นัดสุดท้าย ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม บี เมื่อคืนวันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีลงสนามกัน 2 คู่ ฝรั่งเศส และ เนเธอร์แลนด ที่คว้าตั๋วเข้ารอบสุดท้ายไปได้แล้ว ลงเล่นนอกบ้านทิ้งทวนไปเยือน กรีซ และ ยิบรอลตาร์ ตามลำดับ

"ตราไก่" ของกุนซือ ดีดีเย่ร์ เดส์ช็องส์ ยังเน้นเต็มที่เพื่อรักษาสถิติชนะ 100 เปอร์เซ็นต์ในรอบคัดเลือก เกมรุกจึงมี อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, ร็องกาล โกโล่ มูอานี่ และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงสนาม ส่วน คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เป็นสำรอง

ฝรั่งเศส ออกนำก่อน 1-0 ในท้ายครึ่งแรกนาที 42 โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ชิ่งให้ โกโล่ มูอานี่ พักอกยิงมุมแคบฝั่งขวาส่งบอลพุ่งเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างดุดัน 

ทว่าครึ่งหลัง กรีซ รัวคืนสองประตูในช่วงเวลา 5 นาที เริ่มจาก อันเดรียส บูชาลาคิส เก็บตกความผิดพลาดในเกมรับของตราไก่ในนาที 56 ต่อด้วย ดิมิทริส จานนูลิส แหวกเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนผ่านให้ โฟติส โยอานนิดิส ตั้งเท้าชาร์จตุงตาข่าย

ท้ายเกมนาที 74 ฝรั่งเศส ต้องมาฮีดตามตีเสมอ 2-2 คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่ลงมาเป็นสำรอง จ่ายบอลจากขวาไปหน้าประตูให้ เซโก้ โฟฟาน่า ตั้งป้อมซัดไกลด้วยขวา บอลพุ่งเสียบตาข่ายเสาไกลสวยงาม ทำให้จบเกม ฝรั่งเศส ได้เพียงเสมอ 2-2 จบรอบคัดเลือกด้วยการมี 22 คะแนน

ส่วนทัพ "อัศวินสีส้ม" เนเธอร์แลนด์ ส่งท้ายได้สวยงามบุำกชนะ ยิบรอลตาร์ 6-0 คาลวิน สเตงส์ กองกลางจาก เฟเยนูร์ด ระเบิดฟอร์มทำแฮตทริกในนาทีที่ 10, 50 และ 62 

อีก 3 ประตูเป็นผลงานของ มัตส์ วีฟเฟอร์ นาที 23, ธูน คูปไมเนอร์ส นาที 38 และ โคดี้ กัคโป นาที 81 ทำให้ เนเธอร์แลนด์ จบรอบคัดเลือกด้วยการมี 18 คะแนน