ปัญหาฟุตบอลไทย
ซึ่งมีครบจบทุกลีกในประเทศ
ในลีกระดับรองที่ไร้ เทคโนโลยีอย่าง VAR เข้ามาช่วยในการตัดสิน ยังพอเข้าใจได้ เพราะผู้ตัดสินมีเวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการบ้วนนกหวีดว่า “ฟาล์ว” หรือ “ไม่ฟาล์ว” ตามแต่ดุลยพิจ และการทันเกมของกรรมการแต่ละท่าน
แต่กับไทยลีก 1 ที่มี VAR เข้ามาช่วยพิจารณา เพ่งพินิจดูภาพช้าได้ในเกือบทุกมุม เรายังพบ “ข้อผิดพลาด” อยู่ร่ำไป
จริงอยู่ว่าหลายเคส VAR ช่วยให้เคลียร์จากปัญหาในสนามหลายจังหวะ จุดนั้นเองเราก็ชื่นชมการทำงานของทีมผู้ตัดสิน
แต่มันปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ทั้งที่เมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแล้ว ควรมีเรื่องเหล่านี้น้อยลง
แต่เรากลับยังพบปัญหาตลอด
อย่างเกมล่าสุดที่ อุทัยธานี เอฟซี เปิดบ้านพบ เชียงราย ยูไนเต็ด
เกมเป็น เชียงราย บุกมานำ 1-0 และดูเหมือนจะไม่มีดราม่าอะไร จังหวะที่ บุญยเกียรติ วงค์ษาแจ่ม นายทวารเจ้าบ้านไปตะครุบขา ศนุกรานต์ ถิ่นจอม จนล้มในเขตโทษ VAR ก็ตัดสินได้ถูกต้องว่า ผู้เล่นทีมเยือนไปทำฟาล์วนักเตะเจ้าบ้านก่อน จุดโทษจึงไม่เกิดขึ้น ซึ่งก็ตัดสินได้เคลียร์
แต่จังหวะสำคัญมันเกิดขึ้นในช่วง 2 นาทีสุดท้าย
บรรพกิจ พรหมณี กองหลัง เชียงราย ปะทะกับ ริคาร์โด ซานโตส กองหน้า อุทัยธานี ซึ่งหากมองทีแรกผิวเผิน ก็เหมือนจะเป็นจังหวะฟาล์ว ตรงนี้ไม่แปลกที่ นิวัฒน์ อินสะอาด ผู้ตัดสินจะเป่าเป็นจุดโทษ
แต่ปรากฏว่าเมื่อย้อนกลับมาดู “ภาพช้า” ในหลาย ๆ มุมจากกล้องถ่ายทอดสด เราจะเห็นว่า บรรพกิจ ตาม ริคาร์โด ไม่ทันแล้ว จริงอยู่ว่ามีมือขวาง แต่จังหวะที่ ริคาร์โด ง้างเท้ายิงกลับยิงวืดจนล้มไปเอง โดยที่มีส่วนขาของ ริคาร์โด ไปสัมผัสถูก บรรพกิจ แบบบาง ๆ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้รุนแรงจนส่งผลถึงขั้นทำให้ ริตาร์โด เสียการทรงตัว หรือทำฟอร์มลงไปนอนดิ้นเจ็บแน่นอน
เมื่อเกิดความไม่ชัดเจน สิ่งที่ตามมาคือ VAR ควรส่งสัญญาณ เพื่อให้กรรมการเดินไปดูจอ ว่าเกิดการฟาล์วจริงหรือไม่ มีน้ำหนักมากพอจะเป็นจุดโทษไหม เพราะกรรมการในสนามอาจมองไม่ทันว่าเกิดการสัมผัสกันในเขตโทษรุนแรงแค่ไหน
แต่สิ่งที่เราพบคือ VAR กลับไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ มา
นั่นหมายความว่าห้อง VAR ที่ทำงานร่วมกันทั้งหมดมองว่าจังหวะนี้ “ฟาล์ว” ซึ่งภาพที่ออกมาคนดูทั้งประเทศยังเกาหัวงงว่า ฟาล์วได้อย่างไร ?
ทำให้กรรมการในเกมยังยืนยันผลตัดสินเดิมคือ “เป็นจุดโทษ”
ในมุมผู้เขียนมันไม่ควรเป็นจุดโทษใด ๆ เลย การสัมผัสเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย และไม่ได้ผลต่อการจบสกอร์ของ ริคาร์โด เลย
จังหวะนี้พูดกันอย่างตรง ๆ คือ ริคาร์โด ยิงวืดไปเอง
สุดท้ายกลายเป็น เชียงราย ที่นำอยู่เสียผลประโยชน์จากการโดนจุดโทษ จาก 3 คะแนน ที่ควรได้กลับบ้านเหลือเพียง 1 แต้ม
ไม่แปลกใจเลยที่ มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสร เชียงราย จะออกมาโพสต์ถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมนี้
น่าสนใจว่า ประธานคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท ที่นำโดย พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน (ยังอยู่ในวาระ) จะตอบสังคมลูกหนังในเคสนี้อย่างไร
รวมถึงทีมงานชุดใหม่ ที่รอการแต่งตั้งเข้ามาบริหารงานแทนขั้วปัจจุบัน จะมีการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ทั้งการทำงาน รวมไปถึงบทลงโทษผู้ตัดสิน
อีกกรณีคือ ควรพอได้แล้วกับวิธีลงโทษแบนผู้ตัดสิน แต่กลับนับรวมในสัปดาห์ที่ไม่มีฟุตบอลแข่งด้วย (แบนเที่เหมือนไม่ได้แบน)
หวังว่าทีมงานสมาคมชุดใหม่จะรื้อวิธีแก้ปัญหาเดิม ๆ แบบนี้ออกไป
ไม่เช่นนั้นก็ยังคงเป็นปัญหาอยู่ทุกยุคทุกสมัยเหมือนเดิม
PHOTO : FB Uthaithani FC