นิวยอร์ค เจ็ตส์ ตกรอบอย่างเป็นทางการหลังการปราชัยต่อ ไมอามี่ ดอลฟินส์ 0-30 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาพร้อมการสังเวย แซ็ค วิลสัน หลังควอร์เตอร์แบ็กวัย 24 ปีมีอาการคอนคัสชั่น ตามรายงานจากอีเอสพีเอ็น

ฤดูกาลของ เจ็ตส์ เริ่มต้นด้วยความหวังหลังได้รับแรงบันดาลใจจากการมาถึงของ แอรอน ร็อดเจอร์ส แต่อดีตจอมทัพ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ลงเล่นเพียงต้นเกมสัปดาห์แรกที่ชนะ บัฟฟาโล่ บิลล์ส 22-16 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หลังควอร์เตอร์แบ็กวัย 40 ปีเอ็นร้อยหวายฉีกขาด ส่งผลให้เกิดความสับสนอลหม่านเกี่ยวกับตำแหน่งควอร์เตอร์แบ็กหลังจากนั้น 

การปราชัยต่อ ดอลฟินส์ ที่ ฮาร์ดร็อค สเตเดี้ยม 0-30 ทำให้ เจ็ตส์ พลาดตั๋วเล่นเพลย์ออฟอย่างเป็นทางการปีที่ 13 ติดต่อกันยาวนานสุดในบรรดา 4 กีฬาระดับเมเจอร์ของสหรัฐอเมริกา 

เจ็ตส์ ทำระยะบุกเพียง 103 หลาเมื่อเทียบกับ ดอลฟินส์ ที่ทำระยะ 290 หลา ขณะที่ วิลสัน เผชิญชะตากรรมเลวร้ายถูกแซ็ค 4 ครั้งจากการดร็อปแบ็ค 15 ครั้ง และมีอาการคอนคัสชั่นในช่วงควอเตอร์สองหลังการขว้างคอมพลีต 4 จาก 11 ครั้ง ระยะ 26 หลาจนถูกถอดออกจากเกม โดยมี เทรเวอร์ ซีเมียน ลงเล่นแทน เขาขว้างคอมพลีต 14 จาก 26 ครั้ง ระยะ 110 หลา ไม่มีทัชดาวน์ เสีย 2 อินเตอร์เซปน์ และถูก 2 แซ็ค

หาก วิลสัน ไม่สามารถเคลียร์อาการศรีษะกระทบกระเทือนเพื่อกลับมาลงเล่นกับ วอชิงตัน คอมแมนเดอร์ส ในวันอาทิตย์หน้า นั่นจะทำให้ เจ็ตส์ กลายเป็นทีมที่ 4 ที่ใช้ควอร์เตอร์แบ็ก 4 คนออกสตาร์ทในซีซั่นเดียวกันนับตั้งแต่ปี 1989 

จากสถิติ 5-9 ยังทำให้ เจ็ตส์ พบกับฤดูกาลที่แพ้มากกว่าชนะ 8 ปีติดต่อกัน ซึ่งเป็นสถิติยาวนานสุดของเอ็นเอฟแอล และนั่นหมายถึงการตัดความเป็นไปได้ในการหวนคืนสนามในซีซั่นนี้ของ ร็อดเจอร์ส ไปโดยปริยาย

'มันน่าผิดหวังตั้งแต่ซีรี่ส์แรกของปีจนถึงตอนนี้' ซาเลห์ เฮดโค้ช เจ็ตส์ ที่ทำสถิติ 16-32 กล่าว 'มันเป็นการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง' 

ส่วน ซอช การ์ดเนอร์ คอร์เนอร์แบ็ก เจ็ตส์ ยอมรับว่าทีมใช้โอกาสสิ้นเปลืองในการดึง ร็อดเจอร์ส กลับมาว่า 'งานของเราคือการคว้าชัยชนะต่อไป และหากเราชนะก็จะนำเขากลับมา ใช่แล้ว (เราทำให้เขาผิดหวัง) แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในใจทุกคน ท้ายที่สุดแล้ว เราแค่อยากจะชนะ'