลย นี่คือการวัดค่าจากนักโภชนาการมืออาชีพ ซาลาห์ สามารถทำแบบนั้น ส่วนสำคัญคือเรื่องของระบบโภชนาการ ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก


นอกจากโภชนาการที่ลิเวอร์พูล และทีมชาติอียิปต์ จัดเตรียมเอาไว้ให้แล้ว ซาลาห์ ยังมีการรับประทานอาหาร ตามโปรแกรมที่ตัวเองวางเอาไว้ สำหรับมือเช้า สิ่งที่ซาลาห์ เลือกรับประทานเป็นประจำ นั่นคือ “ปารัตตา”  ลักษณะเป็นขนมปังแคลอรี่ต่ำ ซึ่งเป็นข้อดีที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก


สำหรับมื้อเช้าของซาลาห์ ยังไม่หมดเพียงแค่เท่านั้น นอกจาก “ปารัตตา” เขายังเน้นที่ “นม” อีกด้วย เพื่อเป็นการเริ่มสร้างพลังงาน ก่อนออกไปลุยชีวิตประจำวัน ขยับมาที่มื้อกลางวัน ซาลาห์ เน้นหนักที่อาหารที่มอบโปรตีนที่สูงขึ้นมา โดยเฉพาะเนื้อสัตว์อย่าง “ไก่”  


รวมถึงการเน้นรับประทานโยเกิร์ต เพื่อเป็นการปรับสมดุล และซัพพอร์ทในเรื่องของระบบการย่อยอาหาร ปิดท้ายที่มื้อเย็น ซาลาห์ ชอบรับประทานผักอบเพื่อสุขภาพ เสริมมาด้วยซุป, สลัด และน้ำผลไม้ที่ต้องปราศจากน้ำตาลเท่านั้น


พร้อมกันนี้ ซาลาห์ ชอบกินอาหารประจำชาติของอิยิปต์ นั่นคือ “คูชารี่” ที่เหมาะกับคนที่เน้นมังสวิรัติ หากเจาะลึกลงไป “คูชารี่” มีส่วนผสมสำคัญคือ ข้าว, ถั่วเขียว มักกะโรนี โรยหน้าตามด้วยกระเทียม และซอสมะเขือเทศชนิดเผ็ด โดยจะมีหอมหัวใหญ่ทอดเป็นเครื่องเคียง


นอกจากนี้ ซาลาห์ ยังไม่แตะเครื่องดื่มมึนเมา ทำให้เขารักษาระดับร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม

เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของลิเวอร์พูล ออกมาเผยเรื่องหลังบ้านของทีมเอาไว้อย่างน่าสนใจ คล็อปป์ บอกว่า ซาลาห์ เป็นนักเตะลิเวอร์พูล ที่มาถึงสนามซ้อมเป็นคนแรก และกลับเป็นคนสุดท้ายเสมอ เพราะซาลาห์ อยากใช้เวลาพิเศษที่โรงยิม ก่อนฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม ตามโปรแกรมประจำวันของสโมสร 


การเข้ายิม เพื่อเป็นการดูแลร่างกาย ทำให้ร่างกายของซาลาห์ อยู่ในสภาพที่ฟิตสมบูรณ์อยู่เสมอ และเป็นการลดการเกิดอาการบาดเจ็บอีกด้วย ขณะที่เพื่อนร่วมทีมอย่างเทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ ออกมากล่าวบ้างว่า ซาลาห์ คือคนที่ทำงานหนักมากในโรงยิม ทำให้เขามีร่างกายที่แข็งแรง


 โดยกล่าวว่า “ซาลาห์ ถือเป็นสัตว์ร้ายในโรงยิม ผมชื่นชมเขาจริงๆ สำหรับการอุทิศตนให้กับกีฬา และความหลงใหล ในสิ่งที่เขาทำให้กับลิเวอร์พูล ผมคิดว่า เขาเป็นแบบอย่างที่ดี สำหรับนักเตะอายุน้อย และเราประทับใจในทักษะ และความคิดของเขาเสมอ”


แม้ว่าซาลาห์ อายุเข้าเลข 3 แล้ว กระนั้น เขายังคงเข้าโรงยิมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง ซาลาห์ ปรับโปรแกรมในยิม ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของกล้ามเนื้อออกไป เน้นไปที่ทุกส่วนที่มีความสำคัญ


แม้ว่านักเตะส่วนมาก มักไม่ชอบช่วงเวลาในโรงยิมมากนัก แต่กับซาลาห์ เขายังมองว่ามันเป็นเรื่องสำคัญอยู่เสมอ วินัยในการฝึกซ้อมในโรงยิม จากการมาเป็นคนแรก และกลับเป็นคนสุดท้ายอยู่เสมอ ทำให้ซาลาห์ ยืนระยะได้อย่างยาวนาน

ซาลาห์ พูดบ้างว่า หากว่าเขาไม่ได้ฝึกซ้อมตามโปรแกรมกับลิเวอร์พูล เขาจะฝึกซ้อมเพิ่มเติมด้วยตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นการยกน้ำหนัก, บอดี้เวท และพลัยโอเมตริก (การออกกำลังกายที่ใช้ความแข็งแรง และความเร็ว) เพื่อเพิ่มกำลัง และความอึดของกล้ามเนื้อ


นอกจากนี้ ซาลาห์ ยังเน้นไปที่เรื่องของการเล่นโยคะ, ว่ายน้ำ และยืดเส้นยืดสายเพิ่มเติม โดยซาลาห์ กล่าวถึงชีวิตประจำวันของเขาว่า “โดยปกติแล้ว ผมจะตื่นแต่เช้า เพื่อไปฝึกซ้อม ซึ่งจะเริ่มในตอนเช้า หรือตอนบ่าย”


“ผมใช้เวลาพักฟื้นร่างกายราว 2 ชั่วโมง ด้วยการบำบัดอาการบาดเจ็บ หรือการนวดเฉพาะทาง เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของร่างกาย จากนั้น ผมจะไปยิมที่สโมสร ซึ่งเป็นทางเลือกของนักเตะแต่ละคน หลังจากฝึกซ้อมฉันก็ยืดเส้นยืดสายและพักฟื้นอีกครั้ง


“ผมชอบไปสระว่ายน้ำที่สโมสร หรือว่ากลับไปว่ายน้ำที่บ้านของตัวเอง พยายามทำกิจกรรมให้เสร็จ ประมาณ 19.00 หรือ 20.00 น.” แม้แต่ในช่วงถือศีลอด (รอมฎอน) ซาลาห์ ออกมายืนยันว่า เขายังไม่พลาดแม้แต่นาทีเดียว ในการออกกำลังกายเหมือนที่เคยเป็น 


ซาลาห์ เปิดเผยต่อว่า ในช่วงรอมฎอน เขาตื่นนอนตอนตี 3 หลังจากที่อดอาหารในช่วงเวลากลางวัน เพื่อยกน้ำหนักในห้องออกกำลังกายที่บ้าน จากก่อนหน้านี้ ซาลาห์ ถูกจดจำภาพ ในการเป็นนักเตะที่ร่างกายผอมบาง โดยเฉพาะสมัยเล่นกับเชลซี 


ต้องขอบคุณการวางแผนควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างเคร่งครัด เขาจึงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่น่าทึ่ง

ซาลาห์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกครั้งที่อยู่บ้าน เขาใช้เวลาในการออกกำลังกาย และปรับสมดุลร่างกายด้วย “การนั่งสมาธิ” โดยกล่าวว่า “ผมพยายามนั่งสมาธิทุกวัน ราว 10-12 นาที ผมนั่งสมาธิที่บ้านเพียงลำพัง”


“บ้านผมมี 2 ห้อง สำหรับเครื่องฟิตเนสที่แตกต่างกัน ประกอบด้วยเครื่องที่ใช้สำหรับสร้างกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ บ้านของผมมีเครื่อง ไครโอเธราพี (การบำบัดด้วยความเย็น) และยังมีเครื่องปรับความดันอากาศสูง”


“ผมมักค้นหาหนทาง ในการพัฒนาสภาพร่างกายของตัวเองอยู่เสมอมา  ภรรยาบอกว่า ผมใช้เวลาอยู่กับเครื่องออกกำลังกายมากกว่าเธอเสียอีก” แม้ว่าซาลาห์ จะเป็นคนที่เข้มงวดกับตัวเองเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการออกกำลังกาย และการกิน


แต่เขาบอกว่า เขายังเหลือพื้นที่ให้ทำตามใจตัวเองบ้าง เพื่อเป็นการสร้างความแจ่มใส และผ่อนคลายให้กับตัวเองกระนั้น เขายังต้องนับแคลอรี่ เพื่อไม่ให้กินมากไป โดยกล่าวว่า  “ผมชอบกินบร็อคโคลี่, มันหวาน, ปลา, ไก่ และสลัดเป็นประจำ”


“อย่างไรก็ตาม ผมก็จะกินอาหารฟาสต์ฟู้ด ได้เหมือนกัน ผมกินพิซซ่ามากสุดก็เดือนละครั้ง นอกจากนี้ ผมยังชอบแฮมเบอร์เกอร์มาก แต่ผมพยายามไม่กินพวกมัน เพราะหลังจากกินเสร็จแล้ว ผมรู้สึกตัวเองน้ำหนักขึ้นมาเลย”


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด