การตัดสินใจให้เวมบลีย์ ได้จัดนัดชิงชนะเลิศ ในรอบ 3 ปีนั้นเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่สนามกีฬาแห่งชาติของประเทศอังกฤษเกิดปัญหาในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยอย่างรุนแรงระหว่างการแข่งขันยูโร 2020 นัดชิงชนะเลิศ ซึ่งเราได้เห็นกลุ่มฮูลิแกนไร้ตั๋วกว่า 5 พันคนพังรั้วเข้าสนามยึดที่นั่งว่าง และลงไปป่วนในสนามอีกด้วย

    การละเมิดดังกล่าวทำให้เอฟเอ ต้องเผชิญหน้ากับบทลงโทษ ก่อนที่ยูฟ่า จะตั้งข้อหาจากเหตุวุ่นวายเมื่อวันอาทิตย์

    อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น แต่เวมบลีย์ ก็จะยังเป็นเจ้าภาพสำหรับนัดชิงชนะเลิศอีกครั้งในช่วงเวลา 3 ปี หลังห่างหายมานาน 11 ปีนับจากเป็นเจ้าภาพยูโรเปี้ยน คัพ นัดชิงในปี 2013 ระหว่าง บาเยิร์น และ ดอร์ทมุนด์

    ขณะเดียวกันสนามอาตาเติร์ก สเตเดี้ยม ที่อิสตัลบูล ก็จะได้จัดแชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ในปี 2023

    อันที่จริงสนามตุรกีในกำหนดจัดการแข่งขันในปี 2020 และ 2021 แต่ยูฟ่า จำต้องเปลี่ยนแปลงทั้ง 2 ปีนั้นเนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิด-19

    การเปลี่ยนแปลงล่าสุดจะทำให้สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ที่มิวนิค จะเป็นเจ้าภาพนัดชิงในปี 2025 แทนที่จะเป็นปี 2023 ส่วนนัดชิงในฤดูกาลใหม่ที่จะมาถึงนี้จะเล่นกันที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก