ฟุตบอลโลก 2022

รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เจ

อาร์เมเนีย 1 - เยอรมัน 4

สนาม : วาซเกน ซาร์กิสยาน สเตเดี้ยม, เยเรวาน

อาร์เมเนีย หมดลุ้นเข้ารอบไปแล้ว แต่ยังมี เฮนริค มคิทาร์ยาน นำแนวรุกร่วมกับ ซาร์กิส อดัมยาน ส่วน เยอรมัน ที่เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้แล้ว ได้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ฟิตลงยืนหน้าเป้า และมี  โธมัส มุลเลอร์ และ ลีรอย ซาเน่ คอยปั้นเกม

เยอรมัน มีลุ้นก่อนในนาที 5 เมื่อ ลีรอย ซาเน่ หลุดขึ้นทางซ้ายก่อนปาดบอลให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ วิ่งมาแป แต่ว่าบอลชนเสาอย่างจัง

อีก 10 นาทีถัดมา อินทรีเหล็ก ออกนำ 1-0 จากการต่อบอลกันสวยทางฝั่งขวา โยนาส ฮอฟมันน์ ได้เปิดบอลไปหน้าประตูให้ ฮาแวร์ตซ์ วิ่งมาดีดจ่อๆ เข้าไปไม่เหลือ

เยอรมัน เกือบได้อีกครั้งในนาที 23 อิลคาย กุนโดกัน จ่ายบอลให้ ลีรอย ซาเน่ ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ สตานิสลาฟ บุชเนฟ ซูเปอร์เซฟปัดบอลออกหลังไปได้

ช่วงทดเจ็บ เยอรมัน มาได้จุดโทษหลังผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์มองว่า ทารอน วอสคันยาน ของอาร์เมเนียไปทำฟาวล์ ฟลอเรียน นอยเฮาส์ ก่อนเป็น อิลคาย กุนโดกัน รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้จบครึ่งแรก เยอรมัน นำ 2-0 

ครึ่งหลังนาที 50 อินทรีเหล็กขยับหนีเป็น 3-0 เมื่อ ไค ฮาแวร์ตซ์ ชิ่งบอลให้ กุนโดกัน แต่งอีกสองจังหวะก่อนยิงหักข้อหน้าเขตโทษ บอลพุ่งตรงตัว สตานิสลาฟ บุชเนฟ แต่นายทวารเจ้าถิ่นทำบอลปลิ้นเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย

เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษบ้างในนาที 59 เมื่อ ฟลอเรียน นอยเฮาส์ ไปเตะข้อเท้าคู่แข่งทำให้ เฮนริค มคิทาร์ยาน ได้โอกาสซัดจุดโทษก่อนยิงผ่านมือ มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น เข้าไปเปลี่ยนสกอร์เป็น 3-1 

ทว่าอีก 5 นาทีถัดมา เยอรมัน หนีเป็น 4-1 เมื่อ โยนาส ฮอฟมันน์ ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนลากต่อเข้าเขตโทษแล้วยิงยัดเสาแรกเข้าไปอย่างแม่นยำ 

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้นทำให้จบเกม เยอรมัน ทิ้งทวนรอบคัดเลือกด้วยการบุกชนะ อาร์เมเนีย 4-1 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อาร์เมเนีย : สตานิสลาฟ บุชเนฟ - ดาวิด เทอร์เทอร์ยาน, วาราซดัต ฮาโรยาน, อังเดร กาลิเซียร์, ทารอน วอสคันยาน, ซีเรย์ร มาร์การ์ยาน - โซโลมอน อูโด, ติกราน บาร์เซ็กห์ยาน, เอดูอาร์ สเพ็ตส์ยาน -  เฮนริค มคิทาร์ยาน - ซาร์กิส อดัมยาน

เยอรมัน :  มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น - โยนาส ฮอฟมันน์, ธิโล เคห์เรอร์, มัทธีอัส กินเทอร์, โจนาธาน ทาห์ - โยนาส ฮอฟมันน์, ฟลอเรียน นอยเฮาส์, อิลคาย กุนโดกัน, ดาวิด รวม -  โธมัส มุลเลอร์, ลีรอย ซาเน่ - ไค ฮาแวร์ตซ์ 

ผู้ตัดสิน : ฟร็องซัวส์ เลเตอซิเย่ร์ (ฝรั่งเศส)