:::     :::

respect

วันพุธที่ 25 เมษายน 2561 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
16,688
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เธอเปรียบเป็นเหมือนสองคน ในร่างเดียว...

    นี่มันช่างเหมาะกับ ลิเวอร์พูล เสียเหลือเกิน อยากจะดีก็ดีอย่างไร้เหตุผล อยากจะร้ายก็ร้ายจนต้องเบือนหน้าหนี

    กับชัยชนะในเกมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โอเค สกอร์อาจท่วมท้นถึง 5-2 ความห่างในช่องว่างตั้ง 3 ลูก

    แต่!!!

    ความเสียวจะไม่มาเยือนโสดประสาทเลยถ้า โรม่า ไม่เคยสร้างปาฏิหาริย์กับ บาร์เซโลน่า ที่กรุงโรม

    นาทีนั้นใครๆ ก็มองว่า บาร์ซ่า ตีตั๋วมายังรอบตัดเชือกแน่กับสกอร์เลกแรกในบ้านตัวเอง 4-1 ทว่าใครจะไปคิดว่าทีมอย่าง โรม่า จะกลับมาเอาชนะในถิ่น 3-0 ถีบ ลีโอเนล เมสซี่ ร่วงถังไปอย่างเจ็บปวด

    ลิเวอร์พูล เริ่มต้นตามคาดด้วยนักเตะชุดที่ดีที่สุดซึ่งพวกเขาจะมีได้ในเวลานี้ แต่ยังไม่ถึง 20 นาทีแรก แผนทุกอย่างของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ต้องเปลี่ยนไป

    'ดิ อ็อกซ์' นอนกุมหัวเข่าร้องโอดโอยอยู่บริเวณริมเส้นฝั่งขวาหลังโดน อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ล้มมาทับ

    ถ้าย้อนกลับไปในช่วงต้นซีซั่น หาก อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน มีอาการบาดเจ็บ แฟนหงส์คงไม่กระวนกระวายใจขนาดนี้แน่ แต่กับตอนนี้มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้อย่างมั่นคงแล้ว

    หากไม่มีประตูสุดสวยของเขาที่ยิงผ่านมือ เอแดร์ซอน ของเขา บางที ลิเวอร์พูล อาจไม่ได้เดินมาถึงจุดนี้ก็เป็นได้

    สีหน้าเดอะ ค็อป ทั่วมุมโลกดูกังวลทันใด โชคดีที่ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ทดแทนได้อย่างไม่มีที่ติในช่วงเวลาที่เหลือ

    แต่มันจะยังไงล่ะ เพราะตอนนี้ทีมเหลือมิดฟิลด์ที่เป็นกองกลางอาชีพเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น คือ เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ไวนัลดุม ถ้าหากใครคนใดคนหนึ่งในนี้เกิดล้มหายตายจากขึ้นมา แทบไม่อยากคิด...

    ในช่วงแรก ลูกทีมของ คล็อปป์ ดูจะเกร็งๆ กันไปจนตั้งเกมตัวเองไม่ติดเลย แต่ก็อย่าว่า ทีเด็ดปีนี้อยู่ที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และแนวรับหมาป่าเหลือง-แดงก็เอาเขาไม่อยู่ตามคาด

    ซาลาห์ โชว์ความเฉียบขาดอีกครั้งด้วยลูกยิงจากเท้าซ้ายเสียบใต้คานชนิด อลิสซอน ไม่ต้องเซฟให้เสียแรงเลย เพราะพุ่งยังไงเหลี่ยมไหนก็ไม่มีทางถึง

    พอประตูแรกเกิดขึ้น เหมือนว่าพลพรรคหงส์แดงจะเลิกกดดันตัวเองเสียที

    พวกเขาเหมือนเจอจุดโจมตี โรม่า ของ ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ ได้แล้ว นั่นก็คือลูกโยนยาวจากแนวลึกที่มักจะทะลุถึงเหล่าแดนหน้าไม่ว่าจะเป็น ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่

    ด้วยความที่ โรม่า มาเล่นในระบบเซนเตอร์แบ็กสามตัว และวิงแบ็กของพวกเขาอย่าง อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ และ โคลารอฟ ก็ลอยสูงแบบไม่ยอมลงด้วย นั่นแหละคือที่มาของจุดจบ

    จริงๆ หากครึ่งแรกยังตรึงสกอร์เอาไว้ที่ 1-0 บางที โรม่า อาจไม่พังเละขนาดนี้ ซึ่งก็ต้องขอบคุณเกมสวนกลับที่ยังคงประสิทธิภาพไม่เปลี่ยน และ ซาลาห์ ก็จบที่อย่างเฉียบขาดเหมือนเดิม

    พอลงมาเล่นในครึ่งหลัง ทีมเยือนพยายามปรับทัพสู้ แต่ดูเหมือนทุกอย่างมันจะเข้าทาง ลิเวอร์พูล หมดแล้ว จนกระทั่งโดนลูกสาม สี่ ห้า จากทั้ง มาเน่ และ ฟีร์มีโน่

    นี่เป็นอีกเกมที่เหล่าแนวรุกพากันโชว์ฟอร์มร้อนแรงยิงครบทั้งแผงอีกครั้ง

    แต่เรื่องราวมันจะแฮปปี้เอนด์ดิ้งมากที่สุด หากไม่มีประตูของ เอดิน เชโก้ และจุดโทษของ ดีเอโก้ เปร็อตติ ในช่วงเวลาห่างกันไม่ถึง 5 นาที

    มันเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกันจากนัดเสมอ เวสต์บรอมวิช ที่หงส์แดงมาโดนเจาะตาข่ายช่วงท้ายอีกแล้ว

    โชคยังดีที่เสียงนกหวีดจาก เฟลิกซ์ บรีช ดังขึ้นก่อน ไม่งั้น โรม่า อาจมีฮึดมากกว่านี้ เพราะโมเมนตั้มทุกอย่างดูจะเข้าทางพวกเขาหมดแล้ว

    ว่ากันถึงเรื่องของฟุตบอลสองนัด หากมีทีมไหนที่ชนะท่วมท้นด้วยสกอร์ห่างถึง 3 ลูก ถ้าเป็นเมื่อก่อนทีมนั้นมันก็แทบจะแหย่ขาเข้ารอบไปแล้วข้างนึง

    แต่กับสิ่งที่ โรม่า ทำได้ในรอบที่แล้วมันได้ทำลายกำแพงหลายอย่างในโลกลูกหนังลงอย่างหมดสิ้น

    กับ ยูเวนตุส ที่แพ้ เรอัล มาดริด คาบ้านตัวเอง 3-0 ยังอุตส่าห์ได้กำลังใจจาก โรม่า ด้วยการไล่ยิงราชันชุดขาวคืน 3-0 ที่ซานติอาโก เบร์นาเบว แต่ดันมาโชคร้ายโดนทีเด็ดจาก ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ แจกจุดโทษอุ้มทีมของ ซีเนดีน ซีดาน และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้ารอบมาชนกับ บาเยิร์น

    ก่อนหน้านี้ในประวัติศาสตร์ของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทีมที่แพ้ก่อนด้วยสกอร์ห่างเกิน 3 ลูกแล้วพลิกกลับมาเข้ารอบได้ก็เกิดขึ้นเพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น คือ ลา กอรุนญ่า ในปี 2003-04, บาร์เซโลน่า เมื่อฤดูกาลก่อน และ โรม่า ที่เพิ่งทำได้ในรอบที่แล้ว

    หาก โรม่า คิดว่าพวกเขาเคยทำได้ และหวังจะสร้างปาฏิหาริย์อีกครั้ง หงส์แดงก็คงเห็นบทเรียนที่เกิดขึ้นกับ บาร์ซ่า และ คล็อปป์ ก็จะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่

    ทำยังไงให้ไม่เกิดเซอร์ไพรส์ที่ยักษ์ใหญ่จากโรมจะคัมแบ็กน่ะเหรอ

    "respect"

    คำเดียว สั้นๆ แต่ได้ใจความ

    เราจะเล่นด้วยความยำเกรง แต่ไม่ใช่เกรงกลัว

    เราจะเล่นแบบให้เกียรติ มิใช่เหยียดหยันว่าตนเหนือกว่าเยอะ

    เพียงแค่นั้น ตั๋วไปเคียฟคงไม่หลุดมือแน่

    จงอย่ากลัว

    เพราะเราคือ ลิเวอร์พูล ไม่ใช่ บาร์เซโลน่า

    พาสต้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด